เรื่อง สะพานมิติ: เส้นทางแห่งความหวังและเงามืด
ตั้งแต่าหมู่บ้านมา ทุกคนเหมือนคอยระแวดระวังตัวมากขึ้น ูจาน้อยลง ำใ้เเลียกับรู้สึกอึดอัด เพาะจากที่เดินทางมาจะมีฟินน์ที่คอยป่วน้ตลอดเวลา แต่ตอนนี้ แหย่เท่าไหร่ก็ไม่มี ปฏิกิริยาตอบสนองเ่เ
“พวกนายเป็่นอะไร” เเลียเอ่ยขึ้นหลังที่ทุกคนเงียบมานาน
‘ เห้ออออ’ ฟินน์ถอนหายใจ เสียงถอนหายใจของฟินน์กลับำใ้เเลียยิ้มออกมา และเดินไปข้างๆขว้าคอฟินน์มาเดิน้กัน
“ถอนหายใจทำไม”เเลียเริ่มวางแผนแหย่ฟินน์อีกครั้ง
“ข้าบอกเจ้ากี่ครั้งแล้วว่าใหู้แทนตัวเองว่ายังไง” ฟินน์เริ่มบ่น
‘555’ เเลียหัวเราะ เธอจงใจให้ฟินน์ว่า
“แล้วใหู้ว่าอย่างไรน้าาาา” เเลียมองหน้าฟินน์ หวังว่าฟินน์จะตอบโต้เหมือนเคย
‘ เห้ออออ’ ฟินน์ยังคงถอนหายใจเช่นเดิม แล้วสะบัดตัวาเเลียไป
“ไม่สำเร็จ เห้อออ” เสียงถอนหานใจคราวนี้เป็นของเเลียเอง
“ เจ้าเป็นอะไร” เสียงนุ่มลึกแบบนี้เป็นใครไปไม่ได้ เรฟั่เแต่ั่แะ เขาูกับเเลีย้จิต ไ่ีใได้ยินเ่เ แต่ไม่ำใ้เเลียหายเหงา เเลียไม่ตอบเสียงนั้นซ้ำยังเดินหน้าง้ำต่อไป
“นั้นไงจุดหมายของเรา” ลูคัสยกมือขึ้นชี้ไปที่ป่าที่ทอดตัวอยู่ ป่านั้นดูราวกับมีชีวิต ต้นไม้สูงหลายต้นเรียงตัวไปที่บางต้นมีเปลือกไม้ความเข้มข้นกร้านระบบควบคุมมอสสีเขียวสดอีกครั้ง บางต้นมีกิ่งก้านที่ยื่นออกมากับแขนขาของยักษ์ เถาวัลย์เส้นยาวห้อยมาจากยอดไม้เหมือนม่านธรรมชาติที่ปิดบังสิ่งลี้ลับเสียงนกร้องแว่วก้องไปทั่วทั้งเสียงใสแจ๋วของนกขนาดเล็กจนถึงต่ำสุดของนกใหญ่ที่เหมือนจะเป็นเขตแดนของมันและประสานกันราวกับเพลงจากธรรมชาติที่มีกลิ่นของป่ายิ่งมีเสน่ห์และตำนาน
"พวกเราพร้อมหรือยัง?"ลูคัสูเสียงหนักแน่น แสดงความตื่นเต้นในดวงตาที่มองไปยังป่าใหญ่ตรงหน้า
“พร้อม” ผู้พิทักษ์ทั้งสี่เอ่ยพร้อมกัน ในแววตาแฝง้ความมุ่งมั่น มีรอยยิ้มจางๆบนใบหน้า ของแต่ละคนแแสดงถึงความกล้าหาญที่ซึมซับจิตใจของทั้งห้าคน
“ข้าก็พร้อมนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าเชื่อว่าทุกคนจะไม่ทอดทิ้งกันอย่างแน่นอน” เเลียนหันไปยิ้มให้กับผู้พิทักษ์ของธอ
ทั้งหมดเดินเข้าไปในป่า ทันทีก้าวเท้าเข้าไป บรรยากาศเปลี่ยนไปทันที จากความอบอุ่นของแสงแดดกับกลายมาเป็นความหนาวเย็นยะเยือกมาแทนที่ ทันทีที่เท้าเหยียบลงพื้นดินดังกร๊อบแกร๊บอย่าง น่ากลัว อีกทั้งยังมีเสียงอะไรไม่รู้ร้องระงมแซงแซ่ไม่หมด จับไม่ได้ว่าเป็นเสียงสัตว์ เสียงลม หรือเสียงใบไม้กระทบกัน บรรยายกาศำใ้เเลียต้องเดินไปเกาะแขนเรฟ
“เจ้าไม่ต้องกลัว ” เรฟเอ่ย ถึงจะบอกแบบนั้นก็ตาม บรรยากาศมันน่ากลัวยังไงอยู่ดีเเลียสังเกตว่าทุกคนจับอาวุธกันแน่นมาก
‘ ฟิ้ว!’ เสียงดังออกมาจากพุ่มไม้ พร้อมกับแหล็กแหลมขนาดเล็กพุ่งออกมาเหมือน-่าฝนก็มิปาน ทุกคนปัดป้องกันอย่างพัลวัน ตอนนี้เเลียหลบอยู่ด้านหลังเรฟ อยู่ดีๆเหล็กแหลมนั้นก็เปลี่ยนทิศทาง จากด้านหน้ามาเป็นด้านบน
“ข้างบน!” เฟย์บอกทุกคน ตอนนี้เปลี่ยนจากการป้องกันด้านหน้าของตน มาเป็นบนหัวของตนอย่างรวดเร็ว
“ทำอะไรหน่อยได้ไหม อาเธน เจ้ามีเวทไม่ใช่ ใช้ป้องกันได้นี่” ฟินน์บอก
“ข้าใช้มันได้ แต่ใครจะป้องกันให้ข้า” อาเธนตอบกลับ
“ข้าเอง” เสียงนั้นูจบ เกิดแสงสว่างจ้าจนทุกคนต้องหลับตา
“พวกเจ้าลืมตาได้แล้ว” สิ้นเสียง ทุกคนลืมตาขึ้น บรรยากาศที่เจอกลับเปลี่ยนไป จากป่าที่มีความหนาวเหน็บกลายเป็นอบอุ่นอย่างน่าประหลาด เสียงน่ากลัวนั้นกับเป็นเสียงนกร้องอันไพเราะ พื้นดินที่เหยียบกับกลายเป็นพื้นหญ้าที่แสนที่เขียวจี นุ่มนิ่มจนน่านอนกลิ้งเลยทีเดียว เเลียมองชายหนุ่มปริศนาที่สวมหน้ากากมังกรนั้น ตอนนี้เขายืนกอดอกอยู่บนเนินเตี้ยๆห่างจากพวกเราไปเล็กน้อย เขาค่อยๆเดินลงมาหาพวกเเลีย
“เจ้าอีกแล้ว” ฟินน์ตั้งท่าจะต่อสู้อีกครั้ง ทำเอาทุกคนที่เหลือทำเช่นเดียวกัน
“นี่ ข้ามาช่วยพวกเจ้า แต่ดูพวกเจ้าสิ ไม่ขอบคุณซ้ำยัง เตรียมสู้กับข้าอีก ” ชายหนุ่มเดินมาหยุดตรงหน้าเรฟที่ยืนบังเเลียอยู่
“ข้าบอกพวกเจ้าแล้วว่าข้าจะช่วยจัดการพวกทหารเกราะดำเอง แต่ดูท่าแล้ว พวกเจ้าสู้ไม่ได้จริงๆ” ชายหนุ่มก้มตัวลงเล็กน้อย เพื่อมองหน้าเเลียที่ยืนอยู่ด้านหลังเรฟ
‘พรึ่บ!’ ตอนนี้เรฟหายไปยืนอยู่ด้านหลังชายหนุ่มแทนพร้อมมีเเลียอยู่ด้านหลังเ่เ ชายหนุ่มหันหลังกลับ
“จุๆๆ ไม่เอาน่า ข้าแค่อยากรู้ว่านางปลอดภัยไหม” แล้วชายหนุ่มทำท่าจะเดินเข้ามาหา
“ฟิ้ว!” ลูกธนูถูกดีดาแม่ของมันอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มจับมันโดยไม่หันกลับไปมอง้ซ้ำ และยังคงเดินเข้ามาหาเรฟ แต่จุดประสงค์เดินหาเเลียมากกว่า
“เจ้าหยุดอยู่ตรงในั้น อย่าเข้ามาไม่งั้นข้า…” เรฟยังูไม่จบชายหนุ่มสวนขึ้นาันที
“เจ้าจะทำอะไรข้า” ทันใดนั้นเเลียหายแวบมายืนอยู่ด้านข้างของชายหนุ่มทันที ชายหนุ่มกุมมือ เเลีย พร้อมยกมือข้างที่กุมขึ้นเหมือนจงใจกวนประสาทเรฟ เรฟพุ่งตัวเข้าหาชายหนุ่มทันที ชายหนุ่มไม่หลบแต่กลับยืนนิ่ง แต่เป็นเรฟเองที่ลอยอยู่กลางอากาศในท่าจู่โจมนั้น ขยับไม่ได้
“เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้นะ อย่าทำร้ายเพื่อนๆของข้า” เเลียผลักชายหนุ่มออกำใ้เรฟหล่นลงพื้นต่อหน้า
“เจ้าบอกข้าเองนะว่าให้หยุด” ชายหนุ่มเดินไปที่เนินเตี้ยๆนั้นและนั่งลงผิวปากอย่างสบายอารมณ์
“เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม เรฟ” เเลียเข้าไปพยุงเรฟยืนขึ้น
“ข้าไม่เป็นอะไร” เรฟตอบพร้อมกับใช้ตาสำรวจร่างกายของเเลีย
“เจ้าจะมองข้าอีกนานไหม ข้าไม่เป็นไร” เเลียตอบเรฟอย่างอายๆ
“เอ่อ…ข้าขอโทษ ข้าแค่อยากแน่ใจว่าเจ้าไม่บาดเจ็บ” เเลียยิ้มภายในใจรู้สึกดีที่เรฟเป็นห่วง
“เจ้าต้องการอะไร” ลูคัสเอ่ย
“เจ้าสมองเสื่อมหรือไง ข้าบอกไปแล้ว” ชายหนุ่มอดค่อนแคะลูคัสไม่ได้
“ข้าอยากรู้ว่าจุดประสงค์เจ้าที่เข้ามาช่วยพวกข้าคืออะไรกันแน่” ฟินน์ถามบ้าง ชายหนุ่มไม่ตอบ กลับชี้าางเเลีย
“ข้าต้องการนาง” คำูของชายหนุ่มำใ้ทุกคนพร้อมตั้งท่าจะต่อสู้อีก
“พอเถอะ สู้ไปพวกเจ้าก็สู้เขาไม่ได้ ” เเลียเอ่ยพร้อมพยุงเรฟเดินมาหาผู้พิทักษ์ทั้งสี่ ที่ตอนนี้ยืนประชัดหน้ากับชายหนุ่มปริศนาที่สวมหน้ากากมังกรสีเงินที่นั่งอย่างสบายใจ โดยไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร ซ้ำยังแสดงท่าทางยังกวนๆ ผู้พิทักษ์้
“ยังไงเจ้าก็รู้คำตอบอยู่แล้ว” เฟย์เอ่ยพร้อมกับเก็บธนูไว้ด้านหลังตนเอง
“ข้ารู้..แต่ที่เจ้าไม่รู้ยังมีอีกเยอะ” ชายหนุ่มเอ่ย ยังมีท่าทางกวนเช่นเดิม
“อะไรที่พวกขาไม่รู้” ฟินน์เอ่ย
“แล้วทำไมข้าต้องบอกพวกเจ้า” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมลุกขึ้นยืน ผู้พิทักษ์ยังไม่ทันตั้งตัว เเลียมายืนข้างกายชายหนุ่มอีกครั้ง
“ข้าขอยืมผู้ถูกเลือกซักเดี๋ยวนะ” ชายหนุ่มูจบดึงเเลียหายไปกับตา เหลือแต่ความมึนงงไว้ให้และความโมโหให้เรฟ
“กรอด! ” เรฟกัดฟันและสายตาแดงก่ำ
“เอาล่ะ นายต้องการอะไร” เเลียเอ่ยเป็นคนแรก พร้อมสะบัดมือาการจับมีอของชายหนุ่ม ชายหนุ่มยิ้มอย่างมีเลศนัย
“น้องพี่นี่นิสัยไม่เปลี่ยนเลยนะ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นำใ้เเลียตาค้าง จ้องหน้าชายหนุ่มอย่างไม่เชื่อหู
“นายเรียกฉันว่าอะไรนะ” เเลียถามอย่างอดสงสัยไม่ได้ที่ชายปริศนาเรียกเธอว่าน้อง
“น้องสาว” ชายหนุ่มเน้นเสียง
“ฉันเป็นน้องสาวนายตั้งแต่ไม่ไหร่” เเลียเอ่ย
“เป็นตั้งแต่เกิด” ชายหนุ่มค่อยๆถอดหน้ากากมังกรออก เผยให้เห็นหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโต ผิวหน้าเนียนใส
“แต่ฉันจำได้ว่า ฉันเป็นเด็กกำพร้าไม่มีพ่อแม่ ไม่มีพี่น้องนะ” เเลียมองหน้าชายหนุ่ม
“เราน่ะมีครอบครัว และทุกคนในครอบครัวรักน้องมาก” สายตาของชายหนุ่มแสดงถึงความจริงใจ
“อะไรนะ ครอบครัว” เเลียไม่เชื่อหูตัวเอง เพราะตั้งแต่เล็กจนโต เธอเติบโตที่บ้านเด็กกำพร้ามาตลอด และเธอโชคดีมากที่มีเศรษฐีต่างชาติถูกชะตาจึงมอบทุนการศึกษาให้ จนเธอได้เรียนหนังสือจนถึงทุกวันนี้
“ใช่ ครอบครัว” ชายหนุ่มเดินเข้ามาลูบหัวเธอ เธอนิ่งเงียบ้ความสับสนกับสิ่งที่ได้ยิน ชายหนุ่มยังคงลูบหัวเธออย่างเอ็นดู
“งั้นช่วยเล่ารายละเอียดทั้งหมดมาได้ไหม” เเลียเงยหน้ามองชายหนุ่มที่อ้างว่าเป็นพี่ชายเธอ ชายหนุ่มยิ้ม
“ได้พี่จะเล่าให้ฟัง” ชายหนุ่มจับมือเเลียนั่งลงข้าง
“แต่เดิมพวกเราเป็นคนของมิติอาเคเนีย ครอบครัวเราเป็นผู้นำของมิตินั้น อืม..ถ้าจะเรียกให้น้องเข้าใจเรียกว่า มิติคู่ขนาน ”
“มิติคู่ขนานเหรอ”เเลียถาม
“ใช่ เราน่ะซนมาก เดินไปอีท่าไหนไม่รู้เข้าไปป่าต้นกำเนิด คนทั้งครอบครัวหาเราอยู่นานจนจับสัญญาณได้ว่าน้องหลงไปในมิติโนวาเรีย เรียกง่ายๆว่าโลกมนุษย์ ที่เราน่ะอยู่ก่อนาี่นี่ ” ชายหนุ่มไมู่ป่าวยื่นผลไม้สีแดงคล้ายแอปเปิ้ลให้เเลีย เเลียรับมาอย่างว่าง่ายแล้วกัด+มัน ทำเอาชายหนุ่มอดยิ้มไม่ได้ ้ท่าทางการกินของเธอที่น่าเอ็นดู เหมือนตอนเด็กที่เขามักให้ผลไม้ชนิดนี้ให้เธอ เพราะเธอชอบกินมันมากกว่าชนิดไหน
“แล้วที่นี่เรียกว่าอะไร” เเลียูไป้เคี้ยวไป้ ชายหนุ่มยิ้ม เเลียที่เขารู้จักไม่เคยเปลี่ยนไปเลย ลักษณะท่าทางเหมือนตอนเด็กไม่ผิด น่าเอ็นดูมากในสายตาและความคิดของผู้เป็นพี่ชาย
“เรียกว่ากาเรีย เป็นมิติแห่งแสงจันทรา” ชายหนุ่มผู้จบยื่นผลไม้ให้เเลียอีกลูก เธอรับไว้ไม่รู้ว่าเพราะความอร่อยหรือหิวกันแน่ เธอจึงรับมาและกินอย่างเอร็ดอร่อย
“แล้วนายจับสัญญาณฉันได้ยังไง”
“ก็ตอนหลับไง ตอนหลับคนเราจิตจะนิ่งที่สุด ก่อนที่เราจะมา เราฝันเห็นพี่ไม่ใช่เหรอ” คำูนี้ำใ้เเลียหยุดชะงัดหันไปมองผูู้
“คน..ที่...ฝันเป็นนายเหรอ ม่ะ ไม่ใช่เรฟ”
‘555’ ชายหนุ่มหัวเราะออกมา
“เราคิดว่าใครล่ะ หรือคิดว่าเป็นเจ้านั่น 5555 เด็กน้อยเอ่ย”
“ก็คิดจริงๆนั่นแหล่ะ ใครใช้ให้คล้ายกัน แล้วไม่ไปรับล่ะ ปล่อยให้มากับผู้พิทักษ์ได้ไง”
“พี่ก็อยากไปรับเรานะ แต่ตาเฒ่านั้นชิงตัดหน้าไปก่อน ข้าแค่ไปช้านิดหน่อย”
“ชิ ! ช้านิดหน่อย กว่าจะมา ยี้!” เเลียแลบลื้นปลิ้นตาใส่
“เอ่อน่า.. แต่พี่ก็มาแล้วนี่ไง จะกลับเลยไหมล่ะ” ชายหนุ่มยืนขึ้นปัดเศษหญ้าเศษใบไม้ที่ติดาก้น
“ไม่ไปอ่ะ ถ้าไปเรฟจะทำยังไง อีกอย่างขอช่วยพวกเขาก่อนได้ไหม” เเลียทำสายตาเว้าวอนพี่ชาย
“พี่รู้ ว่าเราอยากช่วยพวกเขา แต่พี่ไม่รู้เกี่ยวอะไรกับเจ้านั่น” ชายหนุ่มเลิกคิ้วถาม
“กะ…ก็เรฟร่ายเวทคู่รักไว้ ถ้าไปกลัวว่า…” คราวนี้เเลียก้มหน้าดูพื้นเพื่อหลบสายตาของพี่ชายที่ พยายมมองหน้าน้องสาวตัวเองอย่างหาคำตอบ
“เราไม่ต้องกลัว ที่มิตินี้ ทำอะไรคนอย่างพวกเราไม่ได้หรอก เวทนั่นก็เช่นกัน”
“ไม่นะ ตอนที่เฟย์จะาำร้ายก็ถูกเวทนี้สะท้อนกลับ ”
“555 อย่างที่โลกเจ้ามา เขาเรียกว่าอะไรนะ…อ๋อ! อุปทาน พวกเธอสองคนแค่รู้สึกแบบนั้น แต่ที่เฟย์กระเด็นออกมาถูกพี่ชายของเธอคนนี้ร่ายเวทใส่ ไม่ใช่เวทของเจ้านั่น เข้าใจหรือยัง ” ชายหนุ่มไมู่เปล่าจะเอามือลูบหัวเเลีย แต่เธอปัดออกทันำใ้เขางงเล็กน้อย
“มือสกปรก ปัดก้นแล้วมาลูบหัว” เเลียบ่นเบาๆแต่ชายหนุ่มได้ยินกับอดหัวเราะออกมาไม่ได้้ความไร้เดียงสาของน้องตัวเอง
“แบบนี้แล้ว เราจะทำยังไงต่อ จะกลับหรือจะช่วยพวกเขาก่อน แต่พี่บอกก่อนนะ เราน่ะเป็นคนมิติอื่นอยู่ที่นี่ตลอดไม่ได้ ”
“เข้าใจ แต่..” ตอนนี้เเลียกำลังสับสนไม่รู้จะทำอย่างไรดี ทำไมคนที่ฝันกลายเป็นพี่ชายตัวเอง ไม่ใช่คนที่ตัวเองชอบ แล้วทำไมเรฟถึงบอกว่าเป็นเขา ทั้งๆที่ไม่ใช่ เรฟต้องการอะไร แล้วท่าทีที่แสดงออกใช่ชอบเธอจริงๆหรือเปล่า
“พี่ จะไม่ห้ามฉันเหรอที่จะช่วยพวกเขา”
“ไม่ห้าม เพราะพี่รู้จักตัวเราดี ว่าตัดสินใจอะไรแล้วไม่ยอมถอยจนกว่าจะสำเร็จ”
“งั้น.. ฉันขออยู่ช่วยพวกเขาก่อน และฉันจะกลับบ้าน”
“มั่นใจนะ อย่าลืมว่ามิติของพวกเรารักษาสัจจะเป็นสำคัญ เราูเองนะ ”
“ค่ะ” เเลียตอบอย่างมั่นใจ
“ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยพวกเขา พี่จะช่วยอีกแรง อยู่ที่บ้านไม่ได้ขยับร่างกายมานานเป็นง้อย อยู่แล้ว ”
เเลียหัวเราะกลบเกลื่อนกับความคิดของตนยังคิดไม่ตกกับเรฟว่าเธอเองชอบเรฟ หรือแค่นึกว่าคนในฝันคือเรฟกันแน่ แต่เธอตัดสินใจแล้วว่าจบเรื่องนี้เธออยากกลับบ้าน ตั้งแต่เด็กเธอไม่เคยมีครอบครัวเลย แต่ตอนนี้มีแล้ว แล้วเรื่องอะไรเธอจะไม่กลับไปอยู่กับครอบครัวที่เธอไขว่ขว้ามาตลอด
“งั้นก็ตามนี้ เอาล่ะไปเจอพวกเขาได้แล้ว” ชายหนุ่มจับมือเเลียยืนขึ้นและเข้าไปสวมกอดเธอไว้
“เจ้า…ตาย!” เรฟวิ่งเข้ามาหาชายหนุ่มที่สวมกอดเเลียอยู่ เธอหมุนตัวไปรับดาบที่เรฟกำลังพุ่งเข้ามา ำใ้เรฟหมุนตัวและดึงดาบกลับอย่างหวุดหวิดก่อนโดนเเลีย
“เจ้าจะบ้าก็บ้าไปคนเดียว เขาช่วยพวกเราหลายต่อหลายครั้ง เจ้าควรใช้ความคิดบ้าง อย่าเอาแต่ใช้กำลัง” ูจบเเลียจูงมือพี่ชายเธอออกไปนั่งข้างต้นไม้ใหญ่ที่เธอออกมากับพี่เธอ
‘เจ้าเป็นอะไร ทำไมเจ้าถึงยอมให้เขากอด’ เรฟถาม้น้ำเสียงแสดงถึงความเสียใจ
‘แล้วจะทำไม ข้าเป็นของข้าแบบนี้ ในโลกของข้า การกอดแสดงออกได้หลายอย่างไม่จำเป็นต้องเป็นคู่รักเสมอไป มีแต่เจ้าต่างหากที่…’ เเลียยังูไม่จบ เรฟเอ่ยขึ้น
‘ข้าผิดเอง ข้าวู่วามเอง’ เรฟูตัดพ้อ
‘รู้ตัวก็ดีแล้ว แล้วก็จำไว้้นะว่า ข้าไม่ใช่คนที่นี่ ข้าเป็นคนมิติอื่น เมื่อทำหน้าที่สำเร็จข้าก็จะจากไป อยู่ที่มิติของข้า ’ เเรียกัดฟันูทั้งๆที่ตอนนี้รู้สึกเจ็บปวดแต่เธอต้องรีบตัดเรฟออกให้เร็วที่สุดก่อนที่จะผูกแน่นแล้วจะแก้ยาก เธอจะต้องจำไว้้เช่นกันกับคำที่เธอูว่าเธอไม่ใช่คนที่นี่
“น้องพี่ ไม่เป็นไรนะ อย่าร้องไห้ ถ้าเราร้องฝนจะตกแล้วคงรู้นะว่าฝนที่ตกลงมาเป็นฝนกรดเลือด เราจะำใ้พวกเขาลำบาก ” ไมู่เปล่าพี่ชายที่แสนดีเอามือเช็ดน้ำตาน้องสาวอย่างเอ็นดู เธอพยักหน้าให้กับพี่ชาย และภาพที่ผู้พิทักษ์ทั้งห้าเห็นกับกลายเป็นภาพของคนรักที่ดูแลซึ่งกันและกัน อย่างอ่อนโยน
“นั่นเจ้าจะไปไหน” ลูคัสเอ่ยถามก่อนคว้าแขนของเรฟไว้ เรฟไม่ตอบแต่หยุดยืนนิ่ง ถึงไม่ตอบลูคัสก็รู้ถึงความเจ็บปวดของเพื่อนรัก
“ข้าจะไปถามนางเอง ตกลงนี่มันเรื่องอะไร” เฟย์เอ่ยก่อนที่จะเดินไปหาเเลีย
“ข้าอยากรู้ว่ามันเกิดอะไร ทำไมเจ้าถึงเปลี่ยนใจมาคบกับเขา” เฟย์ถามเเรีย
“ก็ไม่มีอะไร เฟย์เจ้าควรจะคิดมากกว่าว่าเรามาถึงป่าต้นกำเนิดแล้ว ต้องไปไหนต่อเพื่อไปปลุกสัตว์ต้นกำเนิด เพื่อช่วยมิติของเจ้า อย่าทำอะไรไร้สาระ” เเรียตอบเฟย์
“โถ้ๆๆเจ้า เขาใช้เวทอะไรกับเจ้า เจ้าถึงเปลี่ยนแปลงเร็วขนาดนี้” ตอนนี้เฟย์และเเลียปะชันกันแบบตาต่อตาฟันต่อฟันไ่ีใหลบหรือยอมกันเลยทีเดียว
“เขาไม่ได้ใช้เวทกับข้า เขาแค่เตือนข้าว่าข้าไม่ใช่คนที่นี่ เมื่อทำสำเร็จ ข้าก็จะกลับบ้านข้า ส่วนพวกเจ้าก็จะได้หมู่บ้านของพวกเจ้าคืน ก็กลับไปอยู่กับครอบครัวของพวกเจ้า” มันเป็นคำูที่เจ็บจิ๊ดเข้าไปในหัวใจของเเลียเลยทีเดียว
“แล้วเรฟล่ะ เรฟร่ายเวทคนรักกับเจ้า ถ้าเจ้าไป เรฟจะทำอย่างไร” เฟย์ถาม้ความเป็นห่วงเรฟ
“ข้าช่วยได้ ข้ามีเวทแก้การผูกมัดนี้ ไม่ต้องกลัวพี่ชายเจ้าไม่เป็นอะไร” คำูของชายหนุ่มำใ้ เเรียรู้ว่าเฟย์เป็นน้องสาวของเรฟถึงว่าทำไมถึงห่วงใยเรฟมากนัก แต่สร้างความแปลกใจให้กับเฟย์ที่ปิดบังเเรียว่าทำไมชายผู้นี้ถึงรู้ได้ทั้งๆที่ไม่ใช่คนในหมู่บ้าน แม้กระทั่งเธอไม่เคยเจอเขามาก่อน
“อยากถามสินะว่าข้ารู้ได้อย่างไร ข้าบอกไปแล้วว่าข้ารู้ทุกอย่างและบอกไปแล้วว่ามีอะไรอีกเยอะที่พวกเจ้าไม่รู้ ผู้พิทักษ์เอ่ย” ชายหนุ่มูและกระซิบบอกเเลียเบาๆ
“พี่ไปก่อนนะ ไม่ต้องกลัวพี่จะคอยดูเราอยู่ อย่าลืมที่คุยกันไว้นะ ไปล่ะน้องสาวที่น่ารักของพี่” สิ้นเสียงชายหนุ่มหายไปกับตา
“ไปแล้วชงชื่อก็ไม่บอกจะให้เรียกว่าไง” เเรียบ่นอุบอิบที่ชายหนุ่มหายไปยังไม่บอกชื่อตน
‘ 555 พี่ชื่อเน น้องสาวของพี่’ เสียงลอยตามลมแฝง้ความอบอุ่น ในที่สุดเธอก็มีครอบครัว มีคนที่รักเธอแล้ว และสำคัญเธอมีบ้าน
“แล้วเจอกันพี่เน ขอบคุณคะ” เเลียตอบเสียงนั้นเบาๆ
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??