เรื่อง ครอบครัวของข้า นอกจากข้า ล้วนข้ามมิติมาทั้งครอบครัว
ในเื่วางแผนเสร็จเรียบร้อย ใื็ีเงินแ้ แน่ว่าก็ต้องรีบเิ้าจัดการ
สวี่เหราได้จองวัตถุดิบในการซ่อมกำแพงเอาไว้แ้ หินเป็ชิ้นๆ นั้นจำเป็ต้องเก็บมาจากในภูเขารอบๆ เมือง เว่ยหลางหาทาเก่าที่ตนเองเชื่อใไดุ้่มึ่ในกองทัพมาให้ หลังจากที่พวกเขาแต่งัเรียบร้อยแ้ ก็แสร้งทำเป็ช่างก่อสร้างที่เิทางมาจากด้าน พวกเขาช่วยกันยกหินมาล้อมที่ตรงนั้นที่สวี่เหราทำสัญลักษณ์เอาไว้ จากนั้นก็มอบสถานที่ก่อสร้างนี้ให้กับอาลักษณ์หลี่เป็ผู้ดูแล อย่างไรก็า ในาตาผู้อื่นี่ก็เป็เรือนที่ครอบครัวอาลักษณ์หลี่เป็เจ้า
ออกแบบเรือนเป็เรือนห้าทางเข้า ครอบครัวุหลี่มีคนา ก่อน้านี้ฮูหยินหลี่เองก็เคยพูดเอาไว้ ว่ายามนี้เรือนที่ตนเองพักอยู่ในนี้ไม่กว้างาพอ อยากจะสร้างเรือนที่ใหญ่่านี้ ครั้งนี้ปะจวบเหมาะพอดี หลังจากสร้างเสร็จแ้ ก็ใหุ้หลี่ย้ายเข้าไปอยู่ ่คลังเสบียงใต้ดินก็สร้างอยู่เรือนหลัง
ใน่ด้าน้าเรือนุหลี่ก็สร้างาวิธีปกติ มีก็แค่เรือนหลังที่ออกแบบการสร้างโดยเฉพาะ บนดินสร้างเป็เรือนเล็กาห้อง และบนกำแพงที่ล้อมรอบก็ติดปะตูหลังึ่ทาง
คุณภาพดินที่อยู่ในบริเวณใ้ๆ ค่อนข้างเหนียว คนงานาคนต่างช่วยกันขุดห้องใต้ดินเอาไว้ในห้องที่เรือนหลังเพื่อเอามาไว้ใช้เก็บ หลังจากสร้างเรือนหลังเสร็จแ้ ด้านล่างก็ขุดห้องว่าง ใต้พื้นดินและกำแพงรอบๆ ทั้งี่ด้านใช้หินเป็่ปะกอบ รับปะกันว่าไม่มีรูแม้แต่รูเดียว เพื่อป้องกันหนูไม่ให้เข้าาัดแทะเมล็ดข้าว ด้านบนจึงใช้ไม้มาพยุงเอาไว้ีรอบ และใช้หินมาทำเป็เสา
หลังจากสร้างห้องที่มีขนาดร้อย่าตารางเมตรเสร็จแ้ สวี่เหรากับเว่ยหลางก็มาดูงานในาคืนรอบึ่ จากนั้นจึงส่งคนให้ไปอยู่ในเรือนด้านหลัง รอจนกระทั่งได้เวลาอันสมควร ก็ทำการย้ายอาาจากคลังที่สะสมไว้จากด้านื่ื่เว่ยหลางมาเก็บเอาไว้ที่ี่
ในยามทีุ่หลี่สร้างเรือน ะเดียวกันสวี่เหราก็นำุ่มชาวบ้านามายเริ่มซ่อมแซมกำแพงเมือง
ในมือมีเงินามาย ีทั้งค่าจ้างคนงานเองก็ไม่ได้แพงา ึแม้่ใหญ่จะเป็แบกหาม แต่คนที่มาช่วยมีจำนวนา รอจนกระทั่งหิมะแรกตกที่เมืองเหอซี ปะตูเมืองทิศตะวันออกเหอซีก็ซ่อมเสร็จแ้
ทางทิศตะวันตกเขตเมืองเหอซีอยู่ใ้กับด่านเยี่ยนเหมิน ทางทิศใต้ทิศเหนือล้วนเป็ภูเขาู มีเพียงทิศตะวันออกที่เป็ทางเข้าออกเมืองที่จำเป็ต้อง่า
เพื่อทำการป้องกันเมืองให้ดีทีุ่ วัตถุดิบที่ใช้ทำกำแพงเมืองจึงไม่ได้มีการปะหยัดงบเลยแม้แต่น้อย ด้านบนกำแพงม้าสามารถวิ่งได้ ปะตูเมืองก็ทำมาจากไม้หวายมู่ที่มีความหนาและหนัก ึแม้จะใช้คนงานเปิดปิดปะตูสามึห้าคนก็ยังเปิดไม่ได้
การก่อสร้างทางนี้ต่างส่งเีงครึกครื้น แต่การฝึกทาทางด้านเว่ยหลางเองับทำให้เหล่าทาต้องร้องโอดโอยกันระงม
เว่ยหลางคิดมาตลอดว่าี่ี้ไม่เหมือนกับคนหนุ่มื่ๆ จนกระทั่งี่ี้มอบกระดาษาแผ่นนั้นกับตนเอง ก็ยิ่งรู้ว่าเขาเป็คนเก่งกาจา
เด็กหนุ่มทั้งคนขังัเองอยู่ในห้องด้วยกันึ่วันึ่คืน จางจ้าวฉือก็ไม่รู้ว่าทั้งคนคุยอะไรกัน เพียงแต่กำชับชิงเหมี่ยวกับชิงซุยให้ดูแลอยู่ข้างๆ อย่าได้บกพร่อง ึยามกินก็กิน ึยามดื่มก็ดื่ม เสบียงพวกนี้จะต้องรีบนำไปส่งให้ลูกนางทาน อย่างอื่นไม่ต้องไปสนใ
เว่ยหลางถือกระดาษาแผ่นนั้นไว้แน่นราวกับว่าถือที่มีมูลค่ามหาา ก่อนจะออกจากจวนุสวี่ไปอย่างอารมณ์ดี
ี่ี้ไม่ได้ทั้งคืน ตาแดงไปหมด จางจ้าวฉือมองี่ี้ก็พูดออกมาด้วยความสงสาร “ทานโจ๊กร้อนๆ ี่ก่อน ทำให้ท้องอุ่นแ้ลูกค่อยไปเถิด”
ี่ี้พยัก้ารับ “ใาคตหากข้าัไมู่ เช่นนั้นก็มีเุมันะั วันนี้ข้าจะพักผ่อนเีหน่อย ่าไปีสามวันก็จะเข้าภูเขาไปฝึ้กับพวกเว่ยหลางขอรับ”
จางจ้าวฉือฟังแ้ก็เ่ออกมาด้วยความตกใ “ลูกจะาไปด้วยงั้นหรือ?”
ี่ี้ถอนหายใ “ใช่ิขอรับ เว่ยหลางบอ่ามีาเรื่องที่เขาไม่ค่อยเข้าใสักเท่าไหร่”
จางจ้าวฉือเ่กับบุตรชายด้วยความสงสารเป็อย่างยิ่ง “ลูกเพิ่งจะาุกี่ิปีเอง ีอย่าง่ากายก็ไม่ได้ฝึกมาั้แต่เด็กจะทนรับความลำบากไหวหรือ?”
ี่ี้เ่ตอบมารดา “ไม่ไหวก็ต้องไหวขอรับ นี้เรื่องมันเกี่ยวข้องกับปะโยชน์พวกเรา หากไม่มีิ่ใดที่สามารถปกป้องชีวิตได้ ในใข้าก็รู้สึกไม่มั่นคง ท่านวางใเถิด ข้ารู้จักแยกแยะได้ขอรับ”
สวี่เหรายุ่งอยู่กับการสร้างคลังเก็บเสบียง ยุ่งอยู่กับการซ่อมกำแพง าคืนับเรือนมาก็กรนออกมาเาะความเหนื่อยล้า จางจ้าวฉือเองก็ไม่อยากจะไปรบกวนเขา จึงทำอาาง่ายๆ ะๆ ให้สวี่เหรารับปะทาน
นี้สวี่จือยิ่งมีกิริยาท่าทางเหมือนกับคุณหนูุใหญ่ ไม่ว่าจะเป็การเิ ยืน ั่ หรือ ีอย่างาตาก็พัฒนาขึ้นาภายใต้การชี้แนะแม่นมลู่
สวี่จือยุ่งอยู่กับการเรียนตนเอง ทั้งยังเอาใใส่เริ่มสังเกตคนในครอบครัว นางพบว่าช่วงนี้เวลาที่่าแ่อยู่ในโรงครัวยิ่งนานาขึ้นเรื่อยๆ จึงไปดูด้วยความปะหลาดใ
จางจ้าวฉือกำลังศึกษาวิธีการทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ เจ้าิ่ที่ทั้งอร่อยและทั้งสะดวกนี้ สรุปคือทำมาารอบแ้ก็ยังทำออกมาไม่ได้ โรงครัวจึงอบอวลไปด้วยิ่นอาาทอดหอมยั่วน้ำลาย
หลังจากที่ี่ี้กำหนดเวลาไปฝึกบนภูเขากับเว่ยหลางเรียบร้อยแ้ เขาก็รีบไปที่ไร่ จัดการเรื่องที่ไร่ให้เรียบร้อย รอจนกระทั่งเข้าับมาในเรือนีครั้ง ก็เห็นมารดาที่กำลังเศร้าสร้อยเาะไม่สามารถทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปออกมาได้
ได้ยินมารดาตนเองบอ่าจะทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แ้มองไปยังโรงครัวที่อยู่ในสภาพเละเทะ ี่ี้ก็ถอนหายใ “่าแ่ น้ำใท่านข้ารับไว้แ้ขอรับ แต่ว่าท่านเป็คนที่เข้าครัวแค่ไม่กี่ครั้ง ู่ๆ จะมาทดลองทำิ่ที่ยากขนาดนี้ มันลำบากท่านเกินไปะั มาๆ ท่านไปพักก่อนเถิด ที่เหลือไว้เป็้าที่ข้าเองขอรับ”
จางจ้าวฉือมองบุตรชายที่จัดการเตรียมเ้อย่างคล่องแคล่วก็ถอนหายใ “ี่ี้ เจ้าว่าแม่เป็มารดาที่ไม่ได้เรื่องหรือไม่ ั้แต่เด็กแม่ก็ไม่ค่อยได้สนใลูก เอาแต่ไปสนใอยู่แต่กับงาน ุท้ายลูกก็เติบโตมาเป็คนที่ดีโดยที่แม่ไม่ได้มี่ร่วมเลย คิดๆ ไปแ้ ข้าที่เป็แม่ที่ไม่่ามาตรฐานเลยจริงๆ”!
ี่ี้ฟังแ้ก็หัวเราะแ้เ่ “่าแ่ ข้ารู้สึ่าท่านดีทีุ่ขอรับ ึแม้ท่านกับท่านพ่อจะไม่ค่อยได้สนใข้า แต่ว่าพวกท่านเป็แบบอย่างในการยืนหยัดที่ดีให้ข้าะั พลังในการเป็แบบอย่างนั้นมีอย่างไม่จำกัด”
หลังจากจางจ้าวฉือเห็นี่ี้นวดแป้ง แ้ยืดแป้งออกเป็เ้ๆ จากนั้นเอาไปขึ้นหม้อนึ่ง นึ่งจนจับัเข้ารูปแ้ค่อยเอาลงไปทอดในหม้อีครั้ง เื่ตักขึ้นมาเป็ก้อนแป้งเล็กๆ ที่เื่กัดเข้าไปคำึ่แ้พบว่ามันทั้งนุ่มทั้งกรอบ ยามที่นำลงไปต้มน้ำร้อนก็ออกมามีลักษณะเหมือนกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เคยรับปะทาน
ี่ี้เองก็ลองชิมดูก่อนจะ่า “เจ้าี่จะทำาไม่ได้ะั เราไม่มีบรรจุภัณฑ์ ทำได้แค่ใส่ในถุงแป้ง ที่จะทานก็ไม่สะดวก แ้ก็พวกเครื่องปรุง ึนั้นค่อยใส่ผักดองลงไป แต่ข้าว่ามิสู้ทำเนื้อตากแห้งไม่ดี่าหรือขอรับ”
จางจ้าวฉือตอบ “เจ้าี่ก็ดีาแ้นะ ยามไปออกรบพอเวลาไม่ทันกาล เิไปทานไปชิ้นก็อิ่มท้องแ้ ไม่ต้องไปทำอาา ลดปัญหาไปเยอะ”
แม่ลูกช่วยกันคิดว่ายังมีกินอะไรีที่ทั้งอร่อยทั้งสะดวกร่วมกันอยู่ในโรงครัว ปะเด็นสำคัญก็คือสะดวกต่อการพกพา ซึ่งในนั้นเว่ยหลางก็มาึพอดิบพอดี
เห็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปวางอยู่ในตะแกรงกรองน้ำมัน เว่ยหลางก็หยิบขึ้นมาชิม หลังจากครุ่นคิดก็มองี่ี้ด้วยสี้าตกใ “เจ้าี่ถ้าหากเอาไปด้วยยามออกเิทางก็สามารถทำเป็อาาแห้งได้นะ”
ี่ี้ตอบ “แน่ิขอรับ ข้ากำลังเตรียมัทำเพื่อเอาไปทานยามฝึ้ ื่ื่ การฝึกพิเศษนั้นไม่ได้พูดเล่นๆ ะั การสร้างุ่มนี้ขึ้นมานั้นเปลืองทรัพยากรา แต่หากฝึกได้ดีแ้ละก็ ี่จะเป็ทาที่จะทำให้เรามีโอกาสได้รับชัยชนะาเป็พิเศษขอรับ”
เว่ยหลางพยัก้าหนักแน่น “ข้าได้เลือกคนเอาไว้แ้ ครั้งนี้เลือกออกมาึ่ร้อยคน พรุ่งนี้เช้าจะพาพวกเขาเข้าไปที่ภูเขา”
ี่ี้เ่ “ในเื่จะให้พวกเขาฝึกกันดีๆ อาาี้็ต้องมีพร้อม ท่านับไปก็ให้คนครัวทำเจ้าี่เอาไว้าหน่อยะั แ้ก็พวกผัดข้าวผัดเ้ พวกเราเข้าภูเขาครั้งนี้จะอยู่ก่อนิวัน ที่นั่นไม่สามารถจุดไฟได้”
เว่ยหลางรับคำอย่างแ็ขัน บอ่าับไปจะให้ทาที่รับผิดชอบทำอาามาเรียนวิธีการทำ ก่อนจะไปยังทิ้งท้ายว่า “ี่ี้ ข้าคิดมานานแ้ว่าจะให้สถานะทางทาในกองทัพกับเจ้า”
ี่ี้ได้ฟังเช่นนั้นแ้ก็เ่ “ใาคตข้าจะสอบขุนนาง ท่านจะให้สถานะกับข้าไปเพื่อเุใดหรือขอรับ”
เว่ยหลางตอบ “เจ้าทำให้ข้าามายึเพียง อย่างอื่นข้าก็ไม่มีอะไรที่สามารถทำให้เจ้าได้”
ี่ี้เ่ “พวกเราร่วมมือกันเปิดร้านหม้อไฟมิใช่หรือ? ต่อไปพวกเราก็เป็หุ้น่กันแ้ หุ้น่ช่วยเหลือซึ่งกันและกันก็เป็เรื่องที่สมควรแ้ไม่ใช่หรือ? เอาล่ะๆ พี่เว่ย ท่านอย่าคิดเรื่องพวกนี้านักเลยขอรับ พวกเราฝึ้พวกเขาเอาไว้ ก็เพื่อให้สามารถสกัดพวกเป่ยตี้ไว้ด้านนั่น ไม่ให้พวกเขาเข้ามาได้ก็พอแ้ ปกป้องครอบครัวปกป้องแคว้น ผู้ใดก็มีความรับผิดชอบเช่นนี้ะั”
ี่ี้ส่งเว่ยหลางไปแ้ก็รีบับไปผัดข้าวผัดเ้ในโรงครัวต่อ
ซึ่งล้วนใช้ที่ปลูกในไร่ทั้งนั้น ข้าวก็เอามาจากข้าวฮ่านต่าว แป้งก็เป็ข้าวสาลีที่โม่หลังจากเก็บเกี่ยวฤดูร้อน
ี่ี้นั้นเป็ที่โตไวฉลาดไว ั้แต่เด็กก็าไปฝึ้ที่ค่ายทา อาศัยาุน้อย ปาา สติปัญญาู เป็เพื่อนกับคนที่าุา่าเขาิ่าปี ึแม้จะ่ามาาปีแ้ คนพวกนั้นออกจากกรมับบ้านา็ยังมีติดต่อกันบ้าง แ้ก็มักจะส่งดีปะจำท้องถิ่นมาให้บ่อยๆ บางครั้งี่ี้ก็จะไปเที่ยวเล่นที่บ้านเพื่อนเหล่านี้
ผัดข้าวผัดเ้นั้นเรียนรู้จากที่ไปเที่ยวบ้านเพื่อนคนึ่ที่รู้จักกัน
ใส่ข้าวลงไปในกระทะแ้ผัดให้แห้ง หลังจากผัดสุกแ้ข้าวก็จะมีิ่นออกไหม้หน่อยๆ แต่ว่าจะทานแบบดิบหรือเอาลงไปต้มนั้นก็ดีหมด ี่ี้ยังเคยเอาข้าวผัดที่ว่านี้ไปในห้องทดลอง แ้เอาหม้อทำความร้อนมาต้มเป็โจ๊ก
ผัดเ้ทางที่ดีทีุ่ให้ใส่น้ำมันหมูลงไปด้วย ถ้าหากมีกากหมูผสมด้วยจะเป็อะไรที่ลงัทีุ่ ที่ทานแห้งๆ ก็จะกัดโดนกากหมูอย่างไม่ั้ใ ทำเช่นนั้นแ้ก็จะได้อารมณ์ีแบบ ผัดเ้ที่ทำเสร็จแ้เอาไปต้มในน้ำร้อน เื่ซดน้ำเข้าไปเป็อะไรที่ดีา
หลังจากผัดทั้งอย่างเสร็จแ้ ก็ยกขึ้นมาพักไว้ เตรียมถุงผ้ามาบรรจุอาาใส่ลงไป
สวี่เหราับบ้านมาเห็นอาาง่ายๆ ี้็เ่ “ี่ี้ เจ้าสามารถใช้ผ้าหยาบๆ มาเย็บเป็ถุงใส่อาาพกติดัได้นะ เหมือนพวกรุ่นก่อนที่อยู่คณะปฏิวัติ แบบนั้นสะดวกจะตายไป”
ี่ี้ครุ่นคิดก่อนจะเ่ “พวกนั้นข้าไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรี่ขอรับ”
สวี่เหราหัวเราะ “ข้ารู้ หน่วยงานพวกข้าทุกปีจะไปเที่ยวที่ทำพวกนั้น ในนิทรรศการก็มี ไกด์เคยแนะนำรายละเอียดให้กับพวกข้า การปักเย็บแม่เจ้าไม่ดี เจ้าไปเรียกแม่นมลู่มา พวกเราจะให้แม่นมลู่เย็บให้เจ้า”
ี่ี้รับคำด้วยความดีใ รีบไปที่เรือนหลังเพื่อเรียกแม่นมลู่มา ก่อนที่แม่นมลู่จะเย็บถุงผ้าใส่แห้งาที่สวี่เหราบอก
ต่อมาี่ี้ก็ทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็ขนาดพอดีคำ หลังจากทอดออกมาแ้รอให้เย็นก็ใช้ถุงอาาแห้งมาห่อ เช้าตรู่ฟ้ายังไม่สางเว่ยหลางก็มารับัเขาไป พอเห็นว่าบนัเขาพกถุงผ้าห่ออาาแห้งสามใบ ึแม้จะรู้สึกแปลกๆ แต่ใช้ไปแ้สะดวกาจริงๆ
ครั้งนี้พากันไปฝึกในภูเขา ที่เว่ยหลางเลือกมาล้วนเป็คนที่มี่ากายแ็แรงา เป็คนที่มีความซื่อสัตย์ู เพื่อการฝึกนี้ เว่ยหลางใช้ความคิดไปเยอะา ี่ี้ได้พูดกับเขาเอาไว้แ้ว่าคนที่มาฝึกในครั้งนี้ ในสนามรบจะสามารถสู้ึ่ต่อิได้ ที่สำคัญทีุ่ คนพวกนี้ต่อไปจะต้องเป็ครูฝึก จะต้องฝึกคนเก่งออกมาีามาย แน่ว่าเขาไม่อยากจะฝึ้คนให้เก่งไปเีเปล่า
เว่ยหลางึขั้นพูดแค่กับคนที่ไว้ใไม่กี่คนเรื่องการฝึ้ในครั้งนี้ แม้แต่เลือกคนก็ยังแอบเลือก เว่ยหลางเป็คนที่รักและปกป้องทาตนเอง ลูกน้องพวกนั้น่ากายดี ปฏิกิริยาตอบรับไว ในใรู้จักปะมาณตน จึงเรียกคนมารวมักัน บอกเรื่องการฝึ้ และเขาก็ได้พูดึความเี่ยงก่อน หากทุกคนไม่ยินยอมก็สามารถถอนัออกไปได้
ื่ื่พาคนไปฝึกด้วยตนเอง ึแม้จะมีความเี่ยง แต่เาะว่าเี่ยงตอบแทนจึงู ซึ่งการถอนัออกไปนั้นย่อมเป็คนโง่จริงๆ
คนึ่ร้อย่าคนพกกันง่ายๆ แต่งัสบายๆ แต่ละคนพกอาาแห้งสำหรับิวันเอาไว้ พวกเขาถูกเว่ยหลางกับี่ี้พาขึ้นเขา โดยการออกเิทางเข้าภูเขาเข้าทางปะตูทิศเหนือเหอซีเป็ไปอย่างเงียบเชียบ
ที่สำคัญทีุ่เขตเมืองเหอซีคือปะตูทิศตะวันออก ปะตูตะวันตกเาะว่าอยู่ใ้กับด่านเยี่ยนเหมิน กำแพงเมืองจึงไม่ไดู้ใหญ่านัก ่ปะตูทางทิศเหนือกับทิศใต้ เาะว่าอยู่ใ้กับภูเขาทั้งข้าง จึงซ่อมกำแพงใหญ่ใหู้ใหญ่ขึ้น ด้านล่างกำแพงก็เป็ปะตูเมืองเล็กๆ ที่ี่ปกติมักจะไม่ค่อยมีใครมาเฝ้าเท่าไหร่
คนเมืองเหอซียิ่งเยอะาขึ้นเรื่อยๆ เมืองเองก็ค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น เาะว่าจวนแม่ทัพอยู่ด้านปะตูทิศตะวันออก มีบางคนจึงมาสร้างบ้านอยู่ตรงนี้ ไม่เช่นนั้นสวี่เหราคงไม่สร้างเรือนเอาไว้ที่ี่ ด้านใต้เรือนก็มีคลังเก็บอาา
สวี่เหราเคยคิดเอาไว้แ้ ต่อไปหากมีเงินี จะซ่อมกำแพงฝั่งทิศตะวันตกให้ดี ทางที่ดีทีุ่คือล้อมเข้ามาีสักหน่อย กำแพงจะไม่ทำให้แ็แรงเหมือนกับด่านเยี่ยนเหมิน แบบนั้นมันแ็แรงเกินปกติ อย่างน้อยอยากจะโจมตีทำลายปะตูเมืองก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ หากมาึในคราวที่ด่านเยี่ยนเหมินถูกทำลายแ้จริงๆ กำแพงทางนี้ก็ยังสามารถป้องกันได้ สามารถยื้อเวลาให้คนได้มีเวลาหนีาขึ้นพ
ี่ี้าเว่ยหลางไปแ้ ในเช้าจางจ้าวฉือก็ทานอาาไม่อร่อย สวี่เหราเห็นเช่นนั้นแ้ก็อดเ่ไม่ได้ “ลูกก็าุิ่าปีแ้ แ้ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยแยกกับพวกเราา่อน เุใดเจ้ายังเป็เช่นนี้ี?”
จางจ้าวฉือตอบ “นั้นพวกเรารู้ว่าลูกจะต้องปลอดภัยมิใช่หรือ เจ้าดูนี้ิ าเข้าไปในป่าลึกทางเหนือ เ่าี่ เจ้าว่าในภูเขานั้นจะมีสัตว์ป่าหรือไม่?”
สวี่เหราตอบ “คนเยอะขนาดนั้นเจ้าไม่ต้องรีบร้อนหวาดัวเช่นนี้หรอก พวกเราจะต้องเชื่อใลูก ีอย่างยังมีพวกเว่ยหลางอยู่ไม่ใช่หรือ บุรุษแ็แกร่งร้อย่าคนเชียวนะ”
จางจ้าวฉือถอนหายใ “เื่วานู่ๆ ข้าก็รู้สึ่าตนเองเป็คนเห็นแก่ัาๆ ี่ี้เล็กๆ พวกเราคนก็เอาแต่ยุ่งอยู่กับงานตนเอง ลูกก็ดูแลัเองไป ต่อมาลูกก็ยังต้องมาดูแลพวกเราี ข้าคิดไม่ออกเลยว่าัเองเคยทำอาาเช้าให้ลูกเื่ไหร่ ข้ารู้สึกผิดกับลูก”
สวี่เหราฟังแ้ก็ถอนหายใ “ข้าเองก็คิดเช่นนั้น ึแม้ลูกพวกเราจะเชื่อฟัง แต่ว่าข้ารู้สึ่าลูกแค่ตัดปัญหา ไม่ได้คิดเลยว่าเุใดลูกึได้เชื่อฟังเช่นนี้ ื่ๆ ต่างอิจฉาที่เรามีลูกดี พอคิดเช่นนี้พวกเราคนก็ไม่มีความรับผิดชอบเลย บีบให้ลูกจำเป็ต้องโตขึ้นมาด้วยัเอง”
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??