เรื่อง ยอดหมอหญิงเทพโอสถ
ให้บอกสูตรแต่ไม่ทำการค้าขาย?
กูเฟยเยี่ไม่ได้ต้องการมาที่นี่เพื่อทำการค้าขายจริงๆ เพียงแต่นางจะแน่ใจได้อย่างไรว่าทันทีที่เถ้าแก่เฉิงำสูตรไปแล้ว เขาจะำไปหมักสุรา? และจะทราบชัดได้อย่างไรว่าเขาจะกลั่นสุรามากน้อยเพียงใด จำเป็นต้องใช้ซานชีเท่าใด?
นางใช้ความพยายามอย่างมากถึงจะได้พบเถ้าแก่เฉิงตัวจริง นางไม่ต้องการเผชิญหน้ากับความเสี่ยงใดๆ
ถ้าเถ้าแก่เฉิงชะลอสูตรสุรานี้ไปจนถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วง ทางด้านของเวินจื่อเจี๋ยก็จะสามารถจัดหาซานชีที่เก็บมาใหม่ได้
เรื่องนี้นางก็จะกระทำไปโดยเปล่าประโยชน์แล้ว
กูเฟยเยี่แสร้งทำเป็นยิ้มเยาะ “เถ้าแก่เฉิง ข้านึกว่าท่านจะเป็นผู้ที่รู้จักวินิจฉัยสุราเสียอีก คิดไม่ถึงว่า…หึๆ จะทำได้แค่นี้เอง! สุราแก้วนี้ข้าได้มอบให้หัวหน้าผู้ดูแล ภายในมีส่วนผสมของซานชี ส่วนสุราที่ข้ามอบให้ฟูเหรินของท่าน ภายในมีซานชีมากยิ่งกว่าเสียอีก! ซานชีทำให้เลือดลมไหลเวีดี เป็นสุรากลั่นชั้นยอด สามารถช่วยเพิ่มอารมณ์เคลิ้มได้ดี แต่เพียงเพราะท่านไม่ชอบซานชีก็เลยจะให้ำซานชีออกจากสูตรสุรา นี่มันจะไม่เหยียดหยามสูตรสุราเกินไปหน่อยหรือ?”
สีหน้าของเถ้าแก่เฉิงเปลี่ไปทันทีที่ได้ยินเช่นนี้
กูเฟยเยี่แสร้งทำเป็นเกิดโทสะ “การที่ผู้น้อยยืนกรานที่จะพบท่านให้ได้ก็เป็นเพราะอยากจะบอกกับท่านด้วยตนเองว่าสูตรสุราตัวนี้ไม่สามารถแก้ไขได้อย่างแน่นอน! อีกทั้งผู้ที่เหยียดหยามสูตรสุราตามอำเภอใจเช่นท่าน ไม่คู่ควรแก่การดื่มสุรา! การค้ายิ่งไม่อาจประสบผลสำเร็จได้!”
ทันทีที่กูเฟยเยี่เอ่ยคำพูดเหล่านี้ออกมา อย่าว่าแต่เถ้าแก่เฉิงเลย เพราะแม้กระทั่งสีหน้าของซ่างกวนฟูเหรินก็ยังเปลี่แปลงไปเลย
เถ้าแก่เฉิงกล่าวว่า “ตัวข้าหัวหน้าสมาคมผู้นี้ไม่เคยพูดว่าไม่ชอบซานชี”
กูเฟยเยี่ลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทว่านางแสร้งทำเป็นตื่นตระหนกตกใจ “เถ้าแก่เฉิง หรือว่า…”
เถ้าแก่เฉิงดูจะหงุดหงิดเล็กน้อย “เกิดอะไรขึ้น?”
กูเฟยเยี่จึงเอ่ยวาจาที่หัวหน้าผู้ดูแลเอ่ยออกมา่หน้านี้ให้เถ้าแก่เฉิงฟัง
“เถ้าแก่เฉิง เจ้าของหมู่บ้านของพวกเราไม่มีทางยอมเปลี่สูตรอย่างแน่นอน ผู้น้อยขอร้องหัวหน้าผู้ดูแลหลายต่อหลายครั้งเพื่อให้หัวหน้าผู้ดูแลมาโน้มน้าวท่าน คิดไม่ถึงเลยว่าหัวหน้าผู้ดูแลจะ…”
นางมองเถ้าแก่เฉิงกับซ่างกวนฟูเหรินแวบหนึ่ง่จะเอ่ยอย่างจริงจัง “หรือว่าหัวหน้าผู้ดูแลไม่ชอบกลิ่นของซานชี? ”
แน่นอนว่าเถ้าแก่เฉิงเข้าใจแล้วว่าหัวหน้าผู้ดูแลมีปัญหา ทว่านอกจากความหงุดหงิดเล็กน้อยของเขาแล้ว เขาไม่แสดงออกถึงสิ่งอื่นมากนัก เขาหันไปหาฟูเหรินากระซิบแผ่วเบา “สุรานี้ข้าจะรับไว้ ที่เหลือเจ้าจัดการได้เลย”
เขาพูดจบก็ลุกขึ้นเตรียมออกไป
กูเฟยเยี่กระวนกระวายใจอย่างยิ่ง นางจึงวิ่งไปกางแขนสกัดกั้นตรงหน้าเขาโดยไม่ครุ่นคิดเลยแม้แต่น้อย
ถ้าเรื่องนี้สามารถมอบให้ซ่างกวนฟูเหรินจัดการได้ นางก็คงเจรจากับซ่างกวนฟูเหรินโดยตรงตั้งแต่อยู่ที่หอโคมเขียวแล้ว นางจะต้องลำบากวิ่งมาหาเขาทำไม?
หัวหน้าผู้ดูแลเป็นคนในตระกูลเดียวกันกับซ่างกวนฟูเหริน กูเฟยเยี่จึงจำเป็นต้องระมัดระวังตัวจากซ่างกวนฟูเหริน!
กูเฟยเยี่รีบไปสกัดกั้นเขาาเอ่ยออกมาตามตรง “เถ้าแก่เฉิง ถ้าเรื่องนี้มอบให้ฟูเหรินของท่านจัดการ มันจะไม่ค่อยเหมาะสมนัก เนื่องจากหัวหน้าผู้ดูแลเป็นคนในตระกูลเดียวกันกับซ่างกวนฟูเหริน!”
ซ่างกวนฟูเหรินทุบโต๊ะอย่างรุนแรงทันทีที่ได้ยินเช่นนี้ “อีนังหนู เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
กูเฟยเยี่กล่าวโดยไร้ซึ่งความหวาดกลัว “ผู้น้อยคิดว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความรู้สึกหรือว่าเรื่องของเหตุผล ท่านก็ควรที่จะเป็นผู้เลี่ยงออก”
ซ่างกวนฟูเหรินกำลังจะอ้าปาก ทว่าเถ้าแก่เฉิงก็แทรกขึ้นมา “การค้าขาี้ยังเจรจากันไม่สำเร็จ เรื่องนี้ยังคงเป็นเรื่องภายในหอการค้าเสวีคง คนนอกไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง”
กูเฟยเยี่มองออกว่าเถ้าแก่เฉิงเชื่อใจและรักฟูเหริน นางก็หวังว่าซ่างกวนฟูเหรินจะไม่มีส่วนร่วมเช่นกัน ทว่าทุกย่างก้าวต้องมีความรอบคอบระมัดระวัง นางไม่ต้องการเผชิญความเสี่ยงเลยแม้แต่น้อย!
กูเฟยเยี่ยมไม่ยอมถอยให้แม้แต่ก้าวเดียว “ผู้น้อยไม่มีสิทธิ์มาเป็นห่วงเรื่องภายในหอการค้าเสวีก็จริง แต่ว่าผู้น้อยยังเจรจาการค้าขายไม่สำเร็จก็ใช้จ่ายไปแล้วสามแสนเหรียญทอง”
นางเอ่ยารับถ้วยสุราที่เหมยกงกงยื่นให้ แล้วโไว้โต๊ะ “แน่นอนว่าจำนวนเงินสามแสนนี้ ผู้น้อยยินยอมจ่ายค่าผ่านทางด้วยความสมัครใจ ผู้น้อยยอมรับในข้อนี้ แต่บัดนี้ผู้น้อยสูญเสียความเชื่อใจในหอการค้าเสวีคงแล้ว การค้าขายในครั้งนี้ ผู้น้อยไม่ทำแล้ว!”
กูเฟยเยี่เอ่ยาจงใจำสุราโต๊ะั้กลับคืน ่จะััเตรียมเิออกไป
เถ้าแก่เฉิงมองดูแผ่นหลังสง่างามและดื้อรั้นด้วยความชื่นชม เขาจึงเอ่ยถามออกมา “ถ้าหากว่าตัวข้าหัวหน้าสมาคมผู้นี้ยืนกรานที่จะทำการค้าเล่า?”
กูเฟยเยี่มีความปีติยินดีอย่างยิ่งแต่นางก็เอ่้ำเสียงเย็นชาโดยที่ยังไม่หันกลับไป “ถ้าท่านจัดการด้วยตนเองจะเป็นเกียรติสำหรับผู้น้อยมาก แน่นอนว่าผู้น้อยเชื่อใจท่าน และยินยอมอย่างยิ่ง!”
ถึงอย่างไรเถ้าแก่เฉิงก็ชื่อชอบสุราสมุนไพรขวดนั้น เขาหันไปมองฟูเหรินแวบหนึ่ง่จะหันกลับไปนั่งโดยที่ไม่เอ่ยวาจาใดๆ ซ่างกวนฟูเหรินจ้องมองเถ้าแก่เฉิงอย่างดุดันแต่ก็กลับไปนั่งเช่นเดิม
กูเฟยเยี่ลอบถอนหายใจออกมา หญิงสาวย้อนกลับไปนั่งเจรจาตรงข้ามกับเถ้าแก่เฉิง
กูเฟยเยี่เสนอวิธีการร่วมมือกับวิธีการแบ่งกำไรเช่นเดียวกันกับที่เคยเจรจากับหัวหน้าผู้ดูแล โดยที่หอการค้าเสวีคงจัดหาวัตถุดิบ หมู่บ้านคีรีบุปผาจันทร์รับผิดชอบในการกลั่น
ในขณะที่หัวหน้าสมาคมยกสุราขึ้นมาดื่ม เขาก็ฟังกูเฟยเยี่เช่นกัน เมื่อกูเฟยเยี่เอ่ยจบ เขาจึงเอ่ยขึ้นว่า “หอการค้าเสวีคงสามารถจัดหาวัตถุดิบได้โดยอิงราคาตามท้องตลาด ค่าแรงในการกลั่นก็ไม่มีปัญหา แต่หมู่บ้านคีรีบุปผาจันทร์จะได้กำไรบริสุทธิ์หนึ่งส่วน อีกทั้งถ้าขาดทุนจะต้องรับผิดชอบกันฝ่ายละครึ่ง”
เงื่อนไขนี้จะกดขี่กันเกินไปแล้วนะ! ภายในใจของกูเฟยเยี่มีเพียงคำว่า “ตระหนี่!”
กูเฟยเยี่ไม่ได้มาที่นี่เพื่อกำไร แต่นางกลัวว่าเถ้าแก่เฉิงจะสงสัย นางจึงแสร้งทำเป็นคิดอย่างละเอียดรอบคอบกว่าเถ้าแก่เฉิงาเจรจากับเขาต่ออย่างจู้จี้จุกจิกเพื่อช่วงชิงผลประโยชน์
ด้วยเหตุนี้ หลังจากที่ทั้งสองคนเจรจากันเป็นเวลานาน พวกเขาก็พูดคุยถึงเงื่อนไขในการร่วมมือและลงนามในสัญญา กูเฟยเยี่มอบสูตรสุราทั้งสองให้เขา ภายในใจของนางในตอนนี้คือเบิกบานราวบุปผา ใบหน้ามีความยิ้มแย้มแจ่มใส “เถ้าแก่เฉิง หวังว่าความร่วมมือของเราจะผ่านไปได้ด้วยดี!”
เถ้าแก่เฉิงหยิบยกถ้วยสุราใบเล็กมูลค่าสามแสนเหรียญทองมาเล่นาเอ่ยถาม “ถ้วยสุราแพงขนาดนี้ ซื้อมาจากที่ใด?”
กูเฟยเยี่จึงเอ่ยตอบไปว่า “ร้านเครื่องลายครามที่ไม่มีชื่อในตรอกเอ่อฝั่งตะวันตกของเมือง”
เถ้าแก่เฉิงผงกศีรษะตอบรับ “อีกสองสามวันข้าจะคืนเงินค่าผ่านทางให้เจ้า”
“ขอบคุณเถ้าแก่เฉิงมาก!”
กูเฟยเยี่รีบเอ่ยออกมาหลังจากที่มีความลังเลครู่หนึ่ง “เถ้าแก่เฉิง วัตถุดิบชุดแรกของพวกเราจะส่งครบภายในเดือนนี้ใช่หรือไม่? หลังจากที่พวกเรากลับไปจะได้เริ่มงานเลย”
เถ้าแก่เฉิงำสูตรสุรามาดูอย่างจริงจัง่จะกล่าวว่า “สมุนไพรั้จะพร้อมใช้งานหลังเดือนสิบ”
หลังเดือนสิบซานชีชุดใหม่ก็จะออกวางขาย! กูเฟยเยี่เอ่ยด้วยความรีบร้อน “ไม่ได้ เดือนนี้เหมาะสมที่สุด น้ำบาดาลเดือนเจ็ดเหมาะสมกับการหมักสุราที่สุด!”
เพียงแต่เถ้าแก่เฉิงคิดอีกอย่าง “ราคาของวัตถุดิบจะต่ำสุดหลังจากเดือนสิบ บัดนี้สมุนไพรในสูตรสุราหลายชนิดล้วนขาดแคลน ไม่คุ้มเป็นอย่างยิ่ง สุรานี้วางขายเป็นจำนวนมากเพื่อผลกำไร ถ้าต้องการคุณภาพที่มากเกินไปจะขาดทุนเอาได้”
กูเฟยเยี่ยิ้มแล้ว “สำหรับที่อื่นนั้น สมุนไพรเหล่านี้เป็นของขาดแคลน แต่สำหรับหอการค้าเสวีคง เกรงว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น!”
เถ้าแก่เฉิงพยักหน้าแสดงออกถึงความจริงจังแต่กลับเอ่ยว่า “หอการค้าเสวีคงไม่ได้ทำการค้ากับเจ้าแต่เพียงผู้เดียว นังหนู กลับไปเถอะ เมื่อผ่านพ้นเดือนสิบแล้ว วัตถุดิบที่ควรให้เจ้าจะไม่หายไปแม้แต่ชนิดเดียว”
ในยามนี้ถ้าเขาำวัตถุดิบไปขายจะได้กำไรมากกว่า ถ้าเขาำวัตถุดิบเหล่านี้มากลั่นสุราก็อาจจะไม่ได้กำไรเสมอไป
กูเฟยเยี่เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว นางเริ่มกระวนกระวายใจแล้ว
นางจำเป็นต้องคิดหาวิธีโน้มน้าวเถ้าแก่เฉิง มิฉะนั้น ถ้าให้รอจนถึงเดือนสิบจริงๆ สิ่งที่พยายามทำไปั้จะสูญเปล่า
ทว่าวิธีการของเถ้าแก่เฉิงคือวิธีที่ดีที่สุดนี่นา!
นางจะเอาเหตุผลอันใดไปโน้มน้าวเขาได้?
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??