เรื่อง ยุทธวิจิตรพิชิตจักรภพ
ฮา ฮา ฮา .. เีหัวเราะอย่างสะใจของพันุาดังก้องทั่วห้องวิหารใต้ปราสาทหงส์ทะยาน อุทัยกำลังสับสน .. ความจริงเป็นเช่นไรกันแน่
พันุาพล่ามวาจาต่อ "หลวงอโณทัย .. หนอ .. หลวงอโณทัย .."
"เพลงดาบเลิศภพจบแดนของท่าน .. กลับไม่สามารถรักษาชีวิตของท่านและภรรยาเอาไว้ได้ .."
"ถึงแม้บุตรของท่านยังมีฝีมืออยู่บ้าง .. แต่ช่างโง่เง่ายิ่งนัก .. ยังมาตายเพราะมันอีกคน .. ฮา ฮา ฮา"
อุทัยรับฟังจนคิ้วกระตุก กล่าวว่า "มัน ! อันใดของเจ้า"
"ก็เจ้านพฤทธิ์ .. อย่างไรเล่า .. ผู้ที่ฆ่าบิดาของเจ้า .. ฮา ฮา" พันุากล่าวหัวเราะไม่ยอมหยุด
"!!!" อุทัยถึงกับตกตะลึง .. เจ้านพฤทธิ์ .. หรือเจ้านพเทพมหาจักรา .. ราชาแคว้นมัธยะปุราองค์ปัจจุบัน
"วาจาสุนัข!" เีก่นด่าาพันวายุ
"หรือว่าไม่จริง .. วายุ .. น้องพี่ .. ฮี ฮี" พันุากล่าวกับพันวายุ แล้วกล่าวกับอุทัยต่อ
"เด็กน้อย .. จะว่าไปคงต้องโทษมารดาของเจ้า .. ประภัทรา .. นางผู้นั้นงดงามเกินไป .."
"มัน .. เจ้านพฤทธิ์ลุ่มหลงมารดาของเจ้าอย่างสุดหัวใจ .. จึงดำเนินอุบายสังหารหลวงอโณทัย บิดาของเจ้า .."
"การศึกที่เมืองมะริตครั้งนั้น .. มันร้องขอตัวบิดาของเจ้าาเจ้าหลวง .. ไปช่วยทำศึก .."
"สุดท้ายบิดาเจ้าถูกอุบายจนต้องอาญามีโทษถึงกุดหัว .. ส่วนมารดาเจ้าก็ตรอมใจตายในเวลาต่อมา .."
"ไม่เชื่อลองถามมันดู .. ฮา ฮา ฮา" พันุาบุ้ยปามาทางพันวายุ
.. อุทัยสมองอื้ออึง .. ดวงตาของมันแดงฉานหันกลับมามองพันวายุ ตะคอกถามดังลั่น "จริงหรือไม่ !!! .. มันกล่าวจริงหรือไม่"
".." พันวายุมันก้มหน้าไม่มีวาจาใดจะกล่าว .. เรื่องราวทั้งหมดคือความจริง
อุทัยร่างแน่นิ่งกล่าววาจาพึมพำ "ข้าไม่เชื่อ .. ท่าน .. ท่าน .."
พันุากล่าวอย่างอารมณ์ดี "เจ้าลาโง่ .. เล่าสั้นๆ ยังไม่เชื่อ .. หรือจะให้เล่ายาวๆ .. ฮา"
.. เรื่องที่พันุากล่าวล้วนคือความจริงทั้งสิ้น .. เจ้านพฤทธิ์ .. เจ้าชายอันสูงศักดิ์แห่งแคว้นมัธยะปุรา .. มันผู้นี้หยาบช้ามองเห็นผู้อื่นเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตอันต่ำต้อย .. มักช่วงชิงทุกสิ่งที่มันต้องการโดยไม่สนใจใดๆ ทั้งสิ้น
เจ้านพฤทธิ์หลงรักนางประภัทราตั้งแต่แรกเจอ ครั้งเมื่อนางเพิ่งเดินทางไกลมาาอโยธยา .. แต่นางได้พบรักและสร้างครอบครัวกับหลวงอโณทัยจนให้กำเนิดอุทัย .. ถึงเวลาผ่านไปหลายปี แต่เจ้านพฤทธิ์ยังคงปักใจมั่นในนางประภัทรา
หลวงอโณทัยก้าวหน้าในราชการจนได้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการหน่วยราชองครักษ์หงส์ทอง .. หน่วยราชองครักษ์ส่วนพระองค์ขององค์เจ้าหลวง .. ราชาแห่งแคว้นขณะนั้น
เจ้านพฤทธิ์เป็นบุคคลกลิ้งกลอกเจ้าปัญญาทำการวางแผนกำจัดหลวงอโณทัย ประกอบกับตอนนั้นแผ่นดินกำลังวุ่นวายในการศึกกับแคว้นมหาการีย์
มันอาสานำกำลังไปยันทัพมหาการีย์ที่เมืองมะริตซึ่งเป็นเมืองยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุด .. และได้ร้องขอตัวหลวงอโณทัยาพระบิดาของมัน .. และด้วยความสามารถของหลวงอโณทัยนี้เอง ทัพมัธยารักษาเมืองมะริตตรึงทัพข้าศึกได้ถึงสามเดือน
สุดท้ายหลวงอโณทัยถูกอุบายใส่ความด้วยข้อกล่าวหาอุกฉกรรจ์ว่าเป็นไส้ศึกของทัพมหาการีย์ .. เจ้านพฤทธิ์ไม่รอช้าใช้อาญาสิทธิ์ของแม่ทัพผู้บัญชาการศึกสั่งประหารหลวงอโณทัยในบัดดล
แต่หลวงอโณทัยไม่ยินยอม .. มันมีเพลงดาบเป็นเลิศ ทะลวงฝ่าด่านกลับมาจนถึงเมืองนพรัตน์ .. ก็เพื่อกลับมาหาภรรยาของมัน .. หรือประภัทรามารดาของอุทัยนั่นเอง
แต่สุดท้ายทั้งคู่หลบหนีไม่พ้น .. หลวงอโณทัยถูกอาญาสังหาร .. ส่วนนางประภัทราถูกคุมขังและตรอมใจสิ้นชีวิตไปอีกคน
ต่อมาอีกเพียงสัปดาห์เมืองมะริตก็ถูกทัพมหาการีย์ยึดครอง .. และนั่นก็เป็นสาเหตุสำคัญของการเสียกรุงนพรัตน์ในคราวนั้น
.. อุทัยสายตาเหม่อลอย .. กระแทกเข่าทั้งสองลงบนพื้นวิหาร ปายังพึมพำ ".. มะ .. ไม่จริง .. เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้"
หัวสมองของอุทัยกลวงว่างเปล่า .. ความมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อประเทศชาติพังทลายไปแล้ว
"รู้เช่นนี้แล้ว .. เจ้ายังจะรับใช้ผู้ที่สังหารบิดามารดาบังเกิดเกล้า .. อีกหรือ .." พันุากล่าวขยี้หัวใจของอุทัยจนป่นปี้
ฮา ฮา ฮา .. พันุาหัวเราะรู้สึกบันเทิงในความโศกเศร้าของผู้อื่น เีหัวเราะเยาะของมันดังกึกก้องไปถึงดวงจิตของอุทัย
อุทัยหายใจอย่างหนักหน่วงร่างกายสั่นสะท้าน .. าความโศกเศร้าแปรเปลี่ยนเป็นความคับแค้น ..
อุทัยหันไปกล่าวกับพันวายุด้วยน้ำเีเย็นเหยียบ "เหตุใด .. เมื่อรู้ว่าข้าคือบุตรของบิดาอโณทัย .. จึงไม่เล่าความจริงออกมา .."
พันวายุกล่าว "ข้า .." มันไม่สามารถพูดคำใดได้ คำพูดทั้งหมดจุกอยู่ในอกของมัน
พันุากล่าวสอดขึ้นมา ".. เพราะมันหวังใช้ประโยชน์าเจ้า .. จะให้บอกได้อย่างไร ฮา ฮา ฮา"
อุทัยหันกลับมากล่าวกับพันุา "และที่เจ้ากล่าวเสียยืดยาว .. ก็เพียงเพื่อหวังประโยชน์าข้าเช่นกันใช่หรือไม่ .."
พันุาทำหน้าเจ้าเล่ห์ กล่าวว่า "จิ จิ .. เจ้าหนุ่มผู้นี้เริ่มฉลาดขึ้นมาบ้างแล้ว .." มันกล่าวต่อ "เมื่อรู้เช่นนั้นก็ส่งมอบตราหยกนั่นคืนกลับมาเสียโดยดี .. ตายไปจักได้สู้หน้าบิดามารดาของเจ้าได้ .."
พันวายุลุกขึ้น มันกล่าวโดยเร็ว "อย่า .. อย่ามอบตราหยกให้มัน .. หาไม่แล้วแคว้นมัธยาเราอาจต้องเสียกรุงนพรัตน์ไปตลอดกาล"
พันุากล่าวขึ้นมาอีก "แล้วจะอย่างไร .. ผู้เข้มแข็งเท่านั้นจึงจะได้หยัดยืนบนผืนแผ่นดินนี้ .. ฮา ฮา"
เฮ๊อออ !!! เีทอดถอนใจระคนความเบื่อหน่ายดังลอดออกมาากลุ่มมือสังหารภูตทมิฬ เงาร่างสูงโปร่งร่างหนึ่งก้าวออกมาเบื้องหน้า .. มันคือ 'จอมภูตดำ' รองผู้บัญชาการกองภูตทมิฬ
จอมภูตดำกล่าวด้วยเีเฉื่อยชา "เหตุใด สวะมัธยาเช่นพวกเจ้า จึงพล่ามรำพันกันอยู่เนิ่นนาน"
พันุาหันมากล่าวด้วยน้ำเีอันนอบน้อม "ท่านผู้บัญชาการโปรดใจเย็น .. ตราหยกนั่นต้องถึงมือท่านราชครูอย่างแน่นอน"
พันุาสอพลอกล่าวเรียกจอมภูตดำขยับฐานะเป็นผู้บัญชาการ ทดแทนตำแหน่งของ 'จอมตรีภูต' ที่เพิ่งตกตายไป
จอมภูตดำรับฟังจนตาวาวยิ้มมุมปาแล้วกล่าว "ไม่เห็นยากเย็นอันใด .. เพียงเชือดคอเจ้าสองคนนี้เสีย .." ดาบสองมือขยับดังขวับๆ แล้วมองผ่านลูกสมุนที่นอนกองอยู่บนพื้น สายตาจับจ้องมายังตราหยกในมือของอุทัย
.. จิตสมาธิของอุทัยกระเพื่อมไหวอย่างรุนแรงด้วยความคับแค้นในสาเหตุการตายของบิดามารดา .. มันก้มหน้ามองตราหยกวิเศษในมือ
นี่ .. ข้ากำลังกระทำเพื่อสิ่งใด ..
เพื่อ .. บุคคลเลวทรามผู้นั้น .. ผู้ที่สังหารบิดามารดาอันเป็นที่รัก
หรือเพื่อ .. ชาวประชามัธยาทั้งมวล .. หรือเพื่อ .. การดำรงอยู่แห่งแคว้นมัธยะปุรา
.. สีหน้าของอุทัยสลดเหยเก .. บัดเดี๋ยวแดงก่ำ .. บัดเดี๋ยวหมองคล้ำ .. มันยืนนิ่งอยู่เนิ่นนาน ราวกำลังตัดสินใจบางสิ่ง
ทุกคนในวิหารเห็นอุทัยยืนนิ่งราววิญญาณโผบินออการ่าง .. ความคิดช่วงชิงตราหยกวิเศษเกิดขึ้นในทันใด ..
.. จอมภูตดำส่งสัญญาณมือ ภูตทมิฬอีกยี่สิบตนพุ่งเข้าหาอุทัยอย่างว่องไว
.. พันวายุที่อยู่ใกล้สุดกระโจนตัวเข้าใส่
.. พันุาจ้องมองตาเขม็งค่อยๆ สาวเท้าก้าวเข้ามา
มือขวาของพันวายุยื่นสุดเหยียดนิ้วทั้งห้ากางคว้าตะปบตราหยกห่างเพียงห้าคืบ .. ปราณดาบแหลมคมาภูตทมิฬหลายสิบเล่มกำลังพุ่งตรงมายังร่างอุทัยและพันวายุ ..
พันุาก้าวเดินกระหยิ่มยิ้ม .. ทั้งสองไม่เพียงต้องตาย .. ทั้งยังต้องตายอย่างอนาถ
แต่แล้วพันุาพันวายุและจอมภูตดำถึงกับสะดุ้งโหยง ทั้งผมบนศีรษะทั้งขนทั่วร่างกายชี้ชัน .. พลังปราณสุดประหลาดแผ่กระจายออกมาาอุทัย
ระหว่างที่ทั้งหมดจะช่วงชิงตราหยกกัน อุทัยพลันเงยหน้าแหงนมองเพดานวิหารดวงตาของมันแดงดังเปลวอัคคีแผดเผา .. แล้วจึงร่ำร้องออกมาเีดังสนั่น
อ๊ากกกกกกกกกก !!!!!! น้ำเีของอุทัยดังกึกก้อง
.. เป็นเีความขมขื่นคับแค้นแผดดังออกาจิตวิญญาณ
.. มันสูญเสียจิตสมาธิไม่สามารถควบคุมพลังปราณได้อีกต่อไป
เฮ่ยยยย !!! ดวงตาของพันวายุตาที่จ้องมองอุทัยแทบเหลือก มันเร่งเร้าพลัง 'มงกุฎยอดคงกระพัน' คุ้มครองกายโดยทันใด
พันุาแทบไม่เชื่อสายตาตนเอง แต่ด้วยสัญชาตญาณมันย่อขานำสองแขนไขว้เป็นกากบาท ทำการโคจรพลัง 'มงกุฎยอดคงกระพัน' ถึงขีดสุดเช่นเดียวกับพันวายุ
.. ตู้มมมมมมมมม !!!!!! เีดังกัมปนาท พลังปราณเพียงลำดับต้นของ ‘อัคระปราณยุทธ์’ ปะทุระเบิดออการ่างกายของอุทัย .. แต่พลังช่างรุนแรงเข้มข้นจนบุคคลทั้งหมดปาอ้าตาค้าง
อ๊ากกกกก !!! เีร้องระงมของเหล่ามือสังหารภูตทมิฬ พวกที่อยู่ใกล้นับสิบๆ ร่างปลิดปลิวกระเด็นราวเศษใบไม้ .. พวกมันถูกพลังปราณพิสดารกระแทกจนร่างกายบิดเบี้ยว กระดูกแตกบี้ป่น อวัยวะภายในของพวกมันแหลกเหลวในทันที
จอมภูตดำเฝ้ามองเหตุการณ์กระโดดถอนร่นไปจนติดผนังวิหาร
ร่างของพันวายุปลิวไปกระแทกเสาวิหารดังสนั่น .. แขนขวาของมันหักจนผิดรูป .. ร่างกองแน่นิ่งโลหิตข้นทะลักออกาปาู
พันุาก็ไม่ได้ดีไปกว่าผู้อื่น ถึงอยู่-่างกว่าแต่ร่างของมันถูกกระแทกถอยไปกว่าสิบห้าก้าว .. ใบหน้าของมันซีดเผือดมือกุมหน้าอกที่ปามีเลือดไหลซิบ .. ด้วยพื้นฐานการฝึกปรือวิชาคงกระพันระดับสูงยังถูกทำร้ายจนบาดเจ็บถึงภายใน
พลังปราณกระแทกกระถางคบเพลิงและสิ่งของจนกระจัดกระจาย .. ภายในวิหารยังมีแสงสว่างส่องออกมาาร่างต้นตอของพลังปราณนั้น .. ทุกคนที่ยังมีชีวิตอยู่จ้องมองมายังร่างของอุทัย
อุทัยยืนจังก้าหายใจอย่างเหนื่อยหอบจนตัวไหวกระเพื่อม .. ใบหน้าถมึงทึงดุร้ายราวยักษ์อสูร ลูกตาเป็นสีแดงาเส้นเลือดฝอยจนแทบมองไม่เห็นตาขาว นัยน์ตาดำมีลายอักขระสีดำสนิทวิ่งวน
ทั่วทั้งร่างกายแขนขาและใบหน้าเกิดลวดลายอักขระยันต์อันแปลกประหลาด .. เป็นลวดลายอักขระสีดำสนิทภายในมีละอองสีทองวิ่งพล่าน .. ม่านปราณพลังสีดำระยับด้วยประกายสีทองระยิบห่อหุ้มร่างกายของอุทัยเอาไว้
.. ปราณ 'อสูรบรรพกาล' อันยะเยือกเย็นสุดอาถรรพ์าห้วงบรรพกาลชวนขนหัวลุกอย่างสุดประมาณ
สีหน้าของอุทัยแปรเปลี่ยนเป็นเหยเก .. นัยน์ตาดำเปลี่ยนเป็นสีทองสุกใส ลวดลายยันต์อักขระตามร่างกายก็สลับเป็นสีทองสุกอร่าม .. ม่านปราณพลังแปรเปลี่ยนกลายเป็นแสงสว่างสดใส
.. ปราณ 'อรุณโรจน์' ประดุจแสงาดวงตะวันยามรุ่งอรุณสุดศักดิ์สิทธิ์ร้อนแรง
พลังปราณทั้งสองสลับสับเปลี่ยนกันนับสิบๆ รอบ .. บัดเดี๋ยวเป็นสีทองอร่ามร้อนแรง .. บัดเดี๋ยวเป็นสีดำยะเยือกเย็น
ด้วยสภาพจิตที่ไร้สมาธิทำให้อุทัยไม่สามารถควบคุมพลังปราณของตนเองได้ พลังปราณทั้งสองผลัดกันปะทุออก จุดและเส้นชีพจรปราณโป่งพองแทบระเบิดขาดสะบั้น
จอมภูตดำสบถด่า "ไอ้เด็กเวรตะไล .. ใช้วิชาภูตผีอันใด .." ลมปราณของมันพลุ่งพล่านปั่นป่วน โลหิตไหลซิบออการูู
พันุากล่าวเีระริก "เจ้ามารนอกรีต .." มันพยายามเรียกสติกลับคืนแล้วครุ่นคิด
.. เจ้าเด็กนี่คงต้องฝึกวิชาของปีศาจอันแปลกประหลาดจึงสามารถแสดงความน่าสะพรึงได้ปานนี้
.. าพลังปราณที่แผ่ออก เด็กหนุ่มยังอยู่เพียงระดับ ‘อัคระปราณ' ขั้นต้น ส่วนมันมีการฝึกปรือในระดับ ‘อัคระปราณ' ช่วงปลายแล้ว .. นับว่าสูงล้ำอยู่กว่าช่วงหนึ่ง ทั้งยังมีกองกำลังมือสังหารมากมายคอยสนับสนุนอยู่
.. เพื่อแสดงความสามารถต่อทัพมหาการีย์มันต้องรีบปิดงานโดยเร็ว
คิดได้เช่นนั้นจึงสะกดความบอบช้ำเร่งเร้าพลังกระโดดใส่อุทัยในทันใด ฝ่ายจอมภูตดำและเหล่ามือสังหารก็ไม่รอช้าพวกมันกลายเป็นเงารางเลือนวูบวาบส่งปราณดาบพุ่งสังหารอุทัยอีกครั้ง
พันุามาถึงด้านหน้าของอุทัย มันไม่ยั้งมือแม้แต่น้อยทำการเงื้อหมัดขวาเต็มเหนี่ยว แล้วชกใส่หน้าอกของอุทัยจนสุดแรง
.. หมัดยอดมงกุฎเจิดจำรัส !
หมัดของพันุาสุดรุนแรง .. รุนแรงกว่าพันวายุใช้ออกเป็นเท่าตัว .. พลังปราณหมัดสุดแกร่งทำอากาศภายในวิหารกระชากวูบ ..
.. กึกกกก .. แต่หมัดของพันุากลับหยุดนิ่งอยู่ขณะอยู่ห่างาอุทัยเพียงหนึ่งวา ราวถูกพลังบางอย่างสะกดไว้
พันุาร่างกายกระตุก พลังปราณที่ใช้ออกไม่สามารถส่งออกไป แต่กลับย้อนเข้ามาทำร้ายชีพจรภายใน หมัดของมันถูกตรึงหยุดนิ่งภายในอุ้งมือซ้ายของอุทัย
เป็นอุทัยเหยียดแขนซ้ายใช้มือจับหมัดของพันุาเอาไว้ .. มันยังจ้องมองตราหยกวิเศษที่ถือไว้ในมือขวาไม่ได้เงยขึ้นมาดูคนทรยศที่ด้านหน้า
.. กร๊อบบบบ !!! เีกระดูกมือของพันุาแตกดังลั่น ทันใดนั้นเองมีตีนข้างหนึ่งของอุทัยประทับบนหน้าอกของมันอย่างบางเบา
.. เปรี้ยงงงง !!! ร่างของพันุาปลิวกระเด็นดังว่าวน้อยสายป่านขาด โลกทั้งโลกพลิกหมุนคว้างล่องลอย
มือสังหารภูตทมิฬอีกสิบตนเข้ามาประชิด .. อุทัยไม่เหลียวมองยังยืนนิ่งยกตีนถีบค้างไว้เช่นเดิม .. แต่ความเป็นจริงหาใช้ดังภาพที่เห็นไม่
ท่าร่าง 'มายาอสูร' ของอุทัยรวดเร็วจนพวกมันมองไม่ทัน ร่างของอุทัยที่หยุดยืนนิ่งคือภาพติดตาที่พวกมันมองเห็น แต่ตัวเป็นๆ ของอุทัยพลิ้วไหวเข้าหาภูตทมิฬที่กระโจนเข้ามาทีละตน
.. ผักกก .. ผักกก.. ป๊าบบบ .. ป๊าบบบ .. ร่างของภูตทมิฬสี่ตนผงะหงายกลางอากาศโดยไม่ทันตั้งตัว
.. ป๊าบบบ .. ป๊าบบบ .. ผั๊วววะ .. ผั๊วววะ .. หมัดเท้าเข่าศอกของอุทัยระดมประทับมอบให้โดยถ้วนทั่ว
.. ป๊าบบบ .. ป๊าบบบ .. เปรี้ยง .. เปรี้ยง .. ความอัดอั้นคุกรุ่นที่มีอยู่เต็มอกถูกระบายออกมาโดยมีเหล่าภูตทมิฬดวงตกเหล่านี้เป็นผู้รับไว้
เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วแม้แต่เีร้องของความเจ็บปวดยังไม่ทันเปล่งออก อุทัยพุ่งเข้าหาจอมภูตดำที่กำลังพุ่งเข้ามา แล้วมาหยุดอยู่เบื้องหน้า เีอันเ็เีกล่าวออกมาาปา "สิ่งนี้ใช่หรือไม่ .. ที่เจ้าต้องการ .."
เีของอุทัยคล้ายดังอยู่ข้างหูทำจอมภูตดำตาเบิ่งโพลงขนลุกซู่ .. มองเห็นวัตถุสีขาววูบวาบประทับบนใบหน้าของมัน
.. เปรี้ยงงงง !!! อุทัยนำตราหยกกระแทกใส่จอมภูตดำจนใบหน้ายุบไปครึ่งซีก ร่างอันโชกเลือดลอยกระเด็นสิ้นใจตายในทันที
ร่างของอุทัยอีกร่างนั้นหยุดยืนแน่นิ่ง .. ร่างที่เป็นเงาติดตาเพิ่งลบเลือนหายไป ..
พลังปราณยังปะทุออการ่างไม่หยุดยั้ง .. บางครั้งเป็นสีทองอร่ามร้อนแรง บางครั้งกลายเป็นสีดำยะเยือกเย็น .. และยังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ภูตทมิฬนอนสิ้นใจตายอยู่กลาดเกลื่อน ที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ตัวสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว ส่วนพันวายุได้รับบาดเจ็บนอนกองอยู่ที่พื้นวิหาร จ้องมองอุทัยไม่เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้น
.. พวกมันกำลังเผชิญหน้ากับสิ่งใดอยู่
อุทัยมีหน้าตาท่าทางราวบุคคลเสียสติมันกล่าวขึ้นว่า "หากข้านำส่งนี้ขึ้นไปยังด้านบนจะเป็นเช่นไร .." สิ่งนั้นหมายถึงตราหยกนพเทพที่ถืออยู่ในมือของมัน
พันุาถูกถีบกระเด็นลอยไปกว่าสามสิบก้าวได้รับบาดเจ็บบอบช้ำแสนสาหัส มือขวากลายเป็นพิการกระดูกหน้าอกแตกหัก .. พยายามใช้พลังเฮือกสุดท้ายรีบกล่าวกับอุทัยว่า "เจ้าทำเช่นนั้นไม่ได้ .. มิเช่นนั้นพวกเราจะตายกันหมด .."
อุทัยพบเห็นดวงจิตของพันุาตื่นตระหนกอย่างรุนแรง มันกล่าวขึ้นราวเีของทูตแห่งความตาย "ไอ้เลวชาติ .. พวกเจ้ามีเรื่องใดปิดบังข้าอีก .."
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??