เรื่อง มารฟ้าพิชิตสวรรค์
ตอนที่ 166
ท่ามกลางผืนป่าอันรกชัฏ แสงสลัวลอดผ่านยอดไม้ ส่องกระทบพื้นดินที่ชื้นแฉะและเต็มไปด้วยซากใบไม้ และกลิ่นพืชพรรณนานาชนิดผสมปนเปกันในอากาศ เขาเงี่ยหูฟังเสียงรอบข้าง จับสัมผัสถึงความเคลื่อนไหวเล็กน้อย แม้ความเจ็บปวดจากพิษจะยังคงรบกวน แต่เป้าหมายในการตามหาหญ้าหยกสวรรค์ก็ทำให้เขามีแรงที่จะก้าวไปข้างหน้า
เมื่อเดินลึกเข้าไปในป่า ความผิดปกติก็เริ่มปรากฏ แรงลมที่พัดโชยมาเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นกระแสลมแรง เมฆดำทะมึนเริ่มก่อตัวบนท้องฟ้าเหนือศีรษะ ราวกับม่านหมึกที่ค่อยๆ ปกคลุมผืนฟ้า เสียงครืนครามของเมฆฝนดังมาจากระยะไกล
สายฝนเริ่มโปรยปรายลงมาทีละหยด ก่อนจะกลายเป็น-่าฝนที่กระหน่ำอย่างหนักหน่วง ทว่าชิงเทียนกลับรู้สึกถึงพลังงานบางอย่างที่แฝงอยู่ในเม็ดฝน มันไม่ใช่เพียงแค่น้ำฝนธรรมดา แต่กลับมีพลังปราณเข้มข้นเจือปนอยู่
หลังจากสายฝนกระหน่ำได้ครู่หนึ่ง พืชพรรณรอบข้างก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ดอกไม้สีสันแปลกตาชูช่ออวดความงาม ราวกับมันได้รับพลังงานแห่งชีวิตที่ควบแน่นอยู่ในเม็ดฝนเหล่านั้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พืชพรรณบนเกาะแห่งนี้เติบโตอย่างรวดเร็ว
ชิงเทียนประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เขาจะมาเสียเวลาอยู่ตรงนี้นานไม่ได้ เขาเดินลัดเลาะไปตามพุ่มไม้และโขดหิน สายตาจับจ้องไปยังพืชพรรณทุกชนิด เพื่อคนหาหญ้าหยกสวรรค์
ทันใดนั้น สัมผัสอันตรายก็แล่นเข้ามาในความรู้สึก ราวกับมีใครกำลังจ้องมองจากที่สูง ชิงเทียนชะงักฝีเท้า หันขวับไปยังทิศทางที่มาของความรู้สึกนั้น ดวงตาคมกริบกวาดขึ้นไปบนยอดไม้หนาทึบ
งูทะเลขนาดใหญ่ ลำตัวยาวเหยียดเกล็ดสีเขียวเข้มสลับลายดำ เลื้อยพันอยู่บนกิ่งไม้สูงราวกับเถาวัลย์ยักษ์ ดวงตาสีเหลืองอำพันของมันจับจ้องมาที่ชิงเทียนอย่างดุร้าย ลิ้นสองแฉกกระดกไปมาอย่างเชื่องช้า พลังปราณที่แผ่ออกมาจากร่างบ่งบอกว่ามันเป็นสัตว์อสูรขอบเขตเซียนขั้นกลางระดับเจ็ด
ชิงเทียนกำด้ามดาบแน่น ปราณในกายไหลเวียนอย่างรวดเร็ว เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ ทว่าในขณะนั้นเอง ความเจ็บปวดก็แล่นปราดไปทั่วร่าง ราวกับมีเข็มนับพันเล่มทิ่มแทงไปตามเส้นชีพจร อาการพิษเผ่าปีศาจกำเริบขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้ร่างกายของเขาอ่อนแรงลงชั่วขณะ
งูทะเลฉวยโอกาสนั้น พุ่งตัวลงมาอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า ลำตัวของมันบิดไปมาอย่างรวดเร็ว ปากอ้ากว้าง เผยให้เห็นเขี้ยวแหลมคมที่หยดย้อยด้วยพิษร้าย
ชิงเทียนพยายามข่มความเจ็บปวดเอาไว้สุดกำลัง บังคับให้ร่างกายเคลื่อนไหว หลบหลีกการโจมตีของงูทะเลอย่างหวุดหวิด ดาบในมือฟาดฟันออกไปอย่างแม่นยำ ปะทะกับเกล็ดแข็งของงูทะเล เกิดเสียงดังเปรี้ยงปร้างราวกับโลหะกระทบกัน งูทะเลคำรามด้วยความเจ็บปวด พ่นพิษสีดำออกมาเป็นหมอกหนา ชิงเทียนกลั้นหายใจ ใช้ปราณคุ้มครองร่างกาย หลบหลีกหมอกพิษอย่างคล่องแคล่ว
การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด งูทะเลโจมตีด้วยความเร็วและพละกำลังมหาศาล ชิงเทียนตอบโต้ด้วยความว่องไวและดาบที่คมกริบ ทั้งสองปะทะกันอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำและเสียงคำรามของพายุ ทว่าในขณะที่การต่อสู้ดำเนินไป ความเจ็บปวดจากพิษก็ยังคงคุกคามเขาเป็นระยะ
สายตาอันเฉียบคมของชิงเทียนมองหาจุดอ่อนของงูทะเล ก่อนจะเห็นว่าที่ใต้คางของมันเป็นจุดที่มีเกล็ดปกคลุมน้อยที่สุด เขาพุ่งตัวเข้าใกล้งูทะเลอย่างรวดเร็ว แทงดาบเข้าไปที่จุดอ่อนใต้คางของมัน
ดาบชิงหลงปลดปล่อยสายลมอันบ้าคลั่ง ทะลวงใต้คางงูทะเลจนทะลุถึงกลางหน้าผาก เลือดสีแดงพุ่งกระฉูด มันดิ้นพล่านด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะแน่นิ่งไปในที่สุด
หลังจากการต่อสู้ ชิงเทียนทรุดกายลงเล็กน้อย หอบหายใจอย่างหนักหน่วง ร่างกายของเขาสั่นระริกด้วยความเจ็บปวดจากพิษ เขาหันกลับมามองซากงูทะเลที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นดิน ก่อนจะตัดสินใจที่จะชำแหละมัน เพื่อเก็บเกี่ยวทรัพยากรที่เป็นประโยชน์
ดาบสีฟ้าครามกรีดลงบนผิวหนังของงูทะเลอย่างชำนาญ เริ่มจากบริเวณคอลงไปถึงท้อง เผยให้เห็นกล้ามเนื้อสีแดงสดที่ยังคงกระตุกเล็กน้อย จากนั้นเขาใช้ดาบตัดกล้ามเนื้อออกเป็นชิ้นๆ ก่อนจะใช้ดาบงัดเกล็ดแต่ละแผ่นออกมาอย่างระมัดระวัง เกล็ดเหล่านี้มีความแข็งแกร่งและทนทาน สามารถนำไปใช้ในการสร้างอาวุธหรือชุดเกราะได้
"หากนำวัตถุดิบเหล่านี้ไปขาย คงจะได้ศิลาปราณมาไม่น้อยเลยทีเดียว" ชิงเทียนกล่าว ก่อนจะนำเนื้อและเกล็ดทั้งหมดเก็บเข้าไปในแหวนมิติ แล้วเริ่มออกสำรวจต่อ
ร่องรอยของสัตว์อสูรปรากฏอยู่ทั่วทั้งป่า ชิงเทียนพยายามหลบเลี่ยงทิศทางที่คาดว่ามีสัตว์อสูร เนื่องจากพิษเผ่าปีศาจที่กัดกินร่างกายทำให้เขาต่อสู้ได้ไม่เต็มที่ การเลี่ยงการปะทะจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
ระหว่างที่เดินลัดเลาะไปตามพุ่มไม้ ชิงเทียนก็พบกับสมุนไพรระดับสูงหลายชนิด เขาเก็บเกี่ยวสมุนไพรเหล่านั้นอย่างระมัดระวัง โดยพยายามไม่ให้เกิดความเสียหายกับลำต้นและรากของมัน
หลังจากการเก็บเกี่ยวสมุนไพรเหล่านั้น ดวงตาของชิงเทียนก็พลันสะดุดกับพืชสีเขียวมรกตที่ส่องประกาย โดดเด่นแตกต่างจากพรรณไม้อื่นอย่างชัดเจน ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจคือการค้นพบหญ้าหยกสวรรค์เพียงต้นเดียวเท่านั้น
"สมุนไพรส่วนใหญ่คงถูกสัตว์อสูรกินไปหมดแล้ว ดูเหมือนคราวนี้ข้าจะมาเสียเที่ยวสินะ" ชิงเทียนพึมพำออกมาด้วยความผิดหวัง เขาเก็บเกี่ยวหญ้าหยกสวรรค์ต้นนั้นอย่างทะนุถนอม ราวกับกำลังถือสมบัติล้ำค่า
ถึงจะมีหญ้าหยกสวรรค์เพียงต้นเดียว แต่มันก็ถือว่าเพียงพอสำหรับเขาแล้ว ชิงเทียนเตรียมตัวที่จะกลับ ทว่า สายตาของเขากลับเหลือบไปเห็นบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางแมกไม้ที่หนาทึบ
ชิงเทียนถึงกับต้องหยุดชะงักทันที สิ่งที่เขาเห็นอยู่ตรงหน้า คือผนังหินที่ปกคลุมไปด้วยวัชพืช รวดลายบนนั้นคล้ายกับซากของโบราณสถานบางอย่าง มีร่องรอยของภาพแกะสลักและตัวอักษรโบราณจางๆ ซึ่งไม่สามารถตีความได้
“อักษรพวกนี้สื่อถึงอะไรกันแน่” ชิงเทียนใช้มือสัมผัสไปบนผนังหิน เขาสังเกตเห็นว่ามีแผ่นหินขนาดเล็กแผ่นหนึ่งที่มีลักษณะแตกต่างจากหินแผ่นอื่น
ชิงเทียนลองใช้มือกดแผ่นหิน ทันใดนั้น ผนังหินก็เริ่มสั่นสะเทือน จากนั้นก็ค่อยๆเลื่อนออก เผยให้เห็นทางเดินลับที่ซ่อนอยู่ภายใน
ได้กลิ่นของสมุนไพรลอยมาตามลม ทำให้ชิงเทียนเริ่มมีความหวังอีกครั้ง
“หรือว่าจะมีสมุนไพรอยู่ที่นี่” ชิงเทียนกล่าว ก่อนจะเดินเข้าไปในถ้ำโดยปราศจากความลังเล
เมื่อเดินไปได้สักพัก ทางเดินก็เริ่มขยายตัวก่อนจะกลายเป็นพื้นที่โล่งขนาดใหญ่ ด้านบนเป็นปล่องที่เชื่อมต่อกับท้องฟ้า ทำให้เห็นเค้าลางพายุที่กำลังโหมกระหน่ำอยู่ด้านบน
ภาพที่ปรากฏอยู่ด้านหน้า ทำให้ดวงตาของชิงเทียนเป็นประกาย สมุนไพรระดับสูงนานาชนิดที่หายากและล้ำค่า เติบโตอยู่ภายในถ้ำแห่งนี้อย่างอุดมสมบูรณ์ หญ้าหยกสวรรค์สีเขียวมรกต ไม่ต่ำกว่าร้อยต้น เติบโตภายใต้สายฝนที่โปรยลงมา
"ที่นี่...เปรียบเสมือนสวนสวรรค์ของนักกลั่นโอสถเลยก็ว่าได้" ชิงเทียนกล่าวด้วยความตื่นเต้น
เขาสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตอันเข้มข้นที่แผ่ออกมาจากสายฝนที่ตกลงมาจากด้านบน อีกทั้งเมฆฝนยังอัดแน่นไปด้วยสายฟ้า ซึ่งเป็นพลังงานที่ทรงพลังและบริสุทธิ์
ชิงเทียนเริ่มรวบรวมสมุนไพรอย่างรวดเร็ว เขาเก็บเกี่ยวสมุนไพรที่มีค่าลงในแหวนมิติ หากเทียบแล้วสมุนไพรในที่แห่งนี้อาจมีจำนวนมากกว่าคลังสมุนไพรของสำนักมังกรศักดิ์สิทธิ์เสียอีก
ในขณะที่ชิงเทียนกำลังกอบโกยสมุนไพรล้ำค่าอย่างมีความสุข ทันใดนั้น ถ้ำก็เริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง ชิงเทียนชะงักมือ ก่อนหันไปมองรอบๆ ก่อนที่สายตาของเขาจะพบกับ โขดหินขนาดมหึมา ในตอนแรกชิงเทียนไม่ได้สนใจโขดหินก้อนนี้มากนัก ทว่าทันใดนั้น สิ่งที่เขาเข้าใจว่าเป็นโขดหินก็เริ่มขยับ ก่อนที่มันจะค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาสีทองคำขนาดใหญ่จับจ้องมาที่ชิงเทียนด้วยความดุร้าย ราวกับต้องการจะบดขยี้สิ่งมีชีวิตที่ล่วงล้ำเข้ามายังอาณาเขตของมัน
ร่างนั้นลุกขึ้นอย่างเชื่องช้า รูปลักษณ์ของมันช่างดูน่าเกรงขาม กระดองหนามสีดำสนิทมีขนาดไม่ต่างจากภูเขาขนาดย่อม ที่สำคัญที่สุดคือศีรษะของมันไม่ใช่ศีรษะของเต่าธรรมดา แต่เป็นศีรษะที่คล้ายกับมังกร
พายุด้านบนเริ่มโหมกระหน่ำ พร้อมกับสายฟ้าฟาดผ่าลงมาเป็นระยะ เสียงคำรามของมันก้องกังวาน จนสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งป่า ต้นไม้ใหญ่สั่นไหว ราวกับจะล้มลงได้ทุกเมื่อ สัตว์อสูรขนาดเล็กที่ซ่อนตัวอยู่ต่างพากันหลบหนีด้วยความหวาดกลัว
ชิงเทียนยืนเผชิญหน้ากับเต่าเศียรมังกร ป่าทั้งป่าตกอยู่ในความโกลาหล พายุโหมกระหน่ำขึ้นอีกครั้ง เต่าเศียรมังกรตนนี้มีพลังอยู่ในขอบเขตเซียนขั้นกลางระดับเก้า พลังของมันอาจจะแข็งแกร่งหรือเทียบเท่าเจียงซื่อจ้าวเทียนอวี่เสียด้วยซ้ำ
มันอ้าปากขึ้นไปบนท้องฟ้า สายฝนที่ร่วงหล่นถูกควบแน่น จนเกิดเป็นปราณธาตุน้ำที่ทรงพลัง
“เป็นปราณธาตุน้ำที่แข็งแกร่งอะไรขนาดนี้” ชิงเทียนเผยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นตะลึง
พลังปราณในร่างของชิงเทียนปั่นป่วนราวกับพายุที่กำลังก่อตัว ดาบในมือสั่นไหว ทว่าด้วยพลังของสัตว์เทวะที่ไหลเวียนอยู่ในดาบชิงหลงกลับเริ่มบ้าคลั่งขึ้นมา การกระทำของเต่าเศียรมังกร ทำให้มันรู้สึกว่ากำลังถูกท้าทาย
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??