เรื่อง ตำรับรักข้าวโพดหวาน จบแล้ว (yaoi)
ฝักี่ 10
ร้านค้าของพวกเขากำลังเป็นรูปเป็นร่างและพร้อมจะเปิดบริการในอีกไม่นานแล้ว เช้านี้เขาได้ไปเลือกซื้อเครื่องเรือนและชั้นวางของสำหรับใช้วางสินค้าี่จะนำมาขายี่ร้าน โดยได้บอกกับทางร้านขายเครื่องเรือนนั้น ให้รีบนำของี่เขาซื้อไว้มาส่งี่ร้านค้าของตนในวันนี้เลย
และหลังจากเขากลับมาถึงร้านตนเองได้ไม่นาน เครื่องเรือนมากมายี่ซื้อมานั้นก็ถูกนำมาส่ง ดินให้คนงานจากร้านขายเครื่องเรือนนั้นช่วยกันยกจัดวางตามตำแหน่งี่เขาคอยสั่งการอยู่ เพียงไม่นานนักทุกอย่างก็เข้าี่เข้าทางตามี่เขาต้องการ และตอนนี้เหลือเพียงแค่นำสินค้าต่างๆ มาจัดวางเท่านั้น
การเดินทางมาี่ร้านค้าในคราวนี้นั้นก็แสนจะสะดวกสบาย เพราะสามารถสร้างประตูเวทย์มิติมาี่นี่ได้โดยตรงเลย ไม่ต้องเสียเวลาไปโผล่ี่บ้านหลังเก่าแล้วเดินเท้าเข้าเมืองอีกต่อไปแล้ว
และวันนี้เขาก็เดินทางมาี่ร้านแห่งนี้เพียงลำพังเท่านั้นด้วย เพราะตนนั้นมีแผนี่จะลักลอบไปเี่ยวบ้านผู้ชายหลังจากทำธุระเสร็จน่ะสิ ฮี่ฮี่ฮี่
ข้าวของวัตถุดิบต่างๆ สำหรับทำอาหารมากมายนั้นถูกหอบหิ้วอยู่เต็มสองมือ ซึ่งของพวกนี้นั้นเขาแอบนำออกมาจากห้องเย็นี่บ้าน เพื่อเอามาทำอาหารให้ท่านแม่ศจีกับพี่สิงห์ได้รับประทานกันในมื้อเี่ยงนี้
~ ?” ดินหยุดร้องเรียกชายหนุ่มอยู่ี่หน้าประตูรั้วบ้าน พร้อมกับพยายามชะเง้อชะแง้มองเข้าไปหาคนี่ตนตั้งใจมาหาไปด้วย
นางศจีเมื่อได้ยินเสียงเรียกี่หน้ารั้วบ้าน ก็จำได้ทันทีว่าเป็นเสียงของเจ้าเด็กหนุ่มี่จ้องจะกินบุตรชายคนโตของตนอยู่ ซึ่งนางเองก็ไม่ได้รังเกียจรังงอนแต่อย่างใด ทั้งยังได้พยายามจะเอาบุตรชายตนนั้นยัดใส่ปากให้เจ้าหนูดินกินเสียด้วยซ้ำไป เพราะขืนรอให้เจ้าเด็กคนนั้นพยายามอยู่ฝ่ายเดียว ก็ไม่รู้ว่าชาตินี้จะได้กินลูกชายของตนหรือเปล่า ก็เจ้าสิงห์นั้นมันทึ่มน้อยเสียี่ไหนล่ะ นางเองก็ไม่รู้จะตายวันตายพรุ่ง ก็อดเป็นห่วงบุตรไม่ได้ หากได้เจ้าเด็กคนนี้ี่เก่งเรื่องงานบ้านงานเรือนมาช่วยดูแลก็คงจะดีไม่น้อย
เอาอะไรมาด้วยเยอะแยะเชียว ว่าแต่เสร็จธุระแล้วเหรอลูก วันนี้ถึงว่างมาได้น่ะ”
ใกล้แล้วล่ะขอรับ วันนี้ข้าตั้งใจจะมาทำอาหารมื้อเี่ยง ให้ท่านแม่กับพี่สิงห์ได้ลองชิมอาหารแปลกใหม่ดูบ้าง ก็เลยเอาพวกของสดกับวัตถุดิบพวกนี้มาด้วยน่ะขอรับ แล้วนี่พี่สิงห์ไม่อยู่หรือขอรับ?” นางศจีได้แต่ทำใจ ี่เด็กคนนี้ไม่ได้สนใจี่จะคุยกับนางเลย ‘~ นี่แม่ยังยืนอยู่ตรงนี้นะลูกดิน จิตใจเจ้าจะไม่เห็นแม่อยู่สายตาเลยหรือไร พวกวัยรุ่นก็อย่างเนี่ยล่ะน๊า..’
~ ใจคอเจ้าจะหายใจเข้าออกเป็นพี่สิงห์เลยหรือไร ถ้าอยากจะเจอเร็วๆ เห็นทีว่าเจ้าคงต้องเดินไปตามเองแล้วล่ะ แม่ขี้เกียจจะเดินไปตามให้ เจ้าเดินตรงไปก็เจอแล้วล่ะ หาไม่ยากหรอกนะ ห้องของพี่เขาก็ห้องสุดท้ายนั่นแหละ ไปเถอะลูกไม่เกรงใจ”
มันจะดีเหรอท่านแม่ พี่สิงห์อาจจะไม่พอใจก็ได้นะขอรับ” นางศจีได้แต่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจให้กับว่าี่ลูกสะใภ้ ปากเนี่ยพูดอย่างหนึ่ง แต่กริยาท่าทางกับแววตานั้นแสดงออกชัดเจนมาก ว่าอยากจะเข้าไปในห้องนอนบุตรชายนางจนตัวสั่น
~ พี่เขาไม่โกรธหรอก ประตูห้องนั้นเปิดเข้าไปได้เลย แล้วก็ไม่ต้องเคาะประตูล่ะ เผื่อพี่เขานอนหลับอยู่จะได้ไม่ไปรบกวนพี่สิงห์เขา”
... ข้าขอตัวสักครู่นะขอรับท่านแม่” นางศจีมองตามเจ้าหนูดินี่เดินหายไปจากสายตาอย่างรวดเร็วเหมือนลมพัดผ่าน จนนางอดคิดไม่ได้ว่าเจ้าเด็กคนนี้อาจจะมีวิชาตัวเบาก็เป็นได้
ดินเดินมาถึงห้องเป้าหมายแล้ว ก็ยืนสงบสติอารมณ์ตื่นเต้นอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะผลักประตูเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว
สิงห์กำลังนั่งดูหนังสือี่ปืนยัดเยียดให้มา หนังสือเล่มนี้เจ้าลูกสมุนบอกว่าเด็ดนักเด็ดหนา พอเอามาดูถึงได้รู้ว่าเป็นตำรากามาสุตรานี่เอง แต่มันก็จัดว่าเด็ดจริงๆ อย่างี่เจ้าปืนว่าไว้นั่นแหละ แล้วยิ่งตนนั้นไม่ได้ปลดปล่อยมานานหลายวันแล้วด้วย พอได้รับการกระตุ้นจากดูรูปวาบหวิวพวกนี้เข้าไป ก็ทำให้ความเป็นชายของตนตั้งตระหง่านขึ้นมา
สิงห์ใช้มือเพียงข้างเดียวค่อยๆ เปิดดูรูปพวกนั้นอย่างช้า ส่วนมืออีกข้างก็ดึงกางเกงตัวเองลงจนลูกชายตัวโตโผล่หัวออกมาดูโลก แล้วจึงใช้มือรูดสาวขึ้นลงอย่างเมามันส์ และอีกเพียงไม่กี่อึดใจเท่านั้นตนก็จะไปถึงสวรรค์อยู่แล้ว
! เมื่อประตูห้องี่จู่ๆ ก็ถูกเปิดออกอย่างแรง พร้อมกับมีร่างคนพุ่งเข้ามาหาตนี่กำลังใช้มือช่วยปลดปล่อยอารมณ์ราคะอยู่บนเตียง มารู้สึกตัวอีกทีก็มีคนขึ้นมานั่งทับตัวลูกชายของเขาอย่างจังเสียแล้ว ส่วนมือทั้งสองข้างของเจ้าคนๆ นั้น ก็กดน้ำหนักลงมาบนใบหน้าของตน จนทำให้เขาเสียหลักหงายหลังลงนอนกระแทกพื้นเตียงอย่างแรง
ในตอนนี้สิงห์โดนพันธนาการเอาไว้โดยคนด้านบนอย่างสิ้นเชิง มือทั้งสองข้างและลำตัวนั้นถูกนั่งกดทับเอาไว้ ส่วนตาทั้งสองข้างก็ถูกปิดเอาไว้ด้วยฝ่ามือของผู้บุกรุกเช่นกัน
ท่านั้นยังไม่พอ เมื่อคนด้านบนนั้นจู่ๆ ก็ไอสำลักขึ้นมาอย่างหนักจนตัวโยกสั่นคลอนขึ้นลงอย่างรุนแรง แล้วมันจะไม่เป็นอะไรเลย ถ้าก้นนิ่ม ๆ นั้นจะไม่ได้นั่งทับลูกชายของตนเอาไว้อยู่ และการี่มีคนมาขย่มอยู่ด้านบนแบบเน้นๆ ตามจังหวะการไอแบบนี้นั้น ก็ทำให้เขาถึงกับอดทนต่อไปไม่ไหว จนต้องยกสะโพกตัวเองขึ้นสวนรับกับจังหวะการขย่มตัวของคนด้านบนอย่างไม่ยอมแพ้กัน ในี่สุดสิงห์ก็ได้ร้องคำรามออกมาเสียงดังเพื่อระบายความเสียวซ่านอย่างี่ไม่เคยเป็นมาก่อน หยาดน้ำนมข้าวโพดขุ่นขาวของตนนั้นฉีดใส่ก้นเล็กๆ ด้านบนอย่างมากมายจนเปียกแฉะไปหมด
ดินยืนสงบสติอารมณ์ตื่นเต้นอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะผลักประตูเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว อาจจะเพราะความตื้นเต้น จึงทำให้ลืมมองทางจึงเป็นเหตุให้เขาสะดุดกับธรณีประตู จนเสียการทรงตัวกลายนกปีกหัก แถมเคราะห์ซ้ำกรรมซัดี่ดันสะดุดขาตัวเองซ้ำอีกรอบ จนทำให้ตนนั้นพุ่งถลาขึ้นไปนั่งทับตัวของพี่สิงห์ี่อยู่บนเตียงพอดิบพอดี ดินพยายามใช้มือค้ำยันตัวเอาไว้เพื่อไม่ให้ล้มทับชายหนุ่มด้านล่างไปมากกว่านี้ แต่เมื่อกำลังจะเอ่ยปากขอโทษออกไปนั้น กลับเกิดสำลักน้ำลายตัวเองขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ ยิ่งพยายามจะฝืนกลั้นเอาไว้เท่าไหร่ก็ยิ่งไอถี่และหนักขึ้นไปอีกเท่าตัว
พี่สิงห์คงจะอารมณ์เสียมาก เลยพยายามดันสะโพกขึ้นมากระแทกตัวเขาให้รีบลุกออกไปโดยเร็ว แต่เพราะตนยังไม่สามารถหยุดไอได้ จึงยังไม่ได้ลุกออกไปในทันที และนั้นคงจะทำให้พี่สิงห์ยิ่งโกรธหนักมากขึ้นจนคำรามด้วยน้ำเสียงี่ดังน่ากลัวออกมา
ดินได้ยินอย่างนั้นก็ใจเสียจนร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมา เพราะคิดว่าชายหนุ่มี่ตนหลงรักนั้น คงจะต้องโกรธเกลียดตนไปแล้วแน่ๆ
ส่วนสิงห์เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ ก็คิดไปว่าเป็นเพราะตนนั้นไปหมิ่นเกียรติลูกผู้ชายเข้าเลยทำให้คน ๆ นั้นเสียใจ สิงห์พยายามแกะมือของคนด้านบน ี่ยังกดค้ำอยู่บนหน้าของตนออกช้า เมื่อเอามือออกไปได้แล้ว ก็จึงดันตัวขึ้นนั่งแล้วจึงดึงคนี่กำลังร้องไห้เข้ามากอดปลอบ เพื่อเป็นการขอโทษกับการล่วงเกินในครั้งนี้ สิงห์ลูบหลังคนในอ้อมกอดแล้วโยกตัวไปมาเหมือนเวลาี่กอดปลอบน้องชายเมื่อตอนยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ
แต่แล้วจู่ ๆ ต้นขาี่โดนนั่งทับของสิงห์ก็เกิดเป็นตะคริวขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ความปวดเกร็งของกล้ามเนื้อนั้น ทำให้เขาเผลอตัวผลักคนี่นั่งทับขาตนออกอย่างเต็มแรง จนคนี่โดนผลักนั้นหงายหลังขาชี้ฟ้า ส่วนสิงห์เมื่อเป็นอิสระแล้วก็ทิ้งตัวลงไปนอนทับคนี่นอนหงายอยู่ด้านล่าง แล้วส่งเสียงร้องครวญพร้อมกับดิ้นทุรนทุรายจากการเป็นตะคริว
มารดาของสิงห์เดินมาแอบดูความเป็นไปก็ทั้งสองคน เมื่อเดินมาใกล้ๆ จะถึงก็ได้ยินเสียงลูกชายตนนั้นร้องครวญครางเสียงดัง ส่วนเจ้าหนูดินเองก็มีเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่เช่นกัน นางศจีได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกหวั่นใจขึ้นมา หวังว่าจะเจ้าลูกชายกับว่าี่ลูกสะใภ้คงจะไม่ได้ชิงสุกก่อนห่ามกันหรอกนะ หากเป็นเช่นนั้นจริงนางคงจะถูกบิดามารดาของเจ้าหนูดินได้มาถอนหงอกเอาแน่ๆ
แต่แล้วเมื่อนางมาถึงห้องนอนของบุตรชาย ก็ได้เจอกับภาพี่จะคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย นอกจากเจ้าสิงห์กำลังข่มเหงหนูดินอยู่เท่านั้น
!!! เจ้าทำอะไรลงไปรู้ตัวบ้างมั้ย”
สิงห์เมื่อได้ยินเสียงมารดา ก็ตกใจรีบลุกขึ้นนั่งคุกเข่าทันที โดยี่ลืมไปว่าลูกชายตัวโตของตนนั้นยังไม่ได้ถูกเก็บเข้ากางเกงให้เรียบร้อย และตอนนี้กำลังชี้หน้ามารดาตนอยู่
นางศจีเห็นภาพนั้นก็กรีดร้องออกมาสุดเสียง จนทำให้เสือบุตรชายคนเล็กี่กำลังเดินเข้าบ้านมาตกอกตกใจ รีบวิ่งมาหามารดาทันที จนได้เจอกับภาพี่พี่ชายตนกำลังคุกเข่าอยู่กลางหว่างขาของใครคนหนึ่ง ในขณะี่ท่อนล่างของพี่ชายนั้นเปลือยเปล่า แถมเจ้าหนอนยักษ์ของท่านนั้นยังเลอะเทอะไปด้วยคราบน้ำรัก แถมยังมีบางส่วนยังคงไหลยืดย้อยออกมาจากส่วนปลายนั้นอยู่เลย เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพี่ชายของตนนั้นจะเป็นคนหื่นกามได้ถึงเพียงนี้
สิงห์รีบเก็บหนอนยักษ์ของตัวเองลงในกางเกงอย่างเร่งด่วน แล้วจึงดึงคนี่ยังนอนร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่ยอมหยุดขึ้นมากอดปลอบอีกครั้ง ตอนนี้ตัวเขาได้เห็นหน้าชัดแล้วว่าเจ้าคนี่อยู่ในอ้อมกอดตนนั้นคือใคร
สิงห์ค่อยๆ ประคองดินให้ลุกขึ้นยืน เพื่อจะได้ดูไม่ประเจิดประเจ้อต่อหน้ามารดาจนเกินไป คนตัวเล็กนั้นค่อยๆ ยืนขึ้นมาตามี่ชายหนุ่มต้องการ แต่ก็ยังคงกอดสิงห์เอาไว้ไม่ยอมปล่อยเช่นเดิม ทำให้นางศจีกับเสือนั้นได้เห็นคราบน้ำขาวขุ่นเปียกชุ่ม บริเวณก้นของดินได้อย่างชัดเต็มตา ซึ่งหลักฐานทุกอย่างมันมัดสิงห์จนไม่สามารถแก้ตัวอะไรได้เลย
นางศจีเมื่อตั้งสติได้ก็ให้ทั้งสองคนไปอาบน้ำแต่งตัวเสียใหม่แล้วจึงค่อยมาคุยกัน ส่วนดินี่มัวแต่ก้มหน้าก้มตาร้องไห้อยู่ตลอดเวลานั้น ไม่ได้เห็นว่าตอนเกิดเหตุนั้นสิงห์อยู่ในสภาพล่อแหลมเพียงใด ทั้งยังไม่เข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ว่ามันได้ไปไกลขนาดไหนแล้ว ได้แต่ทำหน้างงๆ ว่าตนแค่ร้องไห้เท่านั้นเอง ทำไมถึงต้องไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ด้วย แต่เมื่อเห็นทุกคนทำหน้าเคร่งเครียดกันก็ไม่กล้าจะพูดค้านอะไรออกไป!
สองหนุ่มได้เดินเข้ามานั่งี่โต๊ะรับแขกหลังจากี่ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันมาแล้ว นางศจีมองหน้าเด็กทั้งสองคนี่ยังคงนั่งนิ่งเงียบไม่ยอมพูดอะไรออกมา นางจึงเป็นฝ่ายเริ่มเสียเอง
บ้านหนูดินอยู่ี่ไหนจ๊ะ ไกลจากี่นี่มั้ยลูก” ดินไม่รู้จะบอกแม่พี่สิงห์ว่าอย่างไรดี
~ คิดว่าไม่ไกลเท่าไหร่นะท่านแม่ มีอะไรหรือเปล่าขอรับ” เขารู้สึกว่าทุกคนแปลกไป ตั้งแต่เหตุการณ์ในห้องนอนนั้นแล้ว
แม่มีธุระจะคุยกับบิดามารดาของเจ้าเสียหน่อย เจ้าช่วยนัดพวกท่านให้แม่ได้มั้ยจ๊ะ” ห๊า! ท่านแม่ศจีจะไปบ้านของเขา หรือเพราะว่าวันนี้เขาทำตัวเสียมารยาที่ไปบุกรุกห้องพี่สิงห์ ต้องเป็นเรื่องนี้แน่นอน ท่านคงจะไปต่อว่าบิดามารดาี่อบรมตนไม่ดีเป็นแน่ แล้วตอนนี้พี่สิงห์คงจะเกลียดเขาแล้วด้วย พอดินคิดอย่างนั้นน้ำตาก็เริ่มคลอเบ้า
ได้ขอรับ ท่านแม่คงเกลียดข้าแล้ว เพราะข้ามันไม่มีมารยาททำตัวไม่ดีใช่มั้ยขอรับ”
~ คิดอะไรอย่างนั้นล่ะลูก แม่ไม่ได้คิดอะไรอย่างนั้นเลย เจ้าก็เหมือนคนในครอบครัวแม่แล้วนะจ๊ะ”
แต่พี่สิงห์คงเกลียดข้าแล้วใช่มั้ยขอรับ ฮึก ฮึกก ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ท่านยังไม่ยอมพูดอะไรกับข้าเลย ฮือ ฮืออ~” ดินกลั้นน้ำตาต่อไปไม่ไหว เขากลัวว่าพี่สิงห์เกลียดตนจริงๆ
ี่ข้าไม่ได้พูดกับเจ้าเพราะข้านั้นละอายใจและกลัวว่าเจ้าจะเกลียดข้าเช่นกัน ขอโทษนะ ข้าจะรีบทำทุกอย่างให้ถูกต้อง” สิงห์รู้ตัวว่าอย่างไรก็มีส่วนผิดอยู่มาก ดินนั้นเป็นผู้ชายแต่ตนกลับไปยังทำเรื่องอย่างนั้นอีก หากใครรู้เข้าเจ้าเด็กคนนี้จะเอาหน้าไว้ี่ไหน
ข้าไม่เคยรู้สึกโกรธเกลียดท่านเลยแม้แต่ครั้งเดียวนะขอรับ” ดินไม่ได้ใส่ใจฟังี่ชายหนุ่มพูดทั้งหมด เพราะแค่ได้ยินว่าพี่สิงห์ไม่ได้เกลียดตน ก็ไม่สนสิ่งใดแล้วล่ะ
เมื่อสบายใจแล้วก็เลยส่งยิ้มกว้างไปให้กับชายหนุ่มี่ตนหลงรัก เจ้าหนุ่มกล้ามโตเมื่อเห็นเจ้าตัวเล็กยิ้มได้ ก็เผลอดึงคนตัวเล็กเข้ามากอด แล้วหอมศีรษะเจ้าเด็กในอ้อมแขนไปทีหนึ่ง อย่างี่ชอบทำกับน้องชายสมัยก่อน
! รอให้แม่ไปคุยกับพ่อแม่ของหนูดินก่อนดีมั้ยจ๊ะ ช่วงนี้พวกเจ้าก็หักห้ามใจกันไปก่อนนะสิงห์ ยังไงก็รอให้ถึงคืนวันพิธีเสียก่อนเข้าใจมั้ย” นางรีบเตือนบุตรชายตนด้วยความไม่ไว้วางใจ นี่ขนาดต่อหน้าต่อตายังกล้ามาทำขนาดนี้ หากอยู่ลับหลังไม่รู้จะทำอะไรกันแค่ไหน ถึงแม้ตอนนี้ข้าวสารจะกลายเป็นข้าวสวยไปแล้วก็ตาม
ท่านแม่เห็นข้าเป็นคนอย่างไรขอรับ ข้าไม่ใช่คนอย่างนั้นเสียหน่อย” หนุ่มตัวโตทำหน้าเศร้าี่มารดามองตนเองเป็นคนเช่นนั้น
ถ้าข้าไม่เห็นกับตา ข้าก็ไม่คิดว่าท่านพี่จะเป็นคนเช่นนั้นเหมือนกันขอรับ” สิงห์หันไปมองน้องชายี่ทำหน้าผิดหวังในตัวเขา เห็นแล้วตนก็รู้สึกละอายใจนัก จนไม่กล้าี่จะปฏิเสธอะไรอีก
เสือ’ น้องชายี่อายุสิบสองขวบแต่ตัวโตกว่าดินมากนัก ผิวี่เข้มและหน้าหล่อคมแบบเด็กี่กำลังโต มีนิสัยพูดน้อยี่ปกติจะมองพี่ชายเหมือนวีรบุรุษ แต่วันนี้กลับส่งสายตาเช่นนี้มาให้
เอาล่ะๆ วันนี้สิงห์เจ้าไปส่งดินกลับบ้านก่อนเถอะ ส่วนหนูดินวันนี้แม่ว่าเจ้ารีบกลับไปนัดบิดากับมารดาเจ้าให้แม่ก่อนดีกว่า ส่วนเรื่องอาหารยังมีเวลาอีกเยอะี่เจ้าจะทำให้ข้าชิม สิงห์ส่งน้องให้ส่งบ้านเลยนะ”
" สิงห์ขานตอบรับมารดา แล้วลุกขึ้นยืนเพื่อเตรียมตัวไปส่งเจ้าตัวเล็ก
เดี๋ยวข้าจะบอกพวกท่านให้ขอรับ งั้นข้าขอตัวกลับก่อนนะขอรับท่านแม่” ดินลุกขึ้นทำความเคารพมารดาของสิงห์ และส่งยิ้มให้เสือซึ่งเจ้าตัวก็ส่งยิ้มกลับมาให้เช่นกัน
ดินนั้นให้ชายหนุ่มว่าี่สามีมาส่งี่บ้านหลังเก่า ทั้งๆ ี่เขาเองพยายามบอกให้ส่งตนแค่หน้าประตูเมืองก็พอ แต่คนตัวโตกลับไม่ยอม บอกว่าท่านแม่ศจีกำชับไว้ว่าต้องมาส่งให้ถึงบ้าน
บ้านเจ้าทำไมดูเงียบจังเลยล่ะเจ้าตัวเล็ก” สิงห์มองไปรอบบ้านหลังนี้ี่ดูเหมือนี่ไม่มีคนอยู่ี่นี่มาสักพักแล้ว
... ท่านพ่อท่านแม่ออกไปทำงานน่ะขอรับ นี่ก็เลยเวลามื้อเี่ยงแล้ว ท่านกลับเลยดีมั้ยขอรับ นี่ข้าก็กลับมาถึงบ้านแล้วด้วย” เขารีบไล่พี่สิงห์ให้กลับไปก่อน ด้วยกลัวชายหนุ่มจะจับโกหกได้ว่าบ้านหลังนี้นั้นจริงๆ แล้วเป็นบ้านร้าง ไม่มีคนอาศัยอยู่นานแล้ว
เหมือนวันนี้เจ้าจะพยายามไล่ข้าจังเลยนะ หรือเจ้ามีอะไรปิดบังข้าหรือเปล่า” สิงห์รู้สึกเหมือนคนตรงหน้ากำลังมีเรื่องปิดบังอยู่
! เอาอย่างนี้ดีกว่าเดี๋ยวข้าพาท่านไปชมทิวทัศน์ของแม่น้ำด้านหลังดีกว่า ท่านต้องชอบแน่ๆ ตามข้ามาด้านนี้เลยขอรับ” ดินรีบเปลี่ยนเรื่องในทันที
สิงห์เดินตามเจ้าของบ้านี่เดินนำอยู่ด้านหน้า เส้นทางี่พวกเขากำลังเดินอยู่นั้น มีต้นหญ้าขึ้นสูงหนาเหมือนกับไม่มีคนใช้เส้นทางนี้มานานแล้ว ชายหนุ่มมั่วแต่มองไปรอบๆ อย่างสงสัย จนลืมระวังมองทางี่กำลังเดินอยู่ ว่าข้างหน้านี้มีซากขอนไม้วางขวางทางอยู่
! !!!” ดินตกใจี่เห็นชายหนุ่มสะดุดขอนไม้จนล้มกลิ้งไป แล้วศีรษะกระแทกก้อนหินก่อนี่จะตกลงไปในแม่น้ำ แต่โชคดียังดีี่ตัวเขาคว้ามือของพี่สิงห์ี่สลบไม่ได้สติเอาไว้ได้ทัน ไม่อย่างงั้นชายหนุ่มต้องจมน้ำหายไปเป็นแน่
ดินพยายามดึงตัวคนี่โตกว่าขึ้นมาอย่างยากลำบาก เพราะตลิ่งริมแม่น้ำนั้นค่อนข้างสูงชัน ตนจึงดึงคนตกน้ำขึ้นมาได้เพียงแค่ครึ่งตัวเท่านั้น เสื้อผ้าของหนุ่มกล้ามสวยในยามนี้นั้น มันเปียกชื้นจนผ้าบางๆ นั้นลู่แนบไปกับตัวจนเห็นสัดส่วนต่างๆ ได้อย่างชัดเจน ยิ่งชายหนุ่มนั้นนอนหงอยอยู่ริมตลิ่ง โดยครึ่งตัวด้านล่างตั้งแต่สะโพกลงไปนั้นทิ้งแอ่นลงไปเป็นเหมือนสะพานโค้ง ยิ่งทำให้สัดส่วนความเป็นชายของสิงห์ซึ่งดินนั้นจะเรียกมันว่าข้าวโพดฝักใหญ่นั้น กำลังอวดรูปโฉมและขนาดอันใหญ่โตประหนึ่งราวกับไร้ซึ่งสิ่งปิดบังมันอยู่ เจ้าหนุ่มน้อยหน้าจืดเมื่อได้เห็นภาพเช่นนั้น ก็เกิดอาการคลุ้มคลั่งเสียการควบคุมตนเองไปในบัดดล
เสียงลมหายใจี่ดังและแรงขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้รูจมูกนั้นเดี๋ยวหุบเดี๋ยวบานออกไปตามจังหวะการหายใจ ส่วนปากี่กำลังยิ้มกว้างจนค้างนั้นก็มีน้ำลายไหลยืดลงมาถึงปลายคาง พร้อมกับพูดพึมพำอยู่ประโยคเดียวว่า
~ ~~~’ อยู่เช่นนั้นซ้ำไปซ้ำมาอย่างคนสติไม่ดี หากมีคนมาพบเห็นดินในยามนี้นั้น รับรองว่าต้องเผ่นหนีกระเจิดกระเจิงเป็นแน่
ดินค่อยๆ คลานเข้าไปหาฝักข้าวโพดของสิงห์อย่างช้าๆ ลิ้นเล็กๆ ก็ไล้เลียริมฝีปากเหมือนคนกำลังหิวกระหาย มือสั่นๆ นั้นค่อยๆ เอื้อมไปหาเป้าหมายอย่างใจเย็น และเมื่อเห็นว่าข้าวโพดฝักใหญ่นั้นกำลังจะตกมาอยู่ในอุ้งมือของตนแล้ว ดินก็ระเบิดหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง แต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มตัวโตนั้นชะตาจะยังไม่ถึงฆาต จึงมีคนเข้ามาช่วยเอาไว้ได้ทันท่วงที
นายมั่นกระโดดเข้ากอดรัดตัวลูกชายคนโตเอาไว้ ก่อนี่เจ้าลูกคนนี้จะเริ่มกินเหยื่อตรงหน้า!!
! ~ เจ้าจะตีหัวผู้ชายแล้วลากลงไปกินในน้ำไม่ได้นะเฟ้ย เจ้าตั้งสติไว้ก่อน เอาล่ะท่องตามข้านะ หายใจเข้าพุทธ~ ~”
ดินดีดดิ้นไม่ยอมหยุดเพื่อให้หลุดจากพันธนาการของบิดา ก็ใครจะไปยอมอยู่เฉยๆ กันล่ะ ในเมื่อกำลังจะได้กินข้าวโพดตรงหน้าอยู่แล้วแท้ๆ
นัทซึมาช่วยกันหน่อยเร็วเข้า ทำอย่างไรก็ได้ให้พี่ชายเจ้าได้สติสักที ข้าจะรั้งไว้ไม่ไหวแล้ว” นายมั่นของความช่วยเหลือจากบุตรคนเล็ก
งั้นเดี๋ยวข้าจะไปเอาหมอนมาตีท่านพี่ให้รู้สึกตัว ดีหรือไม่ท่านพ่อ” นัทซึถามความเห็นบิดาก่อน ว่าจะเห็นดีเห็นงามกับความคิดตนหรือไม่
เออๆ รีบทำเถอะ จะเอายังไงก็เอา” นายมั่นตอบบุตรชายคนเล็กไปอย่างไม่ใส่ใจนัก
นัทซึนั้นหายไปครู่นึง แล้วกลับมาอีกครั้งพร้อมกับเสียงร้องตะโกนเตือนบิดาตน
~ ขอรับ ท่านพ่อหลบไปก๊อนนน~~~”
นายมั่นมองเห็นจากหางตาว่ากำลังมีอะไรบ้างอย่างี่ดูกลายกับท่อนไม้ขนาดใหญ่ และมันกำลังพุ่งมาทางศีรษะของตนเองจึงได้รีบเบี่ยงตัวหลบไปได้ทันอย่างเฉียดฉิว แต่ก็ทำให้เจ้าสิ่งนั้นพุ่งผ่านไปฟาดลงบนท้ายทอยของบุตรคนโตนั้นแทน
~ ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น
!!! ตายแล้วมั้งพี่ชายเจ้าน่ะ นี่มันไม้หมอนไม่ใช่เหรอเจ้านัทซึ ใครสั่งใครสอนให้เจ้าเอามันมาพาดหัวคนกัน ห๊ะ! รีบไปดูพี่ชายเจ้าเร็วเข้า ข้าว่าไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตแล้วล่ะ โดนไปจังๆ เสียขนาดนั้นน่ะ” นัทซึรีบไปดูอาการของพี่ชายตนตามี่บิดาสั่งทันที เมื่อเห็นว่าตอนนี้พี่ชายตนนั้นยังมีชีวิตอยู่ เอ่อ… หมายถึงตอนนี้อ่ะนะ แต่ต่อไปก็ไม่แน่! =_=
ข้าก็ถามท่านพ่อก่อนแล้วนะ ท่านเป็นคนอนุญาติข้าเอง แต่กลับมาโทษว่าเป็นความผิดข้าคนเดียวอ่ะ” นัทซึทำหน้างอใส่บิดา เพราะคิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของตนเสียหน่อยพ
! ข้ามันผิดเอง พอใจเจ้าหรือยังล่ะ ข้าล่ะอยากตายไปเสียจริงๆ เลย เฮ้อ~” นายมั่นพูดอย่างปลงๆ กับบุตรทั้งสองคน
!!!” นัทซึเมื่อได้ยินบิดาว่าเช่นนั้น ก็รีบคว้าไม้หมอนขึ้นมากระชับไว้ในอุ้งมือ แล้วเตรียมจะง้างไม้ขึ้น เพื่อแสดงความกตัญญูโดยการสนองความต้องการของบิดาตนทันที
โชคดีของนายมั่นี่ไหวตัวทันเสียก่อน จึงหนีไปจากี่ตรงนั้นตั้งแต่ี่ได้ยินคำพูดของบุตรชายคนเล็กแล้ว เลยรอดชีวิตไปได้อย่างหวุดหวิด
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??