เรื่อง พลิกเกมล่า ท้ามฤตยู
ทุกคนตะลึงงันเมื่อเห็นไอ้ศักดิ์ล้มคว่ำไปต่อหน้าต่อตา ขุนได้สติก่อนใครก็กระชากปืน M16 ไอ้คนี่ยืนอยู่ใกล้สุด และถีบอย่างเต็มแรงมันเซไปกระแทกเพื่อนมันี่ยืนถัดไปเสียหลัก ขุนกดไก M16 ี่แย่งมาได้รัวใส่ไม่ยั้ง ปังๆๆๆๆๆๆๆ พงศืพลิกตัวกลิ้งไปหยิบปืนแต่ไม่ทันได้ยิง เปรี้ยง ๆ เมียของพงศสอยอีกสองคนี่เหลือ ร่วงผล็อยตายสนิทเพราะเธอเจาะเข้ากะโหลกทุกนัด เอื้องคำ เสียงพงศพึมพำในลำคอ "เมียมึงแม่นกว่ามึงจริงๆว่ะพงศ์" เอื้องคำเมียของพงศ์ยืนตัวสั่นด้วยความกลัว เพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิต พงศ์เดินเข้าไปโอบกอดและปลอบในเธอให้หายจากการตกใจในเหตุการณ์ี่เกิดขึ้น ตั้งสติได้เธอก็รีบเดินไปี่หลุมหลบภัยอยู่กับลูกของเธอ "ช่วยกันจัดการกับศพพวกนี้ก่อน" ขุนบอก "เดี๋ยวเอาพวกมันไปโยนทิ้งในหุบนั่นครับหมวด ให้เป็นอาหารของสัตว์ป่าดีกว่าเสียเวลาขุดหลุมฝัง" ขุนเห็นด้วยเพราะเวลาเหลือน้อยจะขุดหลุมฝังพวกมันคงไม่ทัน จัดการส่งศพพวกนั้นลงหุบเรียบร้อยแล้ว คนทั้งสองก็ออกเดินทางไปยังจุดี่นัดหมายกับผู้กองเดชา
รินาบ้านเช่าี่พักฟื้นอยู่กับขุนและอิ๋ว ก็เข้าพักโรงแรมเล็กๆสังเกตุการณ์อยู่หนึ่งคืน ทุกอย่างไม่มีอะไรผิดปกติก็าโรงแรมเดินข้ามฟากเข้าไปในซอยเล็กๆ มาหยุดอยู่ี่รั้วหลังบ้านในซอยนั้น เขาไขกุญแจประตูเหล็กบานเล็กๆเปิดเดินตรงเข้าไปยืนอยู่ี่ประตูหลังบ้าน ยืนดูเพียงชั่วครู่ก็ไขกุญแจเข้าไปในบ้าน "พี่มีน" ผู้หญิงร่างเล็กผมยาวอายุราวสามสิบหันมาตามเสียเรียก "เมศ เธอเป็นอะไรเนี่ย" มีนชญาหรือมีนพี่สาวของรินอาชีพเป็นหมอศัลยกรรมความงาม เธอตกใจเมื่อเห็นสภาพของน้องชายี่หน้าซีดปากซีด ใบหน้าซีกซ้ายปิดผ้าก๊อซปะทับด้วยพลาสเตอร์ รินนั่งลงโ้วยอาการระโหยโรยแรง หมอมีนก็เดินไปรินน้ำมาให้ดื่มหมดแก้ว "ผมโดนยิงครับพี่" รินตอบสั้นๆ "เธอจะหยุดได้เมื่อไหร่ พี่ไม่อยากเสียเธอไปอีกคนเข้าใจไหม" เธอบอกด้วยความเป็นห่วงน้องชายคนเดียวี่เหลืออยู่ "ยังครับพี่ผมกำลังตามและสาวใกล้ถึงพวกี่บีบให้พ่อแม่เราฆ่าตัวตาย แล้วพลอยทำให้ย่าตรอมใจตายไปอีกคน" รินบอกพี่สาวด้วยเสียงแหบพร่า "เื่มันผ่านไปหลายปีแล้ว พี่อยากให้เธอปล่อยวางบ้าง ถ้าเธอเป็นอะไรไปอีกคนแล้วพี่จะทำยังไง" หมอมีนยังคงอยากให้น้องชายยุติเื่ราวทั้งหมด แต่รินแค้นฝังใจไม่อาจืได้ ึลาาหน่วยพิเศษี่อเมริกาัมาสืบหาเื่ราวต่างๆ มีนชญาก็เป็นแพทย์ศัลยกรรมอยู่ในอเมริกาเหมือนกัน ทั้งคู่ัมาพร้อมกันเมื่อรู้ข่าวการตายของพ่อแม่จากคุณย่าของพวกเขา ย่าของพวกเขาเล่าว่าพ่อพวกเขาถูกคนกลุ่มหนึ่งร่วมกันโกง ตามรังควาญไม่หยุดหย่อนทั้งหาทางบีบทุกทางทั้งสอง้ฆ่าตัวตาย ถามถึงเื่การพิสู์พลิกศพัไม่มีข้อมูลใดๆ สองพี่น้องึไม่เชื่อว่าพ่อกับแม่ฆ่าตัวตายเอง หลังจากี่รินเริ่มตามสืบก็ถูกตามเก็บตามล่าตามล้างตลอดเวลา มีนชญากลัวว่าน้องชายจะเป็นอะไรไปอีกคน เธอก็คอยขอร้องให้น้องชายหยุดตามสืบเื่นี้แล้วัอเมริกาด้วยกัน แต่รินไม่ยอมบอกให้พี่สาวัไปก่อนตนจะตามไปภายหลัง มีนชญาึจำเป็น้อยู่ต่อโดยการเปิดคลีนิคศัลยกรรมความงามตามี่เธอถนัด "พี่ครับ ช่วยศัลยกรรมเปลี่ยนหน้าให้ผมได้หรือเปล่า หากสืบครั้งนี้ไม่สำเร็จผมจะัอเมริกาพร้อมพี่" เธอนั่งมองหน้าน้องชายอยู่นานสมควรแล้วถอนหายใจยาว "พี่รับปากก็ได้แต่มีข้อแม้อยู่หนึ่งอย่าง ถ้าครั้งไหนเสี่ยงมากเกินไปเมศ้ไม่บุ่มบ่าม รักษาชีวิตไว้เพื่อพี่นะ" รินพยักหน้าช้าๆ "พี่เอาเอกสารนายสุรินทร์ทั้งหมดเผาทิ้งด้วยนะครับ ผมจะใช้เอกสารเดิมชื่อเดิมทั้งหมด" เธอตอบโอเคเพราะรินไม่ได้ใช้นามสกุลพ่อตั้งแต่ต้น เขาใช้นามสกุลของยายตั้งแต่เกิดไม่เหมือนมีนชญาี่ใช้นามสกุลพ่อ ถ้ารินใช้ชื่อเดิมนามสกุลเดิมก็เท่ากับไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพ่อแม่เลย เพราะแม่ของเขาก็ใช้นามสกุลตาซึ่งไม่ได้จดทะเบียนกับยาย "มีอะไรเพิ่มเติมอีกมั้ยบอกมาทีเดียวเลย" หมอมีนถามน้องชาย "มีครับ พี่ช่วยลบลอยแผลเป็นตรงรอยผ่ากระสุนี่ท้องผมด้วย และลงรายละเอียดในการศัลยกรรมโดยการเพิ่มชื่นเล่นให้ด้วยนะครับ ไม่ใช่ชื่อเมศนะผมจะใช้ชื่อ พราน .. พรหมเมศ แพรนิล เวลาทำบัตรจะได้มีเอกสารประกอบ" เธอพยักหน้ารับแต่สายตาเธอก็ยังมีแววกังวลด้วยความห่วงใยน้องชายของเธอ
ชัยกับผู้กองทหารราบพร้อมทหารอีกสามสิบนาย ดักซุ่มรอพวกลำเลียงส่วนผสมยาเสพติดอย่างเงียบเชียบ "หมวด" ผู้กองทหารราบเรียกเบาๆพร้อมปรายตาไปี่ช่องทางเล็กๆในป่านั้น "คงเป็นพวกนำทางมาดูลาดเลาล่วงหน้า" เขาบอกชัยเมื่อหันไปเห็นกระเหรี่ยงหนุ่มวัยกระทงสองคนสะพายปืนอาก้าเดินมา สองคนนั่นยืนมองซ้ายมองขวาแล้วมองไปรอบๆอย่างช้าๆก่อนเดินัไป "ครั้งนี้พวกมันคงจะขนมาล็อตใหญ่แน่ๆ ถ้ามีคนมาคอยสอดส่องนำหน้าตลอดทางแบบนี้" ผู้กองทหารราบพูดออกมากึ่งๆถามไปในตัว "ครับผู้กองรอบนี้มากกว่าทุกครั้งี่ผ่านมา" ชัยตอบัเบาๆ "หมวดมีสายในนั้นใช่มั้ย ถึงได้มั่นใจว่าของรอบนี้มากกว่าทุกครั้ง" ผู้กองถามต่อเพราะชัยเพิ่งจบมาทำงาน ทำไมถึงได้มีสายอยู่ในวงการนี้เร็วนัก "เปล่าครับ เจ้าหน้าี่ฝั่งโน้นรู้จักกันเขาแจ้งมาครับ" เป็นคำตอบี่ทำให้ผู้ตามไม่อยากถามต่อเพราะมันกว้างเกินไปี่จะถาม
ทางด้านขุนกับพงศ์เข้ามาสมทบกับผู้กองเดชา และตำรวจตระเวณชายแดนอีกยี่สิบห้านาย ขุนทำความเคารพผู้กองเดชา "ไม่้พิธีเยอะหรอกน่าหมวด" ผู้กองเดชาบอกยิ้มๆ "ไม่ได้ครับพี่ถึงจะอยู่คนละสังกัด ผู้น้อยก็้เคารพผู้ใหญ่ครับ" ผู้กองเดชายิ้มให้อีกครั้งแล้วส่งสัญญาณให้ออกเดินทางได้ พงศ์นำทางเข้าป่าไปี่แคมป์ผลิตยา "จากจุดนี้เข้าไปตามทางอีกร้อยเมตรก็ถึงแล้วครับ" พงศ์หันไปบอกขุนกับผู้กองเดชา ผู้กองเดชาก็ส่งสัญญาณให้ทุกคนหยุด "ทุกคนเอาเข็มทิศออกมา เราจะเดินไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ แต่จะเดินไปตามรอยเดิมี่มีอยู่แล้วไม่ได้ เราจะแยกออกเป็นสองกลุ่มเข้าไปในป่าทั้งสองด้าน เมื่อเข้าไปในป่าแล้วให้ทุกคนพักรอกว่าจะมืด แล้วค่อยเดินไปด้วยความไม่ประมาทเข้าใจหรือไม่" ทุกคนพยักหน้ารับเมื่อผู้กองถามท้ายประโยค พงศ์ก็ขอตัวไปี่กำนันโนชย์ตามแผนี่คุยกันไว้ "เดี๋ยวพงศ์ ให้หมู่เด่นไปด้วยหากเกิดผิดพลาดจะได้ช่วยกัน" ผู้กองเดชาบอกจบหมู่เด่นก็ก้าวออกไปกับพงศ์โดยไม่รอให้สั่งซ้ำ หมู่เด่นกับพงศเดินออกไปจากี่นั่นแล้ว เจ้าหน้าี่ทั้งหมดก็นั่งลงรอตะวันตกดินก่อนึจะเดินต่อไปได้ตามี่ผู้กองเดชาสั่งไว้ "ไม่รู้ว่าทางหมวดชัยจะเป็นยังไงบ้างตอนนี้" ผู้กองเดชาพูดกับขุนด้วยความเป้นห่วง "ผมคิดว่าน่าจะลุล่วงไปด้วยดี ผมเชื่อมือมันและทีมของผู้กองทหารราบทีมนั้น เหมือนอย่างี่ผมเชื่อมั่นในตัวพี่กับทีม ตชด.ชุดนี้แหละครับ" ขุนบอกด้วยความมั่นใจในความรู้สึกจริงๆ เจ้าหน้าี่ทุกคนก็มีแววตาและสีหน้ามั่นใจ เมื่อได้ยินประโยคสุดท้ายเหมือนคำปลุกขวัญกำลังใจให้กับทุกคน
บ่ายสามโมงกว่าพวกลำเลียงค่อยๆโผล่มาจากมุมป่า มองดูคร่าวๆกลุ่มี่คุมการลำเลียงมีราวๆห้าสิบคนขึ้นไป เกวียนนับสิบเล่มมีวัวสองตัวลากนำหน้าทุกเล่มเกวียน บนเกวียนมีของบรรทุกเต็มคอกทุกเล่มเช่นกัน เป็นล็อตใหญ่จริงๆตามคาดและตามข่าวี่ได้มา พวกนั้นเดินสะพายปืนกันอย่างสบายอารมณ์ โดยหารู้ไม่ว่าหามัจจุราชกำลังคอยต้อนรับอยู่ข้างหน้าอย่างไม่รู้ตัว กลางขบวนลำเลียงมีคนคอยส่องกล้องทางไกล ด้านซ้ายสามคนด้านขวาก็สามคนเท่ากัน ส่องส่ายกล้องดูไปข้างหน้าและข้างๆทั้งในป่าและโขดหินใหญ่ๆ หากมีปลายลำกล้องปืนพาดโผล่จุดไหนก็คงไม่พ้นสายตาไปได้ แต่ผู้กองทหารผ่านเหตุการณ์ต่างๆมามากตัว เขาได้สั่งทหารทุกนายไว้ก่อนแล้วว่า ให้นอนราบรอเหยื่อผ่านไปก่อนแล้วึค่อยปลดล็อคไกปืนรอคำสั่งยิง ทหารทุกคนึนอนนิ่งแม้แต่การหายใจ คนอยู่ใกล้ๆยังแทบไม่ได้ยิน ปล่อยให้พวกนั่นลากเกวียนผ่านไปอย่างใจเย็น รอให้พวกมันทั้งหมดอยู่ในวงล้อมเสียก่อน ึจะสั่งการให้ยิงกระหน่ำลงไปให้ด่าวดิ้นกันทุกคน อย่างไม่้สนถึงคำว่ามนุษยธรรมใดๆอีก "ไอ้ส่างโต่ง" ผู้กองพึมพำ "ผู้กองรู้จักมันด้วยหรือครับ" ชัยกระซิบถามเบาๆ "เมื่อปีก่อนลูกน้องผมลาับ้านห้าคน ไอ้ส่างโต่งมากันสิบกว่าคนรุมยิงพวกเขาตายหมด ทั้งี่พวกเขายืนรอรถกันมือเปล่าๆ" ผู้กองทหารราบพูดน้ำเสียงราบเรียบเหมือนไม่มีอะไร แต่แววตานั้นเล่าแฝงความอำมหิตอย่างน่าพิศวง พวกนั้นเดินเข้าวงล้อมอยู่ในวิถีกระสุน ทหารทุกคนก็ยังนิ่งไม่ขยับตัวแม้แต่น้อย ทั้งหมดรอสัญญาณจากผู้บังคับบัญชาอย่างมีวินัย ชัยก็้นอนมองนิ่งๆไม่กล้าผลีผลามเหมือนกัน ปัง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ เสียง M16 ชดแรกาปลายกระบอกปืนของผู้กอง พวกมันร่วงลงพื้นนอนแน่นิ่งไปห้าคน ยังไม่ทันจะสิ้นเสียงปืนของผู้กองทหารราบ เสียงM16อีกสามสิบกระบอกก็รัวตามถี่ยิบเกือบจะพร้อมกัน ปัง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ปัง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ปัง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ปัง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ คนพวกนั้นร่วงลงไปตายคนแล้วคนเล่าร่วมๆสามสิบคน ส่วนี่ยังรอดอยู่ต่างก็กระโดดเข้าี่กำบังกันจ้าละหวั่น ปร๊อดดดดดด ปร๊อดดดดด ปร๊อดดดดดด เสียงอาก้ายิงสวนัอย่างไม่มีเป้าหมาย "จัดการพวกมันให้หมดก่อนอาทิตย์ตกดิน" ผู้กองตะโกนสั่งแล้วกลิ้งตัวาจุดนั้น ชัยก็ไม่ต่างกันกลิ้งย้อนัไปคนละทางกับผู้กอง ปร๊อดดดดด ปร๊อดดดดด ลูกปืนอาก้าตัดกิ่งไม้ตรงี่ผู้กองกับชัยนอนอยู่เมื่อครู่ขาดสะบั้น ชัยไม่กดรัวเขามองหาเป้าแล้วเก็บทีละคน หากสถานการณ์ไม่ได้เปรียบก็คง้รัวใส่เหมือนๆกัน มีเสียงตะโกนยอมแพ้จากบางคนเพราะมันรู้ดีว่า ถ้าโดนจับเดี๋ยวก็มีคนช่วยให้ปล่อยออกไปอีก มันตะโกนกันเสียงหลงยอมแพ้ชูปืนขึ้นแล้วเดินออกมาได้สองสามก้าว ก็้หงายท้องตายสนิททันที เพราะทุกคนประชุมก่อนี่จะออกมาปฏิบัติการครั้งนี้ จะไม่มีการจับเป็นให้พวกมันออกไปขนมาได้อีก ทุกคนี่ร่วมขบวนมา้ตายหมดทุกคนไม่ยกเว้นทุกกรณี ชัยหันมองไปทางผู้กองทหารราบ ผู้กองหายไปไหน ชัยคิดในใจ เพ่งมองเห็นอยู่ห่างออกไปร่วมๆสามสิบเมตร นอนหมอบนิ่งเหมือนพยัคฆ์หมอบรอตะครุบเหยื่อ "พวกเรายอมแล้วครับ ได้โปรดอย่ายิง" เสียงพวกนั้นตะโกนาข้างโขดหินเล็กๆ ปร๊อดดดดด ไอ้ส่างโต่งยิงไอ้คนตะโกนยอมแพ้ดิ้นขาดใจตายตรงนั้น เสียงปืนเงียบสนิทไม่มีการยิงตอบโต้กันเหมือนตอนแรก ปร๊อดดดดด ปร๊อดดดดดด ไอ้ส่างโต่งกับลูกน้องคู่ใจอีกห้าคนยิงออกมา แต่ก็ไม่มีการยิงโต้ัจากทหารไทยแต่อย่างใด พวกมันได้ใจลูกน้องี่อยู่ข้างไอ้ส่างโต่งทั้งห้าคน ก็ลุกขึ้นยืนหวังยิงปืนอาก้ากราดให้ทั่ว ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง เสียงปืนจากทหารห้าคนยิงคนละนัดเข้าหัวพวกนั้นทุกคน ทั้งห้าคนหงายท้องสิ้นใจตายก่อนี่จะเหนี่ยวไกปืน ไอ้ส่างโต่งเห็นลูกน้องตายหมดแล้วมันก็คลั่งยิงสาดไปทั่ว ปร๊อดดดดดด ปร๊อดดดดดดด ปร๊อดดดดดดด ผู้กองส่งสัญญาณให้ทุกคนหยุดยิง ไอ้ส่างโต่งเปลี่ยนแม็กกระสุนอาก้าเสร็จก็ยิงกราดเดาสุ่มมาอีก ปร๊อดดดดดด ปร๊อดดดดดด .. ปัง เสียงM16จากผู้กองหนึ่งนัดพุ่งเข้าไหล่ซ้ายของมัน มันทรุดนั่งหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด ไอ้ส่างโต่งเหมือนเริ่มจะกลัวความตายมันลุกขึ้นวิ่ง ปัง ผู้กองยิงเข้าขาอ่อนข้างขวาทำให้มันล้มลงร้องครวญครางลั่นป่า มันพยายามยันกายลุกขึ้นนั่ง ปัง ไหล่ขวามันทะลุเลือดไหลเป็นทาง มันร้องเสียงดังลั่นมากกว่าเก่า "มึงฆ่ากูเลยสิวะ มึงจะทรมานกูทำไม" มันดึงปืนสั้นาเอวหวังปิดชีพตัวเอง ปัง ผู้กองยิงเข้าไปี่ขาอ่อนข้างซ้ายมันสะดุ้งปืนหลุดจากมือ มันพยายามจะควานมือหาปืนแต่เรี่ยวแรงไม่มีจะถือปืนได้ เพราะหัวไหล่ทั้งสองข้างมันโดนเจาะทะลุไปแล้ว ผู้กองทหารราบเดินไปยิงไปกระทั่งยืนอยู่ตรงหน้ามัน "เมื่อปีก่อนมึงพาคนรุมฆ่าลูกน้องกูห้าคน กูยิงมึงไปแล้วสี่นัด นัดสุดท้ายมึงจะให้กูยิงตรงไหนบอกมาได้เลย" ไอ้ส่างโต่งหน้าซีดเผือดมันกลัวตายเอาดื้อๆ "จับผมส่งทางการเถอะครับ ผมยอมแล้ว ผมยังไม่อยากตาย" มันร้องอ้อนวอนขอชีวิต "ถ้ามึงยังไม่อยากตาย กูก็จะปล่อยมึงไป" ผู้กองบอกไอ้ส่างโต่งอย่างนั้นทหารทุกคนก็ทำหน้างงรวมทั้งชัยด้วย ผู้กองทหารราบเงยหน้ามองฟ้า "น้องๆทั้งห้าคน จะมารับมันไปหรือไม่ก็แล้วแต่พวกน้องนะ พี่จัดการให้แค่นี้ก็เพียงแล้ว" พูดจบเขาก็ยิงปืนขึ้นฟ้า ปัง ยิงแล้วก็เดินออกมาจากไอ้ส่างโต่ง "เดี๋ยว ๆ จับผมไปเถอะ อย่าทิ้งผมไว้แบบนี้เลย เอาผมไปด้วย" ผู้กองไม่หันไปมองมันเหมือนไม่ได้ยินี่มันร้องขอ ชัยและทหารทุกคนเข้าใจว่าผู้กองคงแค้นี่ลูกน้องของตนเคยโดนรุมยิงตาย ทั้งี่ผู้กองไม่เคยพูดว่ารักลูกน้องแม้แต่คำเดียว แต่การกระทำในวันนี้ลูกน้องทุกคนถึงเข้าใจได้ว่า ใจจริงนั้นผู้กองรักและแค้นแทนถ้าใครมาทำลูกน้องของเขา ภายนอกี่ทุกคนเคยเห็นผู้กองจะเป็นคนใจดียิ้มง่าย แต่ใครจะรู้ว่าเมื่อถึงเวลาี่จะโหดผู้กองอำมหิตี่สุด ไอ้ส่างโต่งมันไม่มีทางรอดไปได้อยู่แล้ว หรือแม้แต่อยากจะฆ่าตัวตายอย่างเฉียบพลันมันก็ทำไม่ได้ เพราะมือมันไม่มีทางี่จะหยิบปืนยิงตัวเองได้เลย หนทางเดียวคือมัน้ทรมานอย่างสุดแสนก่อนขาดใจ ชัยอยากจะช่วยส่งให้มันตายไปเดี๋ยวนั้นก็ไม่กล้าแม้แต่จะขอร้องผู้กอง ก็คง้ให้มันตายช้าๆอย่างโดดเดี่ยวในป่านั้น ทหารทั้งหมดต่างก็ช่วยกันจัดการเผาวัตถุในเกวียนทิ้งทั้งหมด บ้างก็ลากจูงวัวี่ยังไม่ตายัค่าย บ้างก็ช่วยกันแร่เนื้อวัวี่ถูกลูกหลงตายแบกัฐานตัวเอง
ห้าโมงเย็นพงศ์กับหมู่เด่นยืนอยู่ข้างบ้านเมียน้อยของกำนันโนชย์ เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวในสวนลำใยี่ยังไม่ออกดอกออกลูก ทั้งคู่มองหารอยแตกของฝากระดาน สิ่งี่เห็นในบ้านเป็นชายหญิงคู่หนึ่งกำลังเริงรักกันอย่างเมามัน เมียน้อยของกำนันกำลังขึ้นควบม้าอย่างเอาเป้นเอาตาย แต่คนี่นอนเป็นม้าให้อยู่นั้นัไม่ใช่กำนันโนชย์ นั่นมันไอ้หาญลูกน้องกำนันนี่หว่า พงศ์คิดในใจแล้วหันไปมองหน้าหมู่เด่น แต่หมู่เด่นไม่หันมองมองด้วยเพราะกำลังเพลินกับหนังสดในบ้านหลังนั้น โครมมม เสียงถีบประตูหน้าบ้านเปิดออก "พวกเดรัจฉานเลี้ยงไม่เชื่อง" ปัง ปัง ปัง กำนันโนชย์ยิงใส่ลูกน้องคนสนิทและเมียน้อยทั้งคู่ตายสนิท ด้วยความโกรธจัดมันเดินเข้าไปยิงรัวใส่เมียน้อยหมดลูกโม่ ปัง ปัง ปัง เมียน้อยกำนันโนชย์ถึงกับตายแล้วตายอีก ยิงเสร็จก็เดินัไปี่รถซึ่งจอดห่างจากบ้านประมาณ "จะรีบไปไหนล่ะกำนัน" กำนันโนชย์หันมาทางเสียงี่ถามชักปืนออกมายิงใส่ แชะ แชะ แชะ "ก็ยิงหมดลูกโม่แล้วไม่รู้รึไง" พงศ์ถาม "ไอ้พงศ์ เด็กปลายแถวอย่างมึง อย่าเสือก" พงศ์ไม่คุยต่อ ปัง ปัง ลูก 9มม.เจาะเข้าหน้าผากและลำคอกำนันโนชย์ตายสนิท ถือว่าเสร็จสิ้นภารกิจของพงศ์และหมู่เด่น
หกโมงกว่าๆในป่าใหญ่ก็มืดมิดไปทั่วบริเวณ ผู้กองเดชาสังสัญญาณให้ทุกคนเคลื่อนพลไปยังแคมป์ผลิตยา ทั้งหมดหยุดยิ่งอยู่ห่างจากแคมป์ไม่ถึงห้าสิบเมตร แสงไฟจากรถสองคันวิ่งผ่านป่าี่กลุ่มของผู้กองเดชาและขุนเข้าไปจอดในแคมป์ มีคนก้าวลงจากรถทั้งสองคันหกคน ไอ้จ่าสิน ขุนสบถอยู่ในใจแล้วค่อยๆคลานาตรงนั้นหายเข้าไปในความมืด ตำรวจตระเวณชายแดนทุกคนนอนหมอบเงียบสนิท เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงกว่าๆผู้กองเดชาก็ส่งสัญญาณบุก ปัง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ปัง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ปัง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ กลุ่มี่อยู่กับผู้กองเดชายิงเปิดฉากเสร็จแล้วก็นอนหมอบราบลง พวกี่อยู่ในแคมป์ร่วงลงเป็นทิวแถวพวกี่เหลือก็ยิงสวนออกมา ปัง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ปัง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ เศษกิ่งไม้ใบไม้ขาดปลิวว่อนลูกกระสุนก็เฉียดหัวทุกคนไปอย่างหวุดหวิด ตำรวจตระเวณชายแดนอีกกลุ่มก็ยิงใส่พวกนั้นทันที ปัง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ปัง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ปัง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ยิงแล้วก็หมอบนอนราบพื้นดังเดิม แต่พวกมันร่วงลงล้มตายแทบไม่เหลือ พวกนั้นเหลืออีกหกคนรวมทั้งจ่าสินไอ้เลี๊ยบ เวียงพิง และลิ้วล้ออีกสี่คน พวกมันนอนหมอบอยู่กับี่ "พวกเรายอมแพ้แล้ว" เสียงไอ้จ่าสินตะโกนออกมา แต่ไม่มีเสียงตอบัจากกลุ่มี่บุกเข้ามาแม้แต่คำเดียว "เอาไงดีวะจ่า พวกมันไม่ยอมตอบมาเลยสักคำ" ไอ้เลี๊ยบขอความเห็น "เอาน้อยหน่าให้มันกินสิวะ มึงสามคนปาไปทางี่มันยิงมาชุดแรก กูกับไอ้สองคนนี้ปาไปทางี่ยิงมาชุดหลัง ปาไปแล้วก็รีบลุกวิ่งเข้าป่าด้านหลังโน้นหนีไปด้วยกัน" สิ้นคำบอกของจ่าสินไอ้เลี๊ยและทุกคนพยักหน้ารับพร้อมๆกัน "กูจะนับหนึ่งถึงสาม เตรียมตัว หนึ่ง สอง สาม" ตูม ๆ ๆ ตูม ๆ ๆ พวกมันปาระเบิดน้อยหน่าออกไปพร้อมกันแล้วลุกวิ่งตามแผน ปัง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ปัง ๆ ๆ ๆ ๆ พวกมันร่วงสิ้นใจตายไปสองคน เหลือสี่คนกำลังวิ่งหนีเข้าป่าอย่างไม่คิดชีวิต เปรี้ยง เปรี้ยง เสียงปืนสั้นขนาด 9 มม. สองนัดเข้ากลางหลังไอ้ลิ่วล้อหนึ่งนัด อีกนักเข้าี่ขาของไอ้เลี๊ยบล้มกลิ้งร้องโอดโอย อีกสองคนไอ้จ่าสินพร้อมลิ่วล้ออีกคน วิ่งเข้าป่าไปในความมืดไม่เหลียวหลังหันมามองเพื่อนอีกเลย ขุนไม่ได้ตาอีกสองคนี่หนีไปได้ เดินเข้าไปี่ไอ้เลี๊ยบี่นอนเอามือกุมขาหน้านิ่วคิ้วขมวด อีกคนร้องขอความช่วยเหลือเลือดก็ทะลักออกไม่หยุด ขุนเลยสงเคราะห์ไม่ให้ทรมานอีกต่อไป เปรี้ยง มันตายสนิททันที ไอ้เลียบตกใจในภาพี่เห็นงานนี้คงไม่รอดแน่ เพราะเจ้าหน้าทีคงจะไม่จับกุม คงจะใช้วิธียิงทิ้งแล้วอ้างตายในการต่อสู้ มันรีบชิงพูดก่อนเมื่อผู้กองเดชาเดินมาถึง "อย่าฆ่าผมเลยครับเจ้านาย มีอะไรผมจะบอกหมดทุกอย่าง" มันพยายามเรียกร้องความเห็นใจ "หมวดจะจัดการมันยังไงก็ตามใจหมวด" พูดจบผู้กองเดชาก็เดินเข้าไปในบริเวณแค้มป์แล้วจุดไฟเผาทิ้งทั้งหมด "มึงจะให้กูทำยังไงกับมึงก็บอกมา" ขุนถามมันตรงๆ "ผมยอมแล้วครับ หมวดอย่าวิสามัญผมเลย อยากรู้อะไรผมบอกทุกอย่างครับ" มันพร้อมหักหลังทุกคนขอเพียงให้มันรอดตายก็ "ถ้ามึงบอกกูโดยไม่ปิดบัง กูก็จะไม่วิสามัญมึงแต่กูก็ไม่ได้ปล่อยไป เบาี่สุดคือส่งมึงเข้าคุก แล้วแต่มึงจะเลือกเอา" มันนอนมองขุนคิดว่าขุนคงไม่มีข้อมูลอะไรจะถามมัน "ผมจะบอกอะไรดีละหมวด ในเมื่อสิ่งี่จะบอกโดนเผาไปหมดแล้วนั่นไงครับ" มันโบ้ยปากไปทางแคมป์ี่ผู้กองเดชาสั่งเผาทั้งหมด "จะถามว่ามีแคมป์ผลิตยาตรงไหนอีก มึงตอบดีๆก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น" ขุนไม่สนลูกเล่นอะไรของมันถามออกไปตรงๆ "ก็มีี่นี่ี่เดียวแหละครับ เพราะกะว่าจะทำล็อตสุดท้ายแล้วก็จะเลิก" เปรี้ยง โอ๊ยยยยย ขุนยิงขาของมันอีกข้างโดยไม่ถามอะไรอีก แล้วเขาก็ค่อยๆเลื่อนปลายกระบอกปืนไปี่ท้องของมัน "เดี๋ยว เดี๋ยวก่อนครับเจ้านาย แถวนี้มีแคมป์เดียวจริงๆ ไอ้จ่าสินมันจะทำี่บ้านมันแทนโดยไม่ตั้งแคมป์อีก และต่อไปก็จะทำตามบ้านไม่ตั้งแคมป์กันอีกแล้ว แคมป์นี้เป็นแคมป์สุดท้ายจริงๆ" มันบอกเสียงสั่นน้ำตาก็ไหลพรากด้วยความเจ็บปวดอย่างมาก "ถ้ามึงไม่พูดเล่นลิ้นกวนส้น-ีนกูเมื่อกี้ มึงก็จะไม่เจ็บเพิ่มหรอกว่ะ" ขุนชูมือเรียกให้คนมาเอาตัวมันไปด้วย ไอ้เลี๊ยบมองยาี่ผลิตถูกเผาไปอย่างเสียดาย ยาบ้าเกือบห้าพันมัดกำลังรอรถมารับไป้โดนเผาทิ้งทั้งหมด "เอารถัไปทุกคันอย่าให้เหลือ" ผู้กองเดชาสั่งลูกน้องคนหนึ่งเดินมาบอก "ไม่มีกุญแจหนึ่งคันครับ" ผู้กองเดชาคิดแป๊บเดียวก็สั่ง "อย่างนั้นก็ระเบิดทิ้งไปซะ" ขุนเดินมากระซิบผู้กองเดชาก็เลยสั่งการใหม่ "หมวด คุณคิดว่าไอ้สินมันจะรู้ไม่ทันหรือว่าเราเอาระเบิดเสียบไว้ี่ล้อรถ" ผู้กองเดชาถาม "แน่นอนมัน้รู้อยู่แล้ว มันจะได้ไม่สงสัยไงครับ ว่าทิ้งรถไว้ให้มันทำไม" แล้วทั้งหมดก็เคลื่อนพลัด้วยรถยนต์สามคันของไอ้พวกนั้น รถคันี่เหลือเป็นของจ่าสินี่พกเอารีโมทรถไปด้วย เวลาผ่าไปเกือบชั่วโมงจ่าสินกับลูกน้องของมันี่อยู่ในป่าใกล้ๆแคมป์ "พวกมันัไปกันหมดแล้วพี่จ่า เราเข้าไปเอารถักรุงเทพฯกันเถอะ" ลูกน้องมันบอกแต่จ่าสินเอามือกุมท้อง "มึงไปี่รถก่อนเดี่ยวกูตามไป กูปวดขรี้" จ่าสินกลัวเป็นกับดักึหลอกให้ลูกน้องออกไปเช็คกรรมดูก่อน ไม่เห็นว่ามีอะไรมันึเดินตามออกไป มันก้มดูตามล้อรถทุกล้อแล้วมันก็ยิ้มออกมา "ไอ้พวกไร้ประสบการณ์ กูนึกว่าจะฉลากเก่งกาจสักแค่ไหน กูไม่หลงกลง่ายๆหรอกว่ะ" มันพูดไปดึงระเบิดออกไปปาทิ้งให้พ้นจากตรงนั้น ตูม ๆ เอาระเบิดทิ้งไปแล้วมันก็ขับาี่นั้น
ผู้กองเดชาไม่เข้าใจว่าทำไมขุนถึงไม่ให้ระเบิดรถทิ้ง "ถามจริงๆเถอะหมวด ทิ้งรถไว้ให้มันหนีไปอีกทำไม" ขุนหันไปแกล้งถอนหายใจยาว เฮ้ออออ "ความจริงผมอยากจะจัดการกับมันเลย ตอนจ่าสินมันวิ่งหนีเข้าป่าถ้าผมจะยิงมันก็คงไม่รอดหรอก แต่ผมรับปากมันไว้แล้วว่าจะปล่อยให้รอดสองครั้งถ้าเจอมัน ผมก็เลยไม่ยิงมันและทิ้งรถไว้ให้มันหนีรอดได้ไงครับ" ขุนบอกอย่างไม่ปิดบัง "เดี๋ยวก่อนนะหมวด คุณจะเอาเื่ส่วนตัวมารวมกับงานไม่ได้ จับได้ก็้จับอย่าเอาเื่ส่วนตัวมาแลกเปลี่ยนกับภารกิจ" ผู้กองเดชาพูดเชิงตำหนิน้ำเสียงก็ค่อนข้างจะมีอารมณ์ไม่ใจ "ผู้กองครับ สัญญาี่ผมรับปากกับจ่าสินไว้ก็เื่งานนี่แหละ ผู้กองลองฟังนะครับว่าสิ่งี่ผมทำมันเื่ส่วนตัวหรือไม่" ขุนหยุดพูดมองหน้าผู้กองเดชา ผู้กองก็พยักหน้า "ไหนคุณลองบอกเหตุผลมาซิ อย่าไปน้ำขุ่นๆนะผมเตือนไว้ก่อน" ขุนยิ้มก่อนตอบ "ห้าวันก่อนหน้านี้ไอ้จ่าสินมันโทรมาหาผม บอกว่าจะให้เบาะแสเื่แคมป์ผลิตยาี่ไอ้เลี๊ยบดูแลอยู่ และเื่ี่ไอ้ส่างโต่งพาคนลำเลียงของข้ามชายแดนมาด้วย ว่าขนวันไหนผ่านเส้นทางไหนขอให้จับตายทุกคน มันคงอยากเป็นหมายเลขหนึ่งขององค์กรณ์ี่มันร่วมอยู่ โดยแลกกับการปล่อยให้มันรอดสองครั้ง ครั้งต่อไปมันจะพาไปทลายโกดังใหญ่ในกรุงเทพฯโดยแลกกับการไม่เอาผิดมันทั้งหมดี่ผ่านมา ผมกับชัยก็เลยรับปากมันปล่อยมันไปและทิ้งรถไว้ให้หนีด้วย ส่วนไอ้ส่างโต่งกับพวกี่ลำเลียงป่านนี้คงตายหมดแล้วครับ" ผู้กองเดชาก็ยังไม่สบอารมณ์อยู่ดี "โอเคเื่วันนี้ผมจะคิดเสียว่าผมไม่รู้ไม่เห็น แต่เื่ี่จะให้ไม่เอาผิดเื่ทั้งหมดี่ผ่านมานั้น หมวดกับหมวดชัยตกลงอะไรกันไว้ไม่เกี่ยวกับผม ผมเจอผมก็จับอย่ามาขอร้องอะไรผมก็แล้วกันผมไม่ชอบแบบนี้" ขุนไม่พูดต่อผู้กองเดชาหน้าตาบอกบุญไม่รับเอาเสียเลยตอนนี้ ไอ้เลี๊ยบกัดฟันกรอดเมื่อได้ยินขุนกับผู้กองเดชาคุยกัน มันยิ่งโมโหหนักขึ้นเมื่อได้ยินว่าไอ้ส่างโต่งเพื่อนรักของมันตายแล้ว ไอ้สินไอ้สัตว์มึงไม่ตายดีแน่ มึงหักหลังพวกกูหักหลังเจ้านาย ถ้ากูรอดออกไปได้กูไม่ปล่อยมึงไว้แน่ มันคิดในใจสายตาเคียดแค้นเป็นี่สุด ถึงค่ายตำรวจตระเวณชายแดนชั่วคราว ทุกคนก็ลงจากรถด้วยท่าทางปกติไม่ได้อิดโรยอะไร เพราะการเข้าทลายแคมป์ครั้งนี้ชนะได้อย่างไม่ยากไม่มีใคาดเจ็บ ไอ้เลี๊ยบนอนอยู่บนเตียงเจ้าหน้าี่คนหนึ่งจัดการล้างแผลพันแผลให้อย่างเรียบร้อย "เอ้านี่พาราแดกเข้าไปสี่เม็ดเลยนะมึง สองเม็ดเอาไม่อยู่แน่" เจ้าหน้าี่คนนั้นส่งยาให้แล้วเดินออกไป ไอ้เลี๊ยบดึงมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงกดโทรออก "ว่ายังไงไอ้เลี๊ยบ" เสียงนายอำนวยถาม "นายครับ แคมป์โดนพวกทหารถล่ม ตอนนี้ผมโดนจับอยู่ในค่ายทหารกลางป่า ไอ้สินมันทรยศครับนาย" ไอ้เลี๊ยบมันก็เล่าเื่ี่ได้ยินมาทั้งหมด โดยบอกถึงท่าทางของผู้กองเดชากับขุนี่เกือบจะทะเลาะกันด้วย เื่ทั้งหมดมันเป็นแบบนี้ครับนาย" คุยจบไอ้เลี๊ยบรีบลบเบอร์ี่โทรออกทิ้งไม่ให้มีประวัติการโทรเหลืออยู่ ทางด้านจ่าสินก็เอารถมาจอดห่างจากค่าย ตชด.ประมาณ สั่งให้ลูกน้องรออยู่ี่รถส่วนตัวมันจะแอบเข้าไปช่วยไอ้เลี๊ยบอย่างเงียบๆ มันนั่งซุ่มอยู่นานแล้วรอดก็ยังหาช่องเข้าไปไม่ได้ เพราะเวรยามแน่นหนาหาช่องโหว่ไม่เจอ ผู้กองเดชาอารมณ์ไม่ดีในสิ่งี่ขุนกับชัยทำ เดินไปยืนมองวิวตรงต้นยางใหญ่ขุนก็เดินมายืนข้างๆ "ผมขอโทษนะครับผู้กองี่ไม่ได้บอกก่อนล่วงหน้า ถ้าผมบอกก่อนผู้กองก็จะแสดงได้ไม่เนียน ไอ้เลี๊ยบมันจับพิรุธได้แน่นอน" ผู้กองเดชาหันมาทางขุนทำหน้าฉงน "คุณหมายถึงอะไร" ขุนก็มองหน้าผู้เดชาเหมือนกัน "เื่ไอ้จ่าสินไงครับ ผมกับชัยยังไม่เคยคุยกับมัน ผมแค่อำออกไปเพื่อให้มันส่งข่าวไปให้นายอำนวย ยังไงไอ้จ่าสินมันก็หมดหนทางรอดผมึไม่ยึดมือถือของไอ้เลี๊ยบ และก็บอกลูกน้องของผู้กองทุกคน ว่าอย่ายึดมือถือมันให้ทำเป็นไม่เห็นไม่สนใจ" ผู้กองมองหน้าขุนไม่วางตา "คุณคิดว่าไอ้เลี๊ยบนั่นมันจะทำตามี่คุณวางแผนหรือไง" ขุนส่ายหน้า "ผมก็ไม่มันใจขนาดนั้นหรอกครับ แต่ี่แน่ๆไอ้จ่าสินมัน้แอบมาช่วยตัวนักโทษแน่ เพื่อหวังสร้างผลงานเอาใจเจ้านายมัน แล้วเื่ี่ให้ลูกน้องของผู้กองไปรับลูกเมียไอ้สินมาี่นี่ล่ะครับ ป่านนี้เป็นยังไงบ้าง" ขุนอธิบายจบก็ถามถึงแผนี่ไหว้วานให้ทำ "พวกนั้นมาถึงี่นี่ก่อนเราแล้ว ตอนนี้พักอยู่ในเต้นท์ของหมู่เด่น" ขุนยิ้มพร้อมก้าวเข้าไปกระซิบผู้กองเดชา ผู้กองเดชาเข้าใจในสิ่งี่ขุนบอกแล้วก็แยกย้ายกัน จ่าสินนั่งรอจังหวะเพื่อจะเข้าไปชิงตัวไอ้เลี๊ยบแต่เวรยามก็ไม่เปิดช่องให้เลย เมื่อไม่มีโอกาสแล้วมันก็เลิกล้มความตั้งในลุกขึ้นหันหลังจะเดินั พลั่ก จ่าสินเซถอยหลั่งก้นจ้ำเบ้าลงกับพื้นด้วยแรงถีบ พรืดด กระสอบป่านครอบหัวจ่าสินแล้วรูดลงไปถึงเอวของมัน ทำให้มันพยายามดิ้นแต่ก็ไร้ผลี่จะหลุดออกมาได้ ผัวะ ผัวะ สองแข้งซ้อนี่ซัดเข้าอกและหน้าี่ถูกกระสอบคลุมอยู่ มันหงายท้องนอนบิดตัวไปมา หมู่เด่นและหมู่ดอนสองพี่น้องก็จัดการช่วยกันหามมันมาในเต๊นท์ จับให้มันคว่ำหน้าลงแล้วจับมือไพล่หลังเอาเชือกมัดอน่างแน่นหนา ผู้กองเดชากับขุนเดินเข้ามาหมู่เด่นก็จับมันนั่งแล้วดึงกระสอบออก "สวัสดีจ่าสินเพื่อนเรา" ผู้กองเดชาทักทาย "ผู้กอง" มันเรียกหัวหน้าเก่าของมันด้วยสีหน้าไม่ดีนัก "ขอบคุณี่ยังจำกันได้ เป็นตำรวจมันอดอยากมากหรือไงจ่า ถึงได้เปลี่ยนอาชีพไปเป็นนักค้ายา" ผู้กองเดชาถามโดยไม่อ้อมค้อม "ผมไม่ได้ค้าไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น ผมแค่เข้าไปสืบตามคำสั่งของเบื้องบน" จ่าสินอ้างเบื้องบนทันที เพราะคำว่าเบื้องบนนั้นมักจะข่มขู่นายตำรวจเล็กๆได้เสมอ "แล้วี่มึงวางระเบิดในรถเบนซ์ี่คาร์แคร่ล่ะ เป็นคำสั่งของเบื้องบนด้วยใช่หรือไม่" ขุนถามจี้จุดตรงประเด็น "วางระเบิดอะไรกูไม่รู้เื่ มึงอย่ามาใส่ร้ายให้กูกับผู้กองเข้าใจผิดกัน" ขุนดึงมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วเปิดคลิปในคาร์แคร์ี่ตัดมาบางส่วนให้มันดู มันถึงกับพูดอะไรไม่ออก เพราะในคลิปของกล้องวงจรปิดมันระบุวันี่และเวลาไว้พร้อมสรรพ "มึงจะทำอะไรกูก็ทำ มึงจะทรมานกูแบบไหนก็ตามสบาย แต่อย่าหวังว่าจะได้คำตอบจากกูแม้แต่คำเดียว" จ่าสินพูดเสียงหนักแน่นไม่คิดี่จะหักหลังเจ้านายมัน ขุนไม่พูดอะไรก็เปิดคลิปเสียงี่ไอ้เลี๊ยบโทรหานายอำนวยทั้งหมดให้มันฟัง "กูจะไม่ทรมานมึงหรอก และกูอาจจะปล่อยมึงัไปอีกด้วย ถ้ามึงคิดว่าจะัไปแก้ตัวกับนายอำนวยได้ก็แล้วแต่มึง" ขุนหยุดพูดแล้วก็ยิ้มเยาะมันอย่างเย้ยหยันก่อนจะพูดต่อ "นายอำนวยรู้เื่นี่ไปร่วมๆชั่วโมงแล้ว พรรคพวกของนายอำนวยก็มีมากในภาคเหนือ มึงคิดว่าแม่มึงเมียมึงจะรอดหรือเปล่าวะ ถ้ามึงมั่นใจว่ารอดปลอดภัยสบาย กูก็จะวิทยุไปบอกทีมี่เฝ้าสังเกตุการณ์ี่บ้านแม่มึงให้ยกเลิกภารกิจ แต่ถ้ามึงให้ความร่วมมือบอกในสิ่งี่มึงรู้มาทั้งหมด กูก็จะวิทยุบอกให้พวกเขาเข้าไปพาคนในบ้านออกมา เวลาไม่มีแล้วมึงจะตัดสินใจยังไง...ตามใจ" จ่าสินหน้าเปลี่ยนสีตัดสินใจไม่ถูก ลูกมันก็เพิ่งสองขวบกำลังน่ารักน่าชัง เมียมันก็ยังสาวยังสวยและมันก็รักมากี่สุด แม่มันี่เลี้ยงดูมันมาตั้งแต่เกิดก็ไม่เคยมีผัวใหม่ให้ขัดเคืองใจ ตั้งแต่พ่อมันตายเมื่อครั้งมันยังเป็นเด็กอยู่ มันนั่งคิดอยู่เนิ่นนาน "โอเค ในเมื่อมีงรักและห่วงคนอื่นมากกว่าครอบครั้วมึง กูจะวิทยุถอนกำลังเดี๋ยวนี้" ขุนยก ว.ขึ้นกดคีย์ "หมวดคุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ คนพวกนั้นไม่ได้มีความผิดอะไร" ผู้กองเดชาพูดจบขุนก็สวิงหมัดเข้าเต็มหน้าอก โดยี่จ่าสินไม่ทันมองผู้กองก็ร่วงลงพื้นหลับสนิท "มึงบ้าไปแล้ว หมู่เด่นจับมันสิ มันทำร้ายหัวหน้าคุณนะ" จ่าสินตะโกนลั่น "ผู้กองสลบไปแล้ว ตอนนี้หมวดใหญ่สุดผมไม่กล้าหรอกครับ" หมู่เด่นตอบแล้วยืนนิ่งไม่สนใจดูผู้กองแม้แต่นิด ขุนยก ว.ขึ้นอีกที "อินทรีย์เรียกหมาป่า อินทรีย์เรียกหมาป่า ว.2" ... "หมาป่า ว.2 ครับ" วิทยุปลายทางตอบขุนก็กดคีย์ถามต่อ "ว.1 ี่ไหน" ... "ว.1 ี่หลังโรงเรียนบ้านป่าซางนาเงินใกล้บ้านแม่จ่าสินครับผม เพิ่มเติมมีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาแปดคน กำลังเดินเข้าซอยไปทางบ้านแม่ของจ่าสินด้วยครับ" ขุนส่ายหน้ามองจ่าสินยก ว.ขึ้นอีก "อย่า ๆ อย่าถอนกำลัง ช่วยครอบครัวผมด้วย" มันรีบร้องอ้อนวอน "พูดออกมาสิ" ประโยคสั้นๆเข้าใจได้ว่าหมายถึงอะไร "ผมขอให้เจ้าหน้าี่เข้าไปในบ้านผม ผมขอได้ยินเสียงแม่กับเมียผมก่อน ถ้ามันใจได้แล้วว่าพวกเขาปลอดภัย ผมจะบอกทุกอย่างี่รู้มา" จ่าสินยังคิดใช้ลูกเล่นตั้งแง่ัมา "โอเค ไม่้บอกไม่ กูอยากอยากรู้แล้ว" ขุนพูดก็จบเดินออกไป "บอกแล้วครับ บอกแล้ว" ขุนหยุดหันัมาทางจ่าสิน "ว่ามา เวลาเหลือน้อยแล้ว" จ่าสินรู้ตัวดีว่าไม่ได้อยู่ในสถานะี่จะต่อรองอะไรได้ "คนสั่งให้ผมวางระเบิดคือคุณอำนวย และหัวหน้าผมก็คือสารวัตรไชยยันต์ มีแค่นี้แหละครับ" ขุนมองหน้ามันด้วยสายตาี่รู้สึกสังเวชมันอย่างยิ่ง "มึงมันไม่ได้รักครอบครัวมึงเลยจริงๆ ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยให้พวกเขาโดนกระทำไปตามยถากรรมเถอะ" ขุนยก ว.ขึ้น "ยกเลิกภารกิจ" จ่าสินสะดุ้งเฮือก "ยังมีอีกครับอดีตรอง ผบ.ตร.กับอดีต รมต.เป้นเจ้านายของสารวัตรไชยยันต์อีกที แต่ว่าพวกเขาชื่ออะไรคนไหนผมไม่รู้จริงๆ ถ้าอยากรู้้ถามสารวัตรไชยยันต์เอาเอง" ขุนตบมือ แปะ แปะ ผู้กองเดชาก็ลุกขึ้นยืน ตชด.คนหนึ่งก็พาครอบครัวของจ่าสินเข้ามาคโดยปลอดภัยทุกคน จ่าสินถึงกับน้ำตาแตกี่ได้เห็นหน้าแม่ เมีย และลูก "คนอย่างผมไม่ใช่สัตว์นรก ี่จะปล่อยให้ผู้บริสุทธิ์ถูกทำร้าย หากจ่าให้ข้อมูลี่เป็นประโยชน์ ผู้กองเดชาจะกันตัวคุณไว้เป็นพยานอย่างมากก็ลูกไล่ออกและติดคุกไปตามคำตัดสิน ก็ยังดีกว่าถูกประหารชีวิตไช่หรือไม่ก็แล้วแต่จ่าจะคิดเอา" จ่าสินพยักหน้ารับโอบกอดเมียและลูก ตชด.นายหนึ่งก็วิ่งเข้ามาในเต๊นท์ "ผู้กองครับ ไอ้เลี๊ยบมันหนีไปแล้ว"
โปรดติดตามตอนต่อไป ตอนี่ 12
.
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??