เรื่อง ข้ามมิติมาเป็นสาวน้อยนักทำฟาร์ม [แปลจบแล้ว]
สองสามีภรรยาพร้อมใจกำหมัด
“จัดการนาง!”
“เจ้าจัดการนาง!”
“เอ่อ ข้าเป็นสตรี เจ้าเป็นบุรุษของข้า พวกเราสองคนจัดการนางไม่ได้”
“ง่ายดายนัก ตู้ซินถงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมไม่ใช่หรือ?”
“ชิ ตู้ซินถงเจ้ากะเทยนั่น!” เฉินเนี้ยนหรานแสดงออกมาว่าไม่พอใจ
แม้หนิงเซียงจะมีบางเวลาที่ทำตัวน่ารังเกียจไปบ้าง แต่เฉินเนี้ยนหรานไม่ยอมใ้นางไปหากะเทยนั่นหรอก
แม้ตู้ซินถงจะหน้าตาไม่เลว แต่รู้สึกว่าเขาได้ทั้งบุรุษทั้งสตรี จะอย่างไรก็ไม่เหมาะสมกับหนิงเซียงที่เป็นสตรีฉลาด สิ่งสำคัญที่สุดคือนางได้ยินมาว่าตอนนี้องค์หญิงสามกับบุรุษบำเรอในเรือนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน ในตอนกลางวันทั้งสองคนยังทำเรื่องอย่างว่าด้านนอก
บุรุษที่หน้าไม่อายเช่นนี้ จะเหมาะสมกับหนิงเซียงได้อย่างไร
“เฮ้อ ความจริงแล้ว ประเด็นคือในใจของหนิงเซียงมีปัญหา นางน่ะ ยังไม่ปล่อยวางจากบุรุษที่ไม่ควรเกี่ยวข้องคนนั้น” โจวอ้าวเสวียนส่ายหน้า
พอพูดึ้มา ความอยากรู้อยากเห็นของเฉินเนี้ยนหรานพลันแล่นึ้มา ทั้งสองคนเดินไปที่ห้องด้วยกัน นางยังคอยถามไม่หยุด
เมื่อรับมือกับการถูกความอยากรู้อยากเห็นของภรรยารักโจมตีไม่ไหว สุดท้ายโจวอ้าวเสวียนจึงทำได้เพียงเปิดเผยเรื่องราวออกไปเล็กน้อย
“หา คนที่หนิงเซียงรัก...คือองค์ชาย อ๊าก นี่ นี่มันเป็นไปได้อย่างไร? องค์ชาย คนเช่นนี้ เหตุใดถึงมาเกี่ยวพันกันได้ ฮ่องเต้ก็ด้วย เหตุใดถึงใ้องค์ชายมายุ่งเกี่ยวกับสามัญชนด้วย”
“สรุปก็คือ หลังจากที่องค์ชายคนนั้นเข้าเมืองหลวงไป เรื่องของหนิงเซียงกับเขาจึงเหินห่างกันไป อีกอย่าง เรื่องขององค์ชายคนนั้นกับนาง พวกเราพูดกันไม่ได้ว่าผู้ใดสนใจกันมากกว่า แต่จากความรู้สึกแล้ว มีแค่หนิงเซียงที่ถลำลึก ส่วนคนคนนั้น...เพียงแค่มาเล่นสนุกเท่านั้น...”
เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ เฉินเนี้ยนหรานเงียบไป จู่ๆ นางก็คิดถึงตอนที่ออกมาครั้งแรกึ้มาได้ ตอนที่ทั้งสองคนพูดเรื่องราวใ้ซึ่งกันและกันฟัง นึกถึงประโยคที่หนิงเซียงเคยพูดกับตนเอง
“ความจริงแล้ว เจ้ายังสามารถร้องไห้ที่สูญเสียลูกชายไป แต่ข้ากลับไม่สามารถเห็นหน้าเขาสักครั้ง”
หนิงเซียงในตอนนั้น จะต้องปวดใจเพียงใดที่พูดมันออกมา หรือก็คือ ตอนนั้น นางเคยตั้งครรภ์ลูกของบุรุษคนนั้น แต่เด็กกลับไม่ได้ถือกำเนิดออกมา
นางดื่มโอสถขับลูกเช่นนั้นได้อย่างไร!
ทันใดนั้น เฉินเนี้ยนหรานรู้สึกว่าตนเองใส่ใจหนิงเซียงน้อยเกินไปสักหน่อย ภายใต้รอยยิ้มเข้มแข็ง มีความน้อยใจ ปวดใจเท่าไรกัน...
ด้านหลังสตรีที่เข็มแข็ง มักจะมีบุรุษอยู่อีกหลายคน หนิงเซียงเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่เป็นจริง
ตัวนางเล่า? จะมีวันเวลาเช่นนี้หรือไม่?
“ฮ่าๆ เฉินเนี้ยนหราน เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว แม้จะมีวันนั้นแล้วอย่างไร หากเป็นเช่นนั้นจริง ทำได้แค่พูดว่าสายตาของเจ้าไม่ดี ดวงยอดแย่ แทนที่จะรู้สึกเศร้าสร้อยอยู่เช่นนี้ สู้มีความสุขในทุกๆ วันจะดีกว่า”
ใ้ความสำคัญกับคนตรงหน้า มีความสุขร่วมกับเขาในทุกวัน
“โจวอ้าวเสวียน หากวันหนึ่งเจ้ารู้สึกไม่ชอบข้าแล้ว ต้องพูดกับข้าออกมาตรงๆ อย่างกล้าหาญ อย่ามีความสัมพันธ์กับสตรีอื่นในตอนที่ยังมีข้าอยู่ แค่เจ้าพูดว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับข้าแล้ว ข้าจะจากเจ้าไปอย่างสงบหรือไม่ต้องใ้เจ้าพูด ข้าย่อมจะยิ้มแล้วจากเจ้าไป รบกวนช่วยรับปากด้วยว่า ไม่ว่าอย่างไร จะต้องรอใ้ข้าจากเจ้าไปก่อนจึงจะอยู่กับสตรีอื่น จำเอาไว้ หากเจ้ากล้าคบหาสตรีคนอื่นในตอนที่ยังมีข้าอยู่ แม้เป็นพวกสาวใช้ข้างห้องอะไรพวกนี้ ข้าจะมองเจ้าเป็นศัตรู ชั่วชีวิตไม่มีทางใ้อภัยเจ้า”
นางกัดฟันประกาศโพล่งใส่เขาเสียงดัง ดวงตาเปล่งประกายราวกับไฟ ยิ่งแฝงไปด้วยความยึดมั่น
นางที่เป็นเช่นนี้ทำใ้ใจของโจวอ้าวเสวียนอ่อนยวบ
สตรีคนนี้ ยังเชื่อใจเขาไม่พอ
เขาโยนผ้าคลุมอาบน้ำที่ห่อตัวออก เผยใ้เห็นหน้าอกแน่น ทำใ้ใบหน้าของเฉินเนี้ยนหรานที่มองภาพนั้นเป็นสีแดงก่ำ ยิ่งเข้าไปใกล้ยิ่งได้กลิ่นอายความเป็นบุรุษของเขา
“แม่นางไม่กล้ามองข้าแล้ว เมื่อครู่พูดเสียงดังเพียงนั้น ตอนนี้ไม่กล้ามองข้าแล้ว อืม จะพูดอีกรอบหรือไม่?”
เขาเชยคางนางึ้ แล้วค่อยๆ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้นางมากึ้เรื่อยๆ คำพูดที่ค่อยๆ พ่นออกมาทีละคำ ทำใ้นางรู้สึกว่าใจของตนเองสั่นไหว
“ข้า ข้า ข้า...”
นางต้องการแก้ว่า ทั้งหมดนี้มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดึ้ ดังนั้นจึงเพียงพูดไว้ก่อนล่วงหน้า ทว่ายังไม่ทันได้อ้าปาก กลับถูกเขาประกบริมฝีปากลงมาอย่างเอาแต่ใจ
“จำเอาไว้ คนที่ข้าเลือกคือเจ้า ไม่ใช่ดอกไม้หรือต้นหญ้า ต่อไปหากข้าได้ยินเจ้าพูดเช่นนี้อีก ข้าจะลงโทษเจ้าเพิ่มเป็นเท่าตัว”
เขาอุ้มสตรีที่ชอบคิดมากด้วยท่าอุ้มเจ้าหญิง สายตาที่มองไปยังนางราวกับสุนัขป่า
“อ๊ะ...ช่วยด้วย...”
น่าเสียดาย การร้องขอความช่วยเหลือนี้ สุดท้ายกลายเป็นทั้งสองคนเกี่ยวพันกันไม่มีที่สิ้นสุด
จนกระทั่ง หลังจากที่นางร้องขอ ขอไว้ชีวิตไม่หยุด พูดคำพูดดีๆ ออกมาเป็นกระบุง สุดท้ายจึงทำใ้ชายหนุ่มที่คอยตอแยยอมปล่อยนาง
วันต่อมา เป็นอย่างที่โจวอ้าวเสวียนพูด เขายังคงแต่งกายเป็นสตรีแล้วตามนางออกไปที่ร้าน
ทั้งสองคนไปดูที่กระโจมทำชุดสำเร็จรูปก่อนรอบหนึ่ง
ที่นี่ จ้างช่างเย็บผ้ายี่สิบคนมาทำชุดสำเร็จรูปตลอดวัน แม้จะเป็นเช่นนั้น ความเร็วในการทำชุดกลับตามจำนวนการซื้อไม่ทัน
“เฮ้อ ยังต้องเพิ่มจำนวนคนึ้ จะใ้ดีที่สุดคือสามารถทำเครื่องจักรที่สามารถทำชุดสำเร็จรูปออกมาได้”
นางเพียงพูดออกไปอย่างนั้น เพราะในตอนนี้คิดถึงเครื่องจักรเย็บผ้าในชาติก่อน แต่โจวอ้าวเสวียนที่ตามมากลับเห็นด้วย
“จริงด้วย หากมีการผลิตจำนวนมากเช่นนี้ เจ้าจะได้กังวลใจน้อยลง เมื่อเป็นเช่นนี้ กิจการของพวกเราย่อมจะสามารถทำออกมาเป็นจำนวนมากได้ ถึงยามนั้น เกรงว่าธุรกิจนี้จะต้องเปลี่ยนสายตาของฮ่องเต้และคนในครอบครัวที่มองมาที่พวกเราได้”
เฉินเนี้ยนหรานหยุดฝีเท้าลง นางจ้องโจวอ้าวเสวียนที่อยู่ด้านข้างนิ่ง
“ถ้าหาก ข้าพูดว่าถ้าหากว่าข้าสามารถคิดค้นสิ่งของที่สามารถผลิตเสื้อผ้าจำนวนมากออกมาได้ จะเป็นประโยชน์ต่อพวกเรามากกว่าหรือไม่?”
เมื่อเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง หัวใจของโจวอ้าวเสวียนกระตุก
“เจ้า คงไม่ได้มีวิธีทำเช่นนี้จริงๆ ใช่หรือไม่? แต่มันเป็นไปไม่ได้นี่? ไม่ ไม่สิ ท่านอาจารย์เคยกล่าวไว้ เขาบอกว่าอุตสาหกรรมในโลกนี้ล้าหลังมากเกินไป หากเป็นยุคปัจจุบัน การทำเสื้อผ้าออกมา มีรูปแบบมากมาย การผลิตรูปแบบหนึ่งออกมาจำนวนมากเช่นงานนี้ การทำชุดๆ หนึ่งจะต้องถัก ทั้งทอ และยังต้องใ้คนมาเย็บมันึ้มา พวกเจ้า...”
เขากุมมือนางเอาไว้ “ตามข้ามา”
ตอนนี้ทั้งสองคนยืนอยู่บนถนนใหญ่ พูดเรื่องที่พัฒนาแล้วในอนาคตย่อมไม่สะดวกสักเท่าใด ครั้นเดินมาถึงสถานที่ที่ค่อนข้างไร้ผู้คนแล้ว เฉินเนี้ยนหรานจึงได้เริ่มพูดความคิดของตนเองออกมา
“สามี ข้ามีวิธีจริงๆ มีแต่เจ้าไม่รู้ ที่นั่น พวกเรามีเครื่องจักรที่สามารถผลิตของออกมาเป็นจำนวนมากได้ แต่ข้ารู้สึกว่า แทนที่จะทำเครื่องเย็บผ้า สู้คิดค้นเครื่องถักผ้าอีก ขอแค่คิดค้นเครื่องแบบนี้ออกมาได้ พวกเราจึงจะสามารถขายผ้าออกมาได้ และสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องเสื้อผ้าที่สวมใส่ของผู้คนได้ไม่น้อย เพียงแต่ เครื่องจักรเช่นนี้ลึกล้ำมาก ข้าอาจต้องศึกษาค้นคว้ากับท่านอาจารย์ถึงจะทำอะไหล่ของเครื่องจักรออกมาได้”
นางไม่ได้เรียนการผลิตเครื่องจักรมา พวกสิ่งของเช่นเครื่องจักร แค่พูดย่อมพูดออกมาได้ แต่ใ้ทำออกมานั้นไม่ได้ ทว่าโจวอ้าวเสวียนกลับส่ายหน้า
“ไม่ ท่านอาจารย์เองก็ทำไม่ได้ ชาติก่อนของเขา แม้จะผ่านเรื่องราวมาไม่น้อย แต่ได้ยินเขาบอกว่า เขาไม่เคยเรียนเรื่องการสร้างเครื่องจักรมาก่อน หากทำได้ เขาคงสร้างมันออกมานานแล้ว ดังนั้นอย่าคาดหวังกับเขา”
ความหวังนี้ถูกพังลงในชั่วพริบตา
เฉินเนี้ยนหรานไม่ยอมตัดใจ “ข้ารู้ว่าอะไหล่นั้นทำอย่างไร แต่ตรงส่วนที่เชื่อมต่อกัน และความแม่นยำเรื่องขนาดเล็กใหญ่ ข้าอาจแย่ไปสักหน่อย เฮ้อ ช่างเถิด ค่อยคิดหาวิธีแล้วกัน ไม่แน่นะ เราอาจจะรู้ถึงของพวกนี้ หวังว่าจะยังมีคนข้ามมิติมา”
เพราะโจวอ้าวเสวียนรู้ว่านางคือคนที่ข้ามมิติมา ดังนั้นการพูดเช่นนี้นางไม่รับผิดชอบมันทั้งนั้น
“ความจริงแล้ว ข้าแปลกใจมาตลอด เหตุใดถึงได้มีคนจากมิติอื่นอย่างพวกเจ้าข้ามมามากมาย? พูดกันตามหลักเหตุผลแล้ว ไม่สมควรมีมากเช่นนี้สิ? หากมีพวกเจ้าสามคนที่เป็นคนข้ามมิติจริง นั่นหมายความว่า...บางทีอาจมีคนอื่น แต่หวังว่าอย่าได้เป็นศัตรูกับทางเราเลย”
ปัญหานี้ได้เตือนสติเฉินเนี้ยนหราน การจัดการบางอย่าง จะทำเป็นแบบยุคปัจจุบันมากเกินไปไม่ได้
หากทำแบบยุคปัจจุบันมากเกินไป หากถูกคนข้ามมิติคนอื่นนำไปใช้ประโยชน์ นางจะไม่ตายอย่างอนาถหรือ?
“อืม นี่นับเป็นปัญหา ต่อไปข้าจะระวังเรื่องนี้ เอาเถิด เรื่องเครื่องจักรวางเอาไว้ก่อนชั่วคราว บางทีในสักวันหนึ่ง ข้าอาจเจอกับคนที่เข้าใจเรื่องเครื่องจักรนะ”
จะอย่างไรเฉินเนี้ยนหรานย่อมคาดไม่ถึงเลยว่า เรื่องที่นางกำลังกังวลอยู่นี้ จะจัดการมันได้อย่างราบรื่น
สามวันหลังจากนั้น ตอนที่นางกับหนิงเซียงนำผ้าที่รับกลับมาด้วยกัน หนิงเซียงก็บ่นออกมา
“เฮ้อ เหตุใดข้าไม่ใช้สมองแล้วทำเครื่องทอผ้าออกมากัน?”
เฉินเนี้ยนหรานกำลังกังวลถึงเรื่องนี้เหมือนกัน
ผ้าที่รับมา มีบางครั้งที่ได้ผ้าดีๆ ซึ่งกว่าจะหามาได้นั้นยากมาก เนื้อผ้าในครั้งนี้หากนำมาทำเสื้อผ้า ราคาคงจะดึงึ้ไม่ได้ บรรดาชนชั้นสูงคงจะไม่ชอบ
เมื่อเป็นเช่นนี้ หากนางอยากจะพัฒนาใ้ทำเสื้อผ้าออกมามากๆ ก็ไม่มีทางทำได้แล้ว
จนถึงตอนนี้ เสื้อผ้าพวกนี้จึงอยู่ในสภาวะจำนวนของไม่ถึงตามความต้องการ หากสามารถทำผ้าใ้ตามทันจำนวนความต้องการได้ นางจึงจะหมดเรื่องใ้ต้องกังวลไปอีกมาก
“หนิงเซียงเอ๋ย มิใช่ข้าจะว่าอะไรนะ ปัญหาเรื่องผ้าข้าก็คิดมานานแล้ว เจ้าคิดเหมือนกันหรือไม่ว่าเครื่องจักรของพวกเราที่นั่นดีมากเพียงใด มีเครื่องทอผ้าก็เรียบร้อยไปแล้ว เหมือนเช่นตอนนี้ พวกเราแค่รอผ้าจากคุณหนูหลัวซานกลับรอมานานมากแล้ว เพราะผ้าของคุณหนูหลัวซานทอออกมาดี ดังนั้นพวกเราจึงต้องการใ้นางนำสินค้ามาใ้ หากมีวันหนึ่ง คุณหนูหลัวซานคนนี้ไม่ส่งสินค้าใ้กับพวกเราแล้ว พวกเราจะไม่ขาดแหล่งนำเข้าสินค้าไปอย่างนั้นหรือ!”
หนิงเซียงดึงผ้านั้นออกมาดู
“ก็ใช่นะ จะว่าไป ในสถานที่แห่งนี้มีผ้าทอของคุณหนูหลัวซานที่ทำออกมาได้ดีที่สุด หากวันหนึ่งมีคนมาเสนอราคาเพิ่มึ้ พวกเราย่อมไม่มีผ้าที่มีคุณภาพดีแล้ว ดังนั้นแม่นาง เจ้าจะต้องรีบคิดหาวิธี และทำสัญญากับคุณหนูหลัวซานคนนี้ อย่าใ้คนมาแทรกกลางได้”
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??