เรื่อง ลวงรักแม่สาวจอมเฉิ่ม
“แง้ๆๆๆๆ...แง้ๆๆๆ...”
“ขวัญ..ไปอุ้มเด็กที่ไหนมา”
พระพายเปิดประตูมาเห็นเพื่อนเธออุ้มเด็กเล็กอยู่ในห่อผ้าก็ถึงกับหน้าเหวอนิดหน่อยแต่ก็รู้ว่าต้นเสียงที่เธอคิดว่าหูแว่วอยู่ที่ไหน
“แกพอจะมีนมผงของเด็กมั้ย”
เมื่อเพื่อนสาวเธอเปิดประตูมาได้พาขวัญก็รีบถามหานมผงของเด็กทันทีโดยที่ไม่ได้ใส่ใจจะตอบคำถามที่เพื่อนเธอถามเพราะเธอนั้นยังไม่มีเวลาที่จะอธิบาย
“น่าจะมีอยู่เข้ามาข้างในก่อนเดี๋ยวถามแม่ให้”
พระพายพอจะดูออกว่าเด็กที่ร้องแบบนี้น่าจะหิวเลยให้เพื่อนเธอเข้ามาในบ้านก่อนเพราะเดี๋ยวบ้านอื่นเขาจะพลอยได้ยินเสียงเด็กร้องไปด้วยส่วนเรื่องนมเดี๋ยวให้แม่เธอจัดการ
“อ้าวขวัญนั่นหนูเอาเด็กที่ไหนมา”
มานีเดินตามพระพายออกมาเพราะได้ยินเสียงเด็กร้องดังจึงต้องถามพาขวัญด้วยความสงสัยว่าไปอุ้มลูกของใครมาเพราะเท่าที่รู้พาขวัญนั้นอยู่คนเดียวที่บ้านของเธอ
“เรื่องมันยาวน่ะจ่ะน้านีพอจะมีนมผงของเด็กมั้ยจ้ะ”
เรื่องนี้พาขวัญยังไม่อยากพูดอะไรตอนนี้เพราะมันยาวกว่าจะเล่าหมดแต่ตอนนี้เธอต้องการนมผงให้หนูน้อยที่เธออุ้มอยู่ก่อนเพราะคงจะหิวแย่แล้ว
“มีๆ..ของต้นกล้ายังมีอยู่ที่นี่บ้างเดี๋ยวน้าไปชงใส่ขวดให้นะ”
“ขอบใจจ่ะน้านี”
มานีรีบไปจัดการเรื่องนมให้พาขวัญอย่างรวดเร็วดีที่บ้านเธอนั้นมีนมของต้นกล้าเด็กที่เธอรับจ้างเลี้ยงติดอยู่ด้วยจึงพอจะชงให้เด็กน้อยที่พาขวัญอุ้มอยู่ทุเลาความหิวได้บ้าง
“มาๆส่งมาให้น้า”
มานีรีบชงนมเสร็จก็รีบอุ้มหนูน้อยเข้าอกพร้อมจ่อขวดนมไปที่ปากหนูน้อยเมื่อหนูน้อยในห่อผ้ารู้ว่ามีอะไรมาถูริมฝีปากก็รีบงับแล้วดูดอย่างรวดเร็วทันทีพร้อมส่งเขียงขู่และมีเสียงสะอื้นเล็กน้อยในลำคอ
“เฮ้อ...”
พาขวัญถอนหายใจอย่างโล่งอกที่หนูน้อยในห่อผ้านั้นสงบลงได้เสียที
“เล่ามาเลยว่าเกิดอะไรขึ้น”
พระพายอยากรู้ใจจะขาดว่าเพื่อนเธอไปอุ้มเด็กที่ไหนมาแล้วมาหาเธอดึกๆดื่นๆแบบนี้
“แกจำพี่เพียงฟ้าได้ใช่มั้ย”
“รุ่นพี่เราตอนสมัยเรียนที่เค้าว่ามีผัวรวยๆใช่ป่ะ”
พระพายจำได้ว่าเพียงฟ้าเป็นรุ่นพี่คนนึงที่เคยสนิทกับพาขวัญมากๆแต่หลังๆก็ห่างหายไปเพราะเห็นว่าไปใช้ชีวิตในกรุงเทพกับครอบครัวแล้วยังมีข่าวว่าไปแต่งงานกับคนร่ำคนรวยอีก
“อืมม..”!
พาขวัญพยักหน้าตอบเพื่อนของเธอ
“แล้วเกี่ยวอะไรกับเด็กคนนี้อ่ะ”
พระพายยังคงงงไม่หายว่าเด็กคนนี้นั้นเกี่ยวอะไรกับเพียงฟ้าด้วย
“คือ..”
เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ช่วงประมาณสองทุ่มกว่าๆพาขวัญเดินออกไปซื้อกับข้าวที่ในตลาดที่อยู่ในหมู่บ้านในระหว่างทางกลับเธอเห็นรถหรูคันหนึ่งเกิดอุบัติเหตุอยู่เธอหวังว่าจะเข้าไปช่วยแต่คนที่ติดอยู่ในรถเป็นเพียงฟ้าคนที่เธอรู้จักเธอเลยตกใจมากพยายามจะโทรหาตำรวจและมองหาคนแถวนั้นให้ช่วยแต่เธอองก็ไม่เห็นใครจะผ่านมาทางนี้เลยสักคน
ระหว่างที่เธอโทรหาตำรวจแต่ก็ต้องตัดสายโดยที่ยังไม่มีใครรับเพราะจู่ๆเพียงฟ้าที่รู้สึกตัวก็รีบยื่นหนูน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของตัวเองส่งให้เธอพร้อมบอกด้วยนำเสียงที่แผ่วเบาว่า
“ช่วยดูลูกพี่ด้วยขวัญพาเค้าหนีไปให้ไกลจากครอบครัวพี่ที่สุดอย่าส่งลูกพี่ให้ใครเพราะเค้าจะเป็นอันตรายรีบหนีไปมีคนกำลังตามพี่มาไปเร็ว”
“อะ..เอ่อ..ค่ะๆ”
พาขวัญค่อนข้างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยู่มากแต่เธอก็ตอบรับคำของเพียงฟ้าและอุ้มหนูน้อยเดินลัดป่าเข้าไปเล็กน้อยแต่เธอเดินออกมาไม่ห่างนักเธอก็เห็นมีมอไซต์คันหนึ่งที่มีชายร่างใหญ่สองคนปกปิดใบหน้าและตัวมิดชิดยืนดูลาดราวอยู่สองสามนามีก็ขับออกไปเธอยิ่งเห็นแบบนี้แล้วก็ยิ่งกลัวพร้อมทั้งพาหนูน้อยที่หลับอยู่รีบวิ่งกลับไปที่บ้านของเธออย่างเร็วที่สุด
“โห..นี่แสดงว่าพี่ฟ้าก็โดนลอบทำร้ายงั้นสิ”
“ที่ฉันคิดก็น่าจะเป็นอย่างนั้น”
ทั้งสามรับรู้เหตุการณ์ทั้งหมดก็เดาคร่าวๆว่าคงจะเป็นเพราะเรื่องผลประโยชน์ในตระกูลเป็นแน่
“แล้วนี่แม่หนูน้อยคนนี้ก็น่าจะพึ่งคลอดด้วยดูสิสายสะดือยังไม่หลุดเลยแล้วแบบนี้หนูขวัญจะเอาไงต่อ”
หลังจากที่หนูน้อยในห่อผ้าดื่มนมจนอิ่มก็หลับปุ๋ยไปมานีเลยแกะห่อผ้าเพื่อหวังจะเช็ดเนื้อเช็ดตัวเธอคิดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าตัวเท่านี้น่าจะพึ่งคลอดเมื่อเห็นสายสะดือก็ยิ่งมั่นใจเข้าไปใหญ่พร้อมถามถึงความเห็นของพาขวัญว่าจะเอายังไงต่อกับเรื่องนี้
“ขวัญก็ต้องดูหนูน้อยคนนี้ไปก่อนจ่ะน้านีเพราะถ้าหากส่งคืนครอบครัวอาจเกิดอันตรายกับหนูน้อยคนนี้ได้”
พาขวัญตั้งใจไว้แล้วว่าจะดูแลเด็กคนนี้ตามที่รับปากกับเพียงฟ้า
“เฮ้อ..นี่มันเรื่องอะไรกันน้า”
พระพายถึงกับกุมขมับที่มันมีปัญหาแบบนี้ขึ้นมาพร้อมมองไปที่เพื่อนสาวของเธอที่ตัวเองยังจะเอาไม่รอดแล้วถ้ามีเด็กเพิ่มมาอีกคนจะเป็นยังไง
“ต่อไปนี้เด็กคนนี้จะเป็นลูกของหนูจ่ะ”
“ห้ะ...เอาอย่างนั้นเลยหรอ”
มานีและพระพายถึงกับมองหน้ากันเลิ่กลั่กเมื่อพาขวัญพูดออกมาเมื่อครู่แต่ก็ไม่ได้ขัดอะไรเพราะเห็นว่าพาขวัญน่าจะตั้งใจจริง
“ช่วงนี้หนูจะรีบหางานให้ได้เร็วที่สุด”
พาขวัญตั้งใจไว้แล้วว่าเธอจะรีบหางานให้ได้เร็วที่สุดงานอะไรเธอก็ทำทั้งนั้นขอให้ได้เงินมาเพราะเธอรู้ว่าเลี้ยงเด็กคนนึงมันต้องใช้ค่าใช้จ่ายค่อนข้างมากยังไงเธอตั้งใจอะไรไว้แล้วเธอก็จะต้องทำให้สำเร็จ
“ถ้าลำบากก็ให้น้าช่วยเลี้ยงก็ได้น้าไหวต้นกล้าเองก็ยังเล็กไม่ค่อยอ้อนอะไรมากนักน้าเลี้ยงเด็กอีกคนได้”
มานีเห็นแล้วก็สุดสงสารเธอเองก็ไม่ได้มีมากนักสิ่งที่เธอพอจะช่วยได้ก็คือช่วงเลี้ยงหนูน้อยคนนี้ให้ได้ก็เท่านั้นเพราะเธอก็หาเช้ากินค่ำกับลูกสาวสองคนเหมือนกัน
“ขอบใจจ่ะน่านี”
พาขวัญรีบยกมือไหว้ขอบใจมานีที่มีน้ำใจช่วยเธอทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้สบายอะไรมากนัก
“แล้วแม่หนูน้อยคนนี้ชื่ออะไรหรอ”
ไหนๆพระพายเห็นเพื่อนเธอรับเด็กคนนี้เป็นลูกแล้วเท่ากับว่าเด็กคนนี้ก็เป็นหลานเธอตอนนี้ก็เหลือแค่ชื่อที่เธอจะต้องมีเรียกเพราะเธอเห็นว่าก็คงจะต้องเรียกกันไปอีกนานพ
“อืม..ก็ไม่รู้เหมือนกั..อืม..ชื่อจันทร์เจ้าดีมั้ยฉันเจอในคืนจันทร์เต็มดวงพอดี”
พาขวัญเองก็ยังไม่ทันได้คิดเพียงฟ้าก็ไม่ได้บอกอะไรกับเธอด้วยเมื่อเธอมองไปลอดหน้าต่างเห็นดวงจันทร์กลมโตสดใสจึงตั้งชื่อให้เป็นดวงจันทร์เพราะเข้ากับชื่อแม่ของหนูน้อยเองที่ชื่อเพียงฟ้าเพราะเห็นว่าท้องฟ้ากับดวงจันทร์ในคืนนี้มันสวยงามในสายตาเธอจริงๆ
“น่ารักดีนะเอาชื่อนี้แหละ”
พระพายเห็นด้วยกับชื่อที่เพื่อนเธอที่ตั้งให้หนูน้อยคนนี้เช่นกัน
.....................................................................................
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??