เรื่อง ถูกอัญเชิญไปเป็นผู้กล้าขยี้สวาทที่ต่างโลก
"อ๊าก!!!" เปลวเพลิงสีขาวที่มันลุกไหม้ขึ้นมาจากตัวของเธอนั้น มันก็มีอุณหภูมิและพลังทำลายที่สูงเป็นอย่างมาก ความร้อนระอุของมันนั้นมากเสียยิ่งกว่าเปลวเพลิงสีแดงฉานในก่อนหน้านี้เสียอีก เพราะอย่างนั้นผมจึงต้องรีบผละตัวปล่อยมือออกมาจากตัวของเธอ
"!!!" แต่ทว่ากลับกลายเป็นเธอในสภาพไร้สติดวงตาไร้แววที่ขยับตัวก่อนผมเสียอีก
หมับ!!!!! เป็นฝ่ามืออันเรียวบางที่ขยับลงไปจับดาบที่ร่วงหล่นลงไปปักพื้นขึ้นมา
สวบ!!! จากนั้นเธอก็ฟาดฟันมันเข้าใส่ผมอย่างเต็มแรง
เคล้ง!!!!! ที่ถึงแม้มันจะเป็นการโจมตีที่รวดเร็วขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก แต่ตัวผมที่ยังคงอยู่ในรูปลักษณ์ของอาภรณ์อัสนีทมิฬยังเร็วพอที่จะขยับมุรามาซะขึ้นมารับคมดาบของเธอเอาไว้ได้ทัน
"!!!" แต่ทว่าแรงปะทะของมันนั้นกลับมากมายเหลือเกิน มันทั้งรุนแรงและหนักหน่วงยิ่งกว่าก่อนหน้านี้เป็นสิบเท่า ทั้งๆ ที่นี่เป็นการฟาดฟันแบบธรรมดาแท้ๆ แต่มันกลับเอาตัวผมไถลถอยถอยหลังไปตามแรงฟันพอสมควรเลย พลั่บ!!! พร้อมด้วยละอองเวทย์สีขาวที่กระจัดกระจายออกมาจากการปะทะกันของคมดาบ ที่มันเป็นละอองเวทย์สีขาวแบบเดียวกันกับที่กำลังพวยพุ่งออกมาจากตัวเธอ แล้วลุกไหม้เป็นเปลวเพลิงสีขาวอยู่ในตอนนี้
"เป็นไปได้ยังไง นี่มันอะไรกัน.........." ซึ่งรูปลักษณ์นั้นของเธอ มันก็ทำให้ดาเรียตกใจกับสิ่งที่เห็นไม่ใช่น้อย และก็ดูเหมือนว่าดาเรียจะรู้ด้วยว่าละอองสีขาวที่พวงพุ่งออกมาจากร่างไร้สติของเธอนั้นคืออะไร
"นั่นมันคืออะไรกัน เธอรู้ใช่ไหมดาเรีย"
"มันคือพลังศักดิ์สิทธิ์ เป็นพลังศักดิ์สิทธิ์ไม่ผิดแน่ แต่ทำไม ทำไมเธอคนนั้นถึงใช้มันได้"
"พลังศักดิ์สิทธิ์........." ครั้งล่าสุดที่ผมได้ยินคำว่าพลังศักดิ์สิทธิ์ ก็คือตอนที่มีร่าหรือแวมไพร์สาวพันปีเล่าเรื่องตัวตนที่แท้จริงของตัวผมให้ฟัง
'ชาวสวรรค์' พลังศักดิ์สิทธิ์มันคือรูปแบบหนึ่งของพลังเหนืชาติ มีลักษณะคล้ายกันกับเวทมนตร์ แต่ว่าพลังทำลายล้างของมันนั้นรุนแรงกว่าเป็นอย่างมาก และผู้ที่จะใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ได้นั้น มีเพียงแค่ชาวสวรรค์เท่านั้น ซึ่งชาวสวรรค์ที่ยังเหลืออยู่บนโลกใบนี้ ก็มีเพียงแค่เจ้าแห่งแสงนิรันดร์ 'โอไรออน' ที่ถูกผนึกอยู่ใต้หอหอยแห่งนี้ และไดอาน่า ยัยเทพธิดาที่อัญเชิญตัวผมมายังโลกแห่งนี้เท่านั้น
"ใช่ ไม่ผิดแน่ มันคือพลังศักดิ์สิทธิ์ ถึงจะมีเพียงแค่ครั้งเดียวที่ฉันเคยเห็นมัน แต่มันคือพลังแบบเดียวกับที่ไดอาน่าใช้อย่างแน่นอน"
"ถ้าเป็นอย่างนั้น แล้วเธอคนนี้ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์นั้นได้ยังไง" เรื่องราวทั้งหมดมันชวนสับสนเป็นอย่างมาก ทำเอาตัวผมเริ่มจะตามไม่ทัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เธอคนนี้ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ได้ หรือจะเป็นเรื่องที่เธอเหมือนกันกับแม่ของผมราวกับแกะก็ตาม
"ดาบเพลิงดารา" และก็ดูเหมือนว่าเธอคนนั้นจะไม่ยอมให้เวลาตัวผมทำความเข้าใจด้วย
สวบ!!! คมดาบที่เคยแดงฉันแต่ตอนนี้ใบดาบกลายเป็นสีขาวสนิทนั้นถูกกวัดแกว่งการโจมตีออกมาอีกครั้ง ที่เป็นเพียงแค่การตวัดเบาๆ เท่านั้น
พลั่บ!!! แต่พลังทำลายล้างของมันกลับมากมายเสียเหลือเกิน คลื่นออร่าคมดาบที่เป็นการรวมตัวกันของพลังศักดิ์สิทธิ์ถูกกวัดแกว่งออกมานั้น มันพุ่งตรงเข้ามาทั้งผมและดาเรียด้วยความเร็วที่ทั้งสูงและพลังทำลายล้างที่ดูรุนแรงเป็นอย่างมาก
"......" แถมเอวายังกำลังรักษาไมน์อยู่ทางด้านหลังอีก เพราะอย่างนั้นผมจึงไม่สามารถหลบการโจมตีนี้ได้เลย มีทางเดียวก็คือรับมันเอาไว้
"กำแพงน้ำค่ายวารี" เช่นเดียวกับดาเรียที่ร่ายเวทย์ป้องกันออกไป
"โล่อากาศ ปราการล่องหน" ส่วนตัวผมก็ใช้เวทย์ปฐพีที่ได้รับมาจากไมน์ "ตาข่ายเวหากำแพงอากาศ" ตามด้วยใช้เวทย์เวหาที่ได้รับมาจากเอวา จากนั้นก็ "จงเลื่อนลั่นอัสนีกัมปนาท" ระเบิดพลังเวทย์อัสนีออกไป เป็นสายฟ้าสีดำที่ผ่าลงมาจากฟากฟ้า ด้วยทั้งพลังทำลายล้างที่รุนแรงเป็นอย่างมาก และจำนวนของมันที่มากราวกับหยดเม็ดฝน ที่สามารถเรียกว่า-่าสายฟ้าได้เลย และก็กำแพงชั้นสุดท้าย "โล่วารีกำแพงเกร็งเทพมังกรสมุทร" ที่เป็นการใช้พลังเวทย์วารีที่ได้รับมาจากดาเรีย
เป็นอัสนีกัมปนาทที่ปลดปล่อยการโจมตีเข้าไปปะทะการโจมตีของเธอ กับกำแพงป้องกันทั้งสองชั้นที่ประกอบด้วยโล่อากาศ กับตาข่ายเวหา ส่วนโล่วารีนั้นเป็นเกราะป้องกันชั้นสุดท้ายที่ผมสร้างมันขึ้นมาไว้ที่ด้านหลังของตัวเอง อันเป็นช่องว่างระหว่างตัวผมกับดาเรีย และเอวากับไมน์ที่อยู่ด้านหลัง เพราะผมไม่มั่นใจเลยว่าจะหยุดการโจมตีนี้ของเธอเอาไว้ได้ จึงเสริมการป้องกันนั้นให้กับพวกเธอ
"ย๊า!!!!"
คลื่นคมดาบศักดิ์สิทธิ์ของเธอที่ปะทะเข้ากับอัสนีกัมปนาทของผมนั้น ทำให้เกิดการสั่นไหวไปทั่วทั้งพื้นที่ และก็เป็นพลังศักดิ์สิทธิ์ของเธอที่เอาชนะสายฟ้าของผมมาได้ จากนั้นมันก็เข้าปะทะกับโล่อากาศต่อเข้าอย่างจัง ก่อนที่จะทำลายไปได้อย่างง่ายดาย ตามด้วยกำแพงน้ำของดาเรียและตาข่ายเวหาที่วางซ้อนกันอยู่ถึงสามชั้น
สวบ!!!! จากนั้นมันที่ทำลายทุกการป้องกันตรงหน้าผมไปทั้งหมดแล้ว ก็พุ่งตรงมาหาผมด้วยพลังทำลายล้างที่สูงดังเดิม
หมับ!!!! เพราะอย่างนั้นผมถึงต้องอัดพลังเวทย์ทั้งหมดลงไปที่ใบดาบ ทำเอาออร่าสายฟ้าที่อยู่ในรูปลักษณ์อาภรณ์อัสนีทมิฬหายไป กลายเป็นใบดาบเล่มสีดำสนิทที่พวยพุ่งไปด้วยพลังของอัสนีสีทมิฬแทน
"ระบำดาบเทพทมิฬอัสนีคำราม!!!!" จากนั้นก็ฟาดฟันออกไปอย่างเต็มแรง ด้วยคมดาบเดียวที่อัดแน่นไปด้วยการฟาดฟันเป็นร้อยเป็นพันครั้งไว้ในการโจมตีเดียว เป็นการทุ่มพลังเวทย์ทั้งหมดลงไปที่การโจมตีนี้
พลั่บ!!!!!
เพราะอย่างนั้นทั้งสองฟากฝั่งของพื้นที่ปลอดภัย จึงดูเหมือนว่าเป็นการต่อสู้กันของแสงสว่างและความมืดเลย ที่ฝั่งของเธอนั้นส่องสว่างไปด้วยประกายของความสว่างไสวของพลังศักดิ์สิทธิ์ กับฝั่งของผมที่หม่นหมองไปด้วยความมืดมิดของพลังทมิฬจากสายฟ้าสีดำสนิท ที่มันทั้งสองนั้นพุ่งตรงเข้าหากันด้วยพลังทำลายล้างอันมหาศาล
ตับ!!!!!!!! ที่ปะทะกันเข้าอย่างจัง จนเกิดเป็นการระเบิดที่ทำเอาทั่วทั้งชั้นสั่นไหว พร้อมด้วยแรงลมจากการปะทะที่พัดหวนไปทั่วทั้งพื้นที่
"ฮ่าห์ ฮ่าห์" ที่ดูเหมือนว่าการปลดปล่อยพลังนั้นจะหยุดการโจมตีของเธอเอาไว้ได้ พลั่บ!!! แต่ทว่ามันเป็นการใช้พลังเวทย์ที่มากเกิน มากขนาดที่ว่าตัวผมอ่อนแรงจนไม่อาจทรงตัวไหว ทำเอาเข่าทรุดจนลงไปนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้น ต้องเอาคมดาบปักพื้นยันร่างกายอันอ่อนแรงนี้ไว้
"เซย์จิ!!" ดาเรียที่เห็นอย่างนั้นก็ตะโกนขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับขยับตัววิ่งตรงมาหาผม
พลั่บ!!!! แต่กลายเป็นว่าคนที่เข้ามาประชิดตัวผมก่อนนั้นไม่ใช่ดาเรีย แต่เป็นเธอคนนั้นที่มาปรากฏกายยืนอยู่ตรงหน้าผม
"....." พลางมองหน้าสบสายตาผมด้วยแววตาอันไร้แววเยี่ยงคนที่ไม่มีสติเหมือนเดิม
หมับ!!! จากนั้นเธอก็ขยับมือข้างหนึ่งเข้ามาที่คอของผม
"อึก!!!!" แล้วบีบมันพร้อมด้วยยกร่างอันอ่อนแรงของผมขึ้นมาจากพื้น
[MP : -1250/3500]
"อึก!!!! อือ อื้อ!!!" ซึ่งผมก็ไม่สามารถที่จะต่อต้านอะไรเธอได้เลย เพราะระดับมานามันติดลบ ชนิดที่ว่าขับพลังชีวิตออกมาเป็นพลังเวทย์ แม้แต่แขนขาก็ยังขยับไม่ได้ เพียงแค่ยังคงสติให้หายใจต่ออยู่ได้ก็เต็มกลืนแล้ว
"อุตส่าห์รอดมาได้ตั้งนาน แต่สุดท้ายเจ้าก็ยังกระเสือกกระสนกลับมาให้ข้าฆ่าอยู่ดีสินะ ไอ้ผู้กล้าขยะ"
"......" น้ำเสียงแบบนี้ วิธีการพูดแบบนี้ ผมจำมันได้เป็นอย่างดี มันคือน้ำเสียงของยัยเทพธิดาเฮงซวยไม่ผิดแน่ "แก อึก!!! ยัยเทพธิดาเฮงซวย" ถึงจะไม่รู้ว่าเธอทำได้ยังไง แต่มันยิ่งทำให้ยิ่งหัวเสียขึ้นไปอีก เมื่อเธอกล้ามาใช้น้ำเสียงอันน่าสะอิดสะเอียนนั่น พูดออกมาด้วยใบหน้าของแม่ผม
"ไหนๆ ก็ต้องตายอยู่แล้ว งั้นก็ตายไปเลยแล้วกัน จะได้ไม่ต้องทรมานมาก แล้วก็คืนพลังของข้าที่แกขโมยไปกลับมาได้แล้ว"
หมับ!!!! ในตอนที่เธอพูดจบนั้น มืออีกข้างที่ว่างอยู่ก็ถูกยกคมดาบขึ้นมา
สวบ!!!! จากนั้นเธอก็เอามันแทบมาที่ตรงกลางอกข้างซ้าย ยังดวงใจของผม
เคล้ง!!!! แต่ก่อนที่คมดาบจะถูกแทงเข้ามา ก็เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นมาจากทางด้านบน พร้อมด้วยผลึกแก้วสีฟ้าครามขึ้นร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า ทั้งผม ทั้งเธอที่แหงนขึ้นไปมองตามก็เห็นว่าท้องฟ้าด้านบนมันได้แตกสลายเป็นรูกว้าง กลายเป็นผลึกที่ร่วงโรยลงมา และยังไม่ทันที่จะได้รู้ว่ามันคืออะไร
ตับ!!!!!!!!! ร่างบางของเธอคนนั้นที่บีบคอผมอยู่ก็หายวับไปจากตรงหน้าของผม แล้วไปปรากฏขึ้นอีกครั้งที่อีกฝั่งของมุมห้อง เป็นร่างบางที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศหลังจากที่ถูกอะไรบางอย่างปะทะเข้าอย่างจัง ซึ่งตรงหน้าของผมก็มีออร่าเวทย์สีเลือดลอยคลุ้งอยู่ และเมื่อออร่านั้นจางหายไป ผมก็ได้เห็นว่าคนตรงหน้าตัวเองนั้นคือมีร่า และก็เป็นมีร่านี่เองที่เตะเธอคนนั้นจนกระเด็นไป
"ไม่เป็นอะไรใช่ไหมเซย์จิ" จากนั้นเธอเปล่งเสียงถามผมขึ้นมา พร้อมกับขยับฝ่ามืออันเรียวบางยื่นมาตรงหน้าตัวผมที่ล้มลงไปนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นอีกครั้ง
"ไอ้พวกเผ่ามารชั้นต่ำ!!!" แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้จับกับมือข้างนั้นของมีร่า เสียงของไดอาน่าก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมด้วยหมัดของเธอที่พุ่งเข้ามาต่อยมีร่าอย่างเต็มแรง
ตับ!!!!! แต่มีร่าก็รับหมัดนั้นไว้ได้ด้วยมือข้างที่ผมกำลังจะเอื้อมไปจับ
"เสียงของพวกชาวสวรรค์นี่มันยังหนวกหูเหมือนเดิมเลยนะ แล้วก็ยังทำอะไรที่มันสกปรกๆ น่ารังเกียจเหมือนเดิมด้วย" มีร่าไม่ได้พูดเปล่า แต่ยังขยับตัวง้างหมัดต่อยไดอาน่าสวนกลับไปด้วย
ตับ!!! ตับ!!! ซึ่งทั้งสองหมัดนั้นก็เข้าที่ใบหน้าของเธออย่างจัง จนร่างบางนั้นเซถอยหลังไปตามแรงที่ต่อยเข้ามา
"ยัยมีร่า!!!!" ทำเอาไดอาน่าหัวเสียไม่ใช่น้อย สวบ!!!! จากนั้นเธอก็ต่อยสวนกลับไปบ้าง
ตับ!!! ที่มีร่าก็รับเอาไว้ได้อีกครั้งเหมือนเดิม ด้วยมือข้างเดิม
"เอาร่างจริงของเจ้าเข้ามาในหอคอยสิ ต่อยหน้าเจ้าบนร่างคนอื่นอย่างนี้มันไม่ค่อยมันมือเท่าไหร่"
"อย่ามาได้ใจไปหน่อยเลย เจ้ามันก็แค่เผ่ามารชั้นต่ำที่ไม่มีแม้แผ่นดินจะอยู่ ขนาดเผ่าพันธุ์ของเจ้ายังสูญสิ้นไปแล้วเลย" และเพราะคำพูดนั้นของมีร่าก็ทำให้ผมได้เข้าใจ ว่าทำไมเสียงของยัยเทพธิดานั่นถึงออกมาจากเธอคนนี้ ถึงจะไม่ค่อยมั่นใจแต่ดูเหมือนว่าเธอคนนี้จะถูกยัยไดอาน่าควบคุมสติสัมปชัญญะของตัวเองอยู่ มันก็เลยทำให้เธอที่ไม่ได้เป็นชาวสวรรค์สามารถใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างที่เห็น
"เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอก เพราะอีกไม่นานเผ่าพันธุ์ของเจ้าก็จะต้องสูญสิ้นด้วยเหมือนกัน ทั้งเจ้า ทั้งไอ้โอไรออนนั่นด้วย"
"อย่าเอาปากสกปรกๆ ของเจ้ามาเรียกชื่อท่านผู้นั้นนะ"
"งั้นก็ขอลาขาดแล้วกัน เบื่อจะคุยกับพวกชาวสวรรค์สกปรกๆ เต็มทนแล้ว"
พลั่บ!!!! มีร่าไม่ได้พูดเปล่า แต่ยังรวบรวมพลังเวทย์ไว้ที่มือฝ่ามือข้างที่ว่างอยู่ จนมือข้างนั้นมีแต่ออร่าสีเลือดห่อหุ้มทั่วทั้งมือ จากนั้นเธอก็เอามันต่อยเข้าไปยังใบหน้าสวยๆ ของร่างที่ไดอาน่าควบคุมอยู่อย่างจัง
ตับ!!! ตับ!!! ตับ!!! ที่แต่ละหมัดนั้นทำเอาพลังศักดิ์สิทธิ์ที่พวยพุ่งออกมาจากเรือนร่างของเธอค่อยๆ จางหายไปทีละน้อย ทีละน้อย จนในหมัดสุดท้ายมันก็จางหายไปทั้งหมด พร้อมกับเรือนร่างของเธอคนนั้นที่กลับมาอยู่ในสภาพสิ้นสติดังเดิม
#ผู้กล้าขยี้สวาท
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??