A Legend of Time by Fadalgia
Welcome to Utopia
“หากการได้มาซึ่งเสรีภาพจำเป็นต้องพึ่งบางสิ่ง
สิ่งนั้นก็ควรจะเป็นปีกสีขาวบริสุทธิ์ที่กว้างพอจะบินไปโดยไม่ร่วงหล่น”
♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦
เบื้องหน้าของทหารหนุ่มคือขบวนคาราวานผู้อพยพที่ต่อแถวยาวจนสุดสายตาเมื่อประตูเมืองเปิดออก เหล่าผู้อพยพต่างก็กรูกันเข้ามาสู่ตัวเมืองชั้นนอกจนทหารต้องตรึงกำลังและลงมาจัดระเบียบด้วยตัวเอง ผู้คนจำนวนมหาศาลนี้ต่างเดินทางมาจากทั่วทุกมุมโลก ทุกคนต่างต้องการที่จะมุ่งสู่‘ยูโทเปีย’ เมืองที่ปราศจากสงคราม เมืองที่จะให้ความสุขและความสมหวังแก่พวกเขาที่ไม่อาจหาได้จากที่ใดในแผ่นดินนี้
‘ที่ยูโทเปีย ทุกคนต่างเท่าเทียมกัน ไม่มีชนชั้นและวรรณะ ผู้อยู่อาศัยทุกคนจะได้รับสวัสดิการในทุก ๆ ด้าน ระบบสาธารณูปโภคทุกอย่างควบคุมด้วยระบบสมองกลอัตโนมัติ ระบบที่ไม่มีวันทำงานผิดพลาด คุณไม่ต้องทำงานก็สามารถที่จะมีชีวิตอยู่ได้อย่างสุขสบาย และจะกลายเป็นเมืองต้นแบบของอีกหลาย ๆ เมืองบนโลกนี้ในไม่ช้า มาเป็นส่วนหนึ่งของเมืองสวรรค์กันเถอะ’
ภาพเคลื่อนไหวของประธานาธิบดีพร้อมคำพูดเชิญชวนบนจอโทรทัศน์ขนาดยักษ์ที่ติดอยู่บนประตูเมืองและถนนหนทางทุกแห่งดึงดูดสายตาของผู้อพยพ ภายในดวงตานั้นเปล่งประกายแห่งความฝันและความหวัง พวกเขารู้ว่าไม่ว่าในอดีตจะยากจนแค่ไหน เมื่อได้ก้าวเข้ามาในเมืองนี้ พวกเขาก็จะกลายเป็นชนชั้นที่มีสิทธิ์และเสียงไม่ต่างอะไรกับมหาเศรษฐีในทันที และเพราะเหตุนี้เองจึงไม่อาจหยุดยั้งจำนวนผู้อพยพที่หลั่งไหลเข้ามาสู่เมืองแห่งนี้ได้
แต่ว่าเสรีภาพนั้นต้องควบคู่ไปกับกฎหมายที่เด็ดขาดแม้ยูโทเปียจะเป็นเมืองในฝันแต่ประชาชนนั้นไม่อาจอยู่เหนือกฎหมายที่ตราไว้ ณ ใจกลางเมืองได้ โฆษกบนจอโทรทัศน์ที่ถูกสร้างจากระบบสมองกลของยูโทเปียกำลังพาเหล่าประชาชนท่องเที่ยวไปในเมืองใหม่ของพวกเขา ที่ใจกลางเมืองนั้น แท่นหินขนาดใหญ่มหึมาตั้งตระหง่านอยู่ โฆษกเรียกมันว่า ‘ศิลาตรากฎหมายแห่งยูโทเปีย’ ที่ถูกตราขึ้นตั้งแต่ก่อตั้งประเทศ อันเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเรียนรู้และเข้าใจจึงจะมีคุณสมบัติเป็นพลเมืองที่ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศได้
ที่นั่นเอง ประธานาธิบดีแห่งยูโทเปียปรากฏกายขึ้นท่ามกลางฝูงชนด้วยท่าทางมาดมั่นเข้มแข็ง บุคลิกดูภูมิฐาน พรมสีแดงทอดยาวนำ เขาเดินขึ้นไปบนแท่นพร้อมกลุ่มทหารรักษาความปลอดภัยที่แหวกฝูงชนออกเป็นเส้นทางแท่นปราศรัยเบื้องหน้าหลักศิลาแห่งยูโทเปียสร้างความน่าเกรงขามให้กับเขา
“ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ยูโทเปีย ประเทศแห่งเสรีภาพ”
ประธานาธิบดีผายมือออกพร้อมกับโค้งให้กับกองคาราวานและฝูงชนเบื้องหน้าเรียกเสียงปรบมือได้กึกก้อง
“จากนี้ไปทุก ๆ ท่านจะต้องผ่านการตรวจประวัติ ตรวจโรค และฝังรหัสประจำตัวประชาชน ขอความเป็นระเบียบและกรุณาอย่าแตกแถว เมื่อท่านผ่านขั้นตอนดังกล่าวแล้ว ก็จะถือว่าเป็นประชาชนของยูโทเปียอย่างเต็มตัว”
เสียงปรบมือยังคงดังอย่างต่อเนื่อง สายธารของผู้อพยพก็เช่นเดียวกันที่บอกถึงความหมายว่ามนุษย์กำลังแสวงหาสิ่งใดจากโลกที่ผ่านยุคสมัยอันโหดร้ายและรุ่งเรืองมาหลายต่อหลายครั้ง ยูโทเปียกำลังสร้างสิ่งนั้นให้กับพวกเขา ทั้งความเท่าเทียม ความปลอดภัย และความสุขสบาย
ซิลเวียยืนมองฝูงชนเหล่านั้นจากทางหน้าต่างห้องพักของตนด้วยความรู้สึกแปลกใจระคนทุกข์ใจระบบของยูโทเปียนั้นถูกออกแบบโดยมันสมองของวิศวกรระบบจำนวนมากที่ช่วยกันระดมพลังความคิดและจินตนาการจนทำให้มันเป็นระบบที่ไร้ข้อผิดพลาดในการทำงาน แต่ซิลเวียก็ยังกังวลว่าระบบที่ออกแบบมานั้นอาจมีปัญหาในภายหลังได้ ด้วยปัจจัยที่เกิดจากสิ่งมีชีวิตที่คาดเดาไม่ได้ด้วยการคำนวณอย่างมนุษย์
มนุษย์ไม่เคยมีคำว่าพอดี ความกระหายอยากเกินพอดีที่ถูกสั่งสมมาแต่บรรพบุรุษไม่ได้ถูกลดทอนลง โลกที่วิปริตบิดเบี้ยวและเลวร้ายนั้นกลับทำให้มนุษย์ลอกคราบความอยากออกมามากกว่าเดิม เธอจ้องมองฝูงชนที่กระหายในความสุขสบาย ประธานาธิบดีที่กระหายในเกียรติยศ จากนั้นก็จ้องมองฝ่ามือทั้งสองของตนเองพร้อมกับคิดว่าสิ่งที่เธอปรารถนาคืออะไร? ความกระหายอยากของเธอที่อุทิศทั้งชีวิตให้กับวิทยาศาสตร์แทบไม่ต่างอะไรกับพวกเขาเหล่านั้นสักนิด
ซิลเวียเดินไปหยิบซองจดหมายสีขาวที่วางอยู่บนเตียง เธอนั่งลงและดึงจดหมายที่อยู่ภายในออกมาอ่าน เนื้อความบอกถึงการอนุมัติผ่านให้ดำเนินโครงการลับสุดยอดโดยไม่มีข้อกังขาจากรัฐบาลและคณะตุลาการ อันเป็นโครงการเธอและเพื่อนเป็นผู้ริเริ่ม ซึ่งพอนึกย้อนดูอีกครั้งแล้วแล้วมันช่างเป็นโครงการที่ท้าทายแต่ก็น่ากลัว และการที่โครงการผ่านการพิจารณาอย่างง่ายดายพร้อมกับเงินทุนในการวิจัยที่เรียกได้ว่าอภิมหาศาล หมายความว่าผลประโยชน์ที่มากมายกว่านั้นกับโครงการนี้เป็นสิ่งเย้ายวนใจต่อเหล่าผู้มีอำนาจเบื้องบน… บางทีอาจจะกระเทือนถึงชีวิตของมนุษยชาติต่อจากนี้ รวมถึงท้าทายอำนาจของเทพบนสวรรค์ทีเดียว
ซิลเวียถอนหายใจ ในเมื่อเธอเป็นคนริเริ่มขึ้นมาแล้ว เธอก็ต้องเป็นคนสานต่อให้จบ จิตวิญญาณของนักวิทยาศาสตร์กำลังสั่นไหว แต่ไม่มากพอที่จะทำให้เปลี่ยนใจเธอได้ เธอจรดปลายปากกาและเซ็นชื่อลงบนช่องว่างของเอกสารเพื่อยินยอมที่จะเริ่มทำการวิจัย และพร้อมจะรับผิดชอบทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไป เป็นการแบกรับที่ยิ่งใหญ่ในฐานะเจ้าของโครงการโซดิแอค เพื่อพัฒนาและวิจัยความเป็นอมตะทางพยาธิสภาพของมนุษย์
โครงการที่ท้าทายประวัติศาสตร์ของมนุษย์ที่เสาะแสวงหาความเป็นนิรันดรอย่างแท้จริงแม้ว่าต่อจากนี้โลกจะแปรเปลี่ยนไปมากแค่ไหน สุดท้ายแล้วมนุษย์จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ซิลเวียสอดจดหมายใส่ซองและปิดผนึกมันพร้อมกับถอนหายใจยาว…
♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦
นั่นเป็นเรื่องราวเมื่อสิบปีที่แล้ว
♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦♦
สารบัญ
CONTENT
บทที่ 1 ยูโทเปีย ตอนที่ 1 | อ่านฟรี |
5 ปีที่แล้ว
12,876
|
บทที่ 1 ยูโทเปีย ตอนที่ 2 | อ่านฟรี |
5 ปีที่แล้ว
13,382
|
บทที่ 1 ยูโทเปีย ตอนที่ 3 จบ | อ่านฟรี |
5 ปีที่แล้ว
12,260
|
บทที่ 2 คีย์มาสเตอร์ ตอนที่ 1 | อ่านฟรี |
5 ปีที่แล้ว
18,504
|
บทที่ 2 คีย์มาสเตอร์ ตอนที่ 2 จบ | อ่านฟรี |
5 ปีที่แล้ว
12,188
|
บทที่ 3 มังกร ตอนที่ 1 | อ่านฟรี |
5 ปีที่แล้ว
10,776
|
บทที่ 3 มังกร ตอนที่ 2 | อ่านฟรี |
5 ปีที่แล้ว
9,607
|
บทที่ 3 มังกร ตอนที่ 3 จบ | อ่านฟรี |
5 ปีที่แล้ว
12,217
|
บทที่ 4 ความเชื่อใจ ตอนที่ 1 | อ่านฟรี |
5 ปีที่แล้ว
13,089
|
บทที่ 4 ความเชื่อใจ ตอนที่ 2 | อ่านฟรี |
5 ปีที่แล้ว
13,751
|
บทที่ 4 ความเชื่อใจ ตอนที่ 3 จบ | อ่านฟรี |
5 ปีที่แล้ว
9,953
|
บทที่ 5 การเริ่มต้นใหม่ จบภาค ชูล่า | อ่านฟรี |
5 ปีที่แล้ว
2,863
|
รายการรีวิว
REVIEW
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??