เรื่อง เกิดใหม่กับระบบ คนขับราคะ
“วันนี้แม่ำอะไรกินคะ” มะขิงถามพลางทิ้งตัวนั่งลงข้างุเอมบนโซฟาหน้าทีวี
ุเอมยังไม่ละสายตาจากข่าวในจอ แล้วเอ่ยถามกลับ “มะขิงอยากทานอะไรล่ะ เดี๋ยวแม่ใ้พี่เหมยกับพี่กิ่งำใ้”
“อืม... ยังมีแซนด์วิชเหลืออยู่ไหมคะ” มะขิงเอ่ยต่อ
“เหลืออยู่นะ มะขิงจะเาไหม?”
“ค่ะ” เธอตอบสั้น ๆ และพยักหน้าเบา ๆ
ุเอมหันไปบอกพี่กิ่งใ้อบแซนด์วิชใ้ แต่ยังไม่ทันขาดคำ เสียงอีกค็ดังแทรกขึ้นมา “พี่กิ่งคะ ขอหนูด้วยนะคะ”
ขมิ้นเดินลงบันไดมาในชุดนอนลายทางสีฟ้าอ่อนสลับขาว ก่อนจะตรงไปนั่งบนโซฟาเช่นเดียวกัน เวลานี้สามแม่ลูกอยู่กันพร้อมหน้า
ุเอมหันไปมองขมิ้น ก่อนจะเอื้อมมือช่วยคลายปอยผมี่พัันยุ้ง แล้วเอ่ยถาม “ขมิ้ลับมาตอนไลูก...”
“กลับมาเมื่อคืนคะดึก ๆ” ขมิ้นพูดขณะี่หางตาเหลือบมองมาี่ผม ก่อนจะเสริมขึ้นอีก่า “แม่คะพี่คนขับรถจะกลับวันนี้ใช่ไหมคะ”
ขมิ้นพูดจบุเอมก็หันหน้ามองมาี่ผม แล้วพูด “ใช่จ้ะลูก พี่เขาจะกลับวันนี้แล้ว พ่อก็จะกลับมาวันนี้ตอนบ่ายๆ นู้นแหละ”
“เหรอคะ” ขมิ้นตอบ
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง
ขณะี่ผมกำลังเช็ดำความสะอาดรถและตรวจสภาพสิ่งต่าง ๆ อยู่ ทันใดนั้้อนเมฆดำทะมึ็ลอยเข้ามาปกคลุมน่านฟ้า ก่อนี่เสียงฟ้าร้องจะดังโครมคราม !!!
สายลมแรงพัดวูบผ่าน ำใ้ผ้าี่ตากไว้ปลิวสะบัดไม่หยุด ก่อนี่เม็ดฝนเม็ดแรกจะตกกระทบพื้นดัง แปะ
พี่กิ่งกับพี่เหมยรีบวิ่งออกมาเก็บผ้าี่ตากไว้ ผมเองก็ต้องกระโจนเข้าไปช่วยด้วยเช่ัน พวกเราสามคนวิ่งวุ่นหอบผ้ากันอย่างทุลักทุเล ท่ามกลางสายลมี่พัดแรงกับเม็ดฝนี่เบาบาง
หลังจากเก็บผ้าี่ตากไว้ได้หมด ฝน-่าใหญ่ก็กระหน่ำลงมาอย่าง้าั่ น้ำฝนสาดกระแทกกระจกหน้าต่างดังเปาะแปะไม่ขาดสาย เสียงลมหวีดหวิวลอดเข้ามาตามช่อง่างของบ้าน บางครั้งหน้าต่างก็สั่นไหวราวกับจะถูกกระชากหลุดออกไป
ผมนั่งหอบหายใจี่ใต้หลังคาของโรงรถ พลางมองหยดน้ำี่หยดลงมาจากหลังคา พร้อมกับเสียงฟ้าร้องี่ดังสนั่นจนพื้นบ้านสะเทือน
ตู้ม----!!!
เสียงฟ้าผ่าดังสนั่นลงี่ไสักแห่ง ไม่ไกลจากี่นี่นัก ทันใดนั้นไฟทั้งบ้า็ดับวูบลง ความมืดเข้าปกคลุมทันที
ผมรีบก้าวกลับเข้ามาในบ้าน ตรงไปทางห้องครัวก็เห็นพี่เหมยกับพี่กิ่งกำลังยุ่งอยู่กับผ้าี่เพิ่งเก็บเข้ามาเปียกชื้องใหญ่ สายตาผมเหลือบไปยังห้องนั่งเล่น แต่ตอนนี้กลับ่างเปล่า ไม่มีใครอยู่แล้ว
ทันใดนั้น พี่กิ่งเงยหน้าขึ้นเห็นผม ก่อนจะร้องบอกออกมา “น้องวายุ เาไฟฉายไปใุ้นายหน่อยนะ ี่หน้าห้องุนายุนายรออยู่” เธอเอ่ยพลางชี้ไปี่ตู้เหนืออ่างล้างจาน
ผมยื่นมือไปเปิดตู้แล้วหยิบไฟฉายออกมา ก่อนจะก้าวฉับ ๆ ออกจากห้องครัวไป ระห่างก้าวเดิน ความคิดหนึ่งก็แล่นเข้ามาในหัวผม ภายในบ้า็ไม่ค่อยมืดเท่าไหร่ จะใช้ไฟฉายไปำไมกันนะ
เมื่อมาถึงหน้าห้องุเอม ผมกลับพบ่าเธอไม่อยู่ ผมยืนมองประตูห้องอยู่สักพัก ก่อนเคาะเบา ๆ ก๊อกๆ รออยู่หลายวินาที แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับ
ผมเคาะซ้ำอีกครั้ง แต่ก็ยังคงเงียบเหมือนเดิม สุดท้ายจึงเอื้อมมือไปบิดลูกบิดแล้วค่อย ๆ ดันประตูใ้เปิดออก
แต่ทันใดนั้น ประตูทางด้านซ้ายมือกลับเปิดออกพอดี ำใ้ผมต้องรีบหันไปมอง
ผมปิดประตูตรงหน้าแล้วหมุนตัวหันไปทันที สายตาผมค้างอยู่ี่ภาพตรงหน้าไม่กะพริบ ดูเหมือน่าุเอมกำลังแต่งตัวอยู่พอดี ี่สำคัญคือเธอสวมแค่กางเกงชั้นในสีดำกับเสื้อเชิ้ตคอปกสีขาวี่กระดุมยังติดไม่ครบทุกเม็ด และมืออีกข้างของเธอกำลังติดกระดุมเสื้อเชิ้ตอยู่
ุเอมแสดงสีหน้าตกใจเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงรีบเร่ง “ำไมุมาอยู่ตรงนี้?” ขณะมืออีกข้างเอื้อมไปหยิบเสื้อคลุมี่แขวนอยู่หลังประตูมาคลุมตัว
ผมยิ้มออกมาแล้วตอบกลับไป “ผมเาไฟฉายมาใ้ครับ พี่กิ่งบอกใ้เามาใ้พี่ี่นี่” แล้วยื่นไฟฉายใุ้เอม
ขณะี่เธอกำลังจะปิดประตู ผมยิ้มเล็กน้อย แต่ทันใดนั้นเธอกลับเรียกใ้ชื่อผม และเอ่ยต่อ่า “ุวายุ...ุช่วยเารองเท้าใ้ฉั่อนหน่อยสิ พอดีมันอยู่สูง”
เธอเปิดประตูอ้าออกอีกครั้ง ก่อนจะเดินนำเข้าไปโดยไม่ได้เอ่ยอะไรต่อ ผมเดินตามเข้ามา กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของเธอปะปับกลิ่นหอมของผ้าี่แขวนไว้ในตู้ภายในห้อง
ผมก้าวเข้าไปสองก้าวแล้วค่อยปิดประตูตามหลัง แต่เธอกลับหยุดเดิน ก่อนจะหันหลังกลับมา เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ “ุยัง…อยากำเรื่องี่เราพลาดไปเมื่อคืนไหม”
ทันทีี่เสียงของเธอจบลง ผมก็กดล็อกประตูห้องเสียงดัง แกร็ก..! ริมฝีปากแสดงรอยยิ้มบาง ๆ แต่ไม่ได้ตอบอะไร
สายตาของเธอยังคงจับจ้องมาี่ผม ราวกับรอคำตอบจากผมอยู่ ผมเห็นเป็นเงาราง ๆ
ไม่กี่วินาทีต่อมา ผมเดินผ่านเธอเข้าไปในห้อง กวาดสายตามองรอบๆ ห้องี่กว้างราวหนึ่งเมตร เมื่อก้าวเข้าไปสามสี่ก้าวก็เจอทางเลี้ยวขวา บริเวณกลางห้องมีม้านั่งตัวยาววางอยู่กับพื้น ภายในห้องดูเหมือนจะเป็นรูปทรงตัวแอล
ตรงสุดทางมีบล็อกแก้วใ้แสงส่องเข้ามาบ้าง แต่ก็สลัว ๆ เพราะข้างนอกฟ้ามืดครึ้มฝนตกหนัก แถมไฟยังดับอีก ำใ้ห้องนี้มีเพียงแสงนวล ๆ สลัว ๆ จนไม่สามารถมองเห็นรายละเอียดของเสื้อผ้าในตู้ได้
ผมเดินไปหยุดี่ม้านั่ง ก่อนจะนั่งลงแล้วหัลับไปทางี่เพิ่งเดินเข้ามา ไม่นานุเอมก็เดินตามมาและหยุดอยู่ตรงหน้า
บรรยากาศในห้องเงียบสงัด เหลือเพียงเสียงฝนี่ตกกระหน่ำอย่างต่อเนื่อง
ผมยิ้มใ้เธออย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ่า
“ผมจะไม่ตอบอะไรพี่ทั้งนั้น ถ้าหาก่าี่ไม่ขอผมดี ๆ ่า้าำอะไร” ผมจ้องตาเธออย่างตั้งใจ
เธอสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ จากนั้นเธอก็ถอดเสื้อคลุมตัวยาวออกพร้อมกับเอ่ย่า “ฉัน้าุ” ผมได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ลอยแตะจมูก
“ช่วยำใ้ฉันมีความสุขก่อนีุ่จะไป...ได้ไหม” เธอเอ่ยเสริมด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ดวงตาของเธอมองมาี่ผมอย่างเร่าร้อน
ผมกลืนน้ำลายลงคอทันทีี่ได้ยินเสียงคำขอของเธอ ราวกับเป็นคำขอจากสรวงสวรรค์ เพียงแค่เสียงของเธอก็ำใ้ผมรู้สึกแข็งทื่ออย่างไม่น่าเชื่อ
ผมไม่คิดเลย่าเธอจะกล้าพูดออกมาจริงๆ เพราะถึงอย่างไรผมก็ตั้งใจจะกระำกับเธออยู่แล้ว
ผมเอ่ยเสียงเสียงเรียบกลับไป “พี่ครับ แลบลิ้นออกมาหน่อย” เมื่อสิ้นเสียง เธอก็ำตามผมอย่าง่าง่าย
“ถอดี่เหลือออกใ้หมด”
ทันใดนั้น ใบหน้าขาวๆ ของเธอแดงระเรื่อจนเห็นได้ชัด แม้จะมีเพียงแสงสลัวจากภายนอกเท่านั้น เธอยอมำตามคำสั่งผมอย่าง่าง่ายราวกับ่าผมเป็นเจ้านายของเธอยังไงอย่างงั้น
จากนั้นผมลุกขึ้นแล้วเอ่ยเสริม “ถอดของผมด้วยสิ” เธอพยายามอยู่ครู่หนึ่ง จนในี่สุดร่างกายของผมก็เปลือยเปล่า
ทันทีี่เธอเปลื้องผ้าของผมออกจนหมด แก่ายของผมก็พลันออกมาตั้งตะหง่านตรงหน้าเธอ
ริมฝีปากของเธอเผยอออกเล็กน้อย ดวงตาของเธอมองมาี่แก่ายของผมอย่างไม่วางตา ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอต่อด้วยขบเม้มริมฝีปาก
เรือนร่างนาฬิกาทรายร้อนรุ่มท่ามกลางแสงไฟสลัว ขณะนั้นเองี่ห่างขาของเธอก็มีน้ำใส ๆ ไหลเยิ้มลงตามต้นขา ผมัู้ได้่าเธอ้าผมาขนาดไ ถึงขั้นี่ยอมำตามคำสั่งผมได้อย่าง่าง่ายขนาดนี้
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??