เรื่อง ทะลุมิติ ย้อนเวลาไปแต่งงานกับนายหน้าโหด สุดซื่อ
ไอเย็นที่พัดมากระทบใบหน้าของลี่จิ่น ทำให้เขาตื่นขึ้นมาได้โดยง่าย เขามองไปทางเตากลางห้องที่คอยให้ความอบอุ่นอยู่เสมอ ก็พบว่าไฟนั่นได้มอดดับไปหมดแล้ว ความเป็นจริงแล้วความเย็นเพียงเท่านี้ไม่สามารถทำอะไรร่างกายของเขาได้ ช่วงที่ทำภารกิจระหว่างการเป็นทหารนั้นหนักหนาสาหัสกว่านี้มาก แต่ไม่ใช่กับภรรยาตัวเล็กของเขา เพียงลมหนาวพัดมาโด็ทำให้ร่างเล็กของภรรยาสั่นไหวแล้ว เขาจึงลุกออกจากเตียงเพื่อเติมถ่านให้ห้องอุ่นขึ้นเหมือนดังเช่นทุกวัน
เขาคิดว่าเช้านี้จะไปดูกับดักที่วางเสียหน่อย แต่ก็ยังไม่กล้าออกไปโดยไม่บอกกลัวนางเป็นห่วงดังเช่นเมื่อวาน คิดได้ดังนั้น เขาก็ขึ้นไปบนเตียงอีกครั้งนออดร่างเล็กของภรรยา มองใบหน้าของนางที่หมดจด แก้มขาวนิ่มๆเหมือนซาลาเปาทำเอาเขาอดที่จะหอมแก้มทั้งสองข้างนั่นไ่ไ้ กลิ่นหอมจางติดจมูกของเขา นางหอมจริงๆ เขากอดภรรยาพร้อมทั้งวางแผารต่างๆในหัว เราคิดในใจว่าเขาอยากฝากตัวเป็นลูกศิษย์กับหมอเทวดาที่รับรักษาให้เขา แต่นางเป็นผู้หญิงดังนั้นถึงจะออกเรือนแล้ว และนางไม่เคยรับลูกศิษย์ จึงน่าจะเป็นเรื่องยาก แต่ก็ต้องลองไปขอเป็นลูกศิษย์สักครั้ง แต่เรื่องนี้ต้องปรึกษาภรรยาของตนอีกที
อีกทั้งเรื่องครอบครัวใหม่ที่เขาเพิ่งได้มาเมื่อวานความจริงแล้วเขาไม่จำเป็นต้องรีบร้อน อย่างไรเสียก็ต้องนัดอีกฝ่ายให้เรียบร้อยเสียก่อน และให้ภรรยาของเขาพักจากเรื่องวุ่นวายสักอาทิตย์ สองอาทิตย์ย่อมไม่มีอะไรเสียหาย เขาจึงตัดสินใจว่าค่อยไปเยี่ยมทำความรู้จักภายหลัง และหลังจากหมดฤดูหนาวค่อยกลับไปจัดการครอบครัวจาง เขาคิดในใจไว้แล้วว่าน่าจะต้องให้เงินเท่านั้นใารเจรจา เรื่องเรียนของอาโยวมีโรงเรียนที่เปิดที่ต้าอู๋เคยเรียน อีกทั้งตอนนี้เสียวอู๋ก็ยังเรียนอยู่จึงน่าจะเข้าได้ไม่อยาก ที่สำคัญตอนนี้คือเรื่องเงิน เขาไม่อยากให้ภรรยาของตนต้องลำบาก ไปขายสินค้าเอง ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นเพียงแค่ขายสูตรอาหาร แต่หากต่อไปเขายังหารายได้ไ่ไ้ แน่นอนว่านางคงคิดที่จะเปิดแผงขาย ถึงเขาจะจะไม่ต่อต้านแต่ก็ไม่อยากให้นางต้องเหนื่อย ตอนนี้เขาคิดได้เพียงไปช่วยลุงหวง
ส่วนอีกทางที่เขาคิดตอนนี้คือการทำงานให้กับครอบครัวใหม่ เขารู้ว่าก่อนหน้านี้ว่าครอบครัวของหลี่หยาง เป็นครอบครัวแม่ทัพเก่า ตอนนี้พ่อของเขาก็เป็นผู้บัญชาการใหญ่ ซึ่งก็เป็นแม่ทัพใหญ่นั่นแหละ เพียงแต่ตอนนี้อาวุธมีการปรับจากเมื่อก่อนที่เป็นธนูกับดาบ ตอนนี้เป็นปืับระเบิด แน่นอนว่าก็ยังมีการฝึกใช้ดาบ มีด และธนูเพื่อใช้ใารซุ่มโจมตีในหลายๆครั้ง แต่ภรรยาของเขากลับไม่ชอบการสู้รบสนใจเพียงทำกิจการผ้าที่บ้านเก่าของนางยกเป็นสินเดิม
ร่างสูงที่นอนเล่นมาซักพักตัดสินใจลุกขึ้นไปในครัวก่อนจะเตรียมอาหารเช้าง่ายๆนั่นคือหุงข้าวสวย ผัดผักใส่เนื้อหมูและเจียวไข่อีก2ฟอง
“พี่ใหญ่!?” เสียงที่ดังขึ้นด้านหลังไ่ไ้ทำให้ลี่จิ่นตกใจ เพราะเขาได้ยินเสียงฝีเท้ามาตลอด ตรงกันข้ามกับหลีเฉียงและลู่เสียนที่ตกใจว่าพี่ใหญ่ของพวกเขาทำอาหารเช้า ปกติเรื่องในครัวผู้ชายส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเข้ามาจัดการ จะยกหน้าที่ส่วนดูแลบ้านให้ฝ่ายหญิงทั้งหมด
“ทำไม”เขาพูดตอบกลับไปเมื่อเห็นตาโตๆ และอาการตกใจค้างของน้องชายสองคนที่เพิ่งเข้ามา
เสียงของลี่จิ่นทำให้ทั้งสองรู้ตัว ก่อนจะมองหน้ากัน ‘พี่ใหญ่ของพวกเขาเอาใจพี่สะใภ้ขนาดนี้เชียว’
.
.
ลี่จิ่นเดินเข้าห้องไปปลุกอาเจียว ก็พบอาโยวที่สะลึมสะลือลุกขึ้นมาจัดผ้าห่มให้พี่สาว
“พี่เขย ผมไปล้างหน้าก่อนนะ” อาโยวเดินไปใส่ชุดคลุมอีกตัวให้อุ่่อนออกไปนอกห้องไป
ลี่จิ่นพยักหน้า ก่อนจะเดินเข้าไปทางภรรยาของตน “อาเจียว ตื่นมาทานข้าวเช้าเถอะ” เขาลูบมือเย็นๆบนใบหน้าของภรรยา
“อือ” ร่างเล็กตรงหน้าบิดตัว ก่อนจะลืมตามองเขา
“ไปกันเถอะ” เขาพูดเบาๆ ก่อนที่ร่างเล็กจะพยักหน้าตอบ
เขาเอาผ้ามาชุบน้ำ บิดให้หมาดแล้วเช็ดใบหน้าของเธอ “ดูแลดีไปแล้วค่ะ” ร่างเล็กพูดขึ้นมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข รอยยิ้มกับน้ำเสียงทำให้เขารู้ว่านางชอบใจ เขาไม่พูดอะไร เพียงหลุดยิ้มเบาๆเท่านั้น
“เปลี่ยนชุดไปทานข้าวกัน เดี๋ยวอาหารที่เตรียมจะเย็นเสียก่อน”
ร่างเล็กที่เพิ่งนึกได้ว่าบ้านตนเองมีแขก ก็เปลี่ยนชุดอย่างไม่รอช้าอีกต่อไป
.
.
หลี่เฉียงและลู่เสียน นั่งรอท่าจะคุยกับพี่ใหญ่ เพื่อพบว่าพี่ใหญ่เดินมาพร้อมกับพี่สะใภ้ก็รู้ว่าตนมารบกวนพี่ใหญ่เสียแล้ว เรื่องงานแต่งงานเขาพอได้ยิน แต่ก็ไ่ไ้ใส่ใจ เขาคิดเพียงแต่จะส่งข่าว จนลืมให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เสียได้
“กินข้าวกันเถอะ ฉันทำอาหารเอง รสชาติน่าจะธรรมดาไปบ้าง” ลี่จิ่นบอก อาเจียงที่นั่งข้างก็ไม่พูดอะไร ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับความเอาใจใส่ของสามี ที่ตักกับข้าวให้นาง
“พี่ใหญ่ เรื่องที่บ้าน คิดจะทำยังไงต่อ” หลี่เฉียงพูดขึ้น
“อีกสองอาทิตย์ ค่อยไปแล้วกัน บ้านพวกนายคนทั้งเมืองก็รู้จักหมด คงหาไม่ยาก”
“ได้ เดี๋ยวผมไปบอกเรื่องนี้กับที่บ้าน เรื่องอื่นๆ ค่อยคุยกันที่บ้า็ได้” พอหลี่เฉียงพูดจบ ลู่เสียนที่นั่งข้างๆก็พยักหน้ารับอย่างตื่นเต้น
“อาเจียว เดี๋ยวหลังจากนี้ผมจะออกไปดูกับดักนะ” หลี่จิ่นพูดขึ้นเสียงเบา หญิงสาวที่โดนพูดถึงก็เงยหน้ามองเขา
“รอส่งน้องๆก่อนสิคะ”
สามีของนางกับส่ายหน้าเบาๆ “ผมจะพาพวกเขาไปด้วย เดินไม่ไกล ถ้าได้เหยื่อจะได้ติดไม้ติดมือกลับไปบ้าง”
อาเจียวคิดว่านี่เป็นปกติของพวกผู้ชาย จึงไ่ไ้ปฏิเสธ “ได้ค่ะ ไม่ต้องไปใกล้ะะ น้องๆคุณต้องเดินทางอีกไกล”
“พี่สะใภ้ไม่ไกลเท่าไหร่ แค่ในตัวเมืองนี่เองครับ”ำแย้งของหลี่เฉียง ทำเอานางตกใจ หากแค่ในเมือง เมื่อวานทำไมมาเสียค่ำ
ลู่เสียนที่เห็นหน้าพี่สะใภ้สบส็ตอบออกไป “เมื่อวานพวกเราหลงไปหมู่บ้านข้างๆ เลยมาถึงค่ำครับ”
ซูเจียวก็พยักหน้าเข้าใจ อาโยวที่ยังไม่ค่อยเข้าใจสถาารณ์ก็ได้แต่นั่งมองผู้ใหญ่คุยกัน จะเคลี้ยวไข่เจียวในปาก
.
.
ทุกคนทานอาหารเรียบร้อย ลี่จิ่็ล้างจานอย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะพาน้องๆเดินเข้าป่าไป
“ตอนนี้เรื่องของฉัน มีใครรู้เรื่องบ้าง” ลี่จิ่นที่นำนางไปที่วางกับดัก จู่ๆก็พูดขึ้นมาเสียงเข้ม น้ำเสียงนั้นทำเอาลู่เสียนที่เคยได้ยินครั้งแรกถึงกับประหลาดใจ
“ผม ลู่เสียน พ่อ และคนในเงา” หลี่เฉียงที่รู้ว่านี่คือปกติพี่ใหญ่ก็ตอบกลับไป “พ่อยังไม่อยากให้บอกแม่ เผื่อกรณีพี่ไม่อยากมาเจอพวกเรา ท่าลัวแม่จะทุกข์กว่านี้ พี่อาจไม่รู้ แต่แม่ยังทำห้องไว้ให้พี่ แถมซื้อของเก็บไว้ ทั้งๆที่ท่านรับรู้ว่าพี่เสียไปแล้ว”
ลี่เจียวได้ยินเช่นนี้ก็ตกใจ “มีใครในบ้านอีกไหม พี่ฉันควรรู้จักไว้ก่อน”
“อ้อ เรามีน้องสาวคนเล็ก ชื่อซิ่วอิง 11 หนาวปีนี้ มีท่านย่า มีท่านอา และอาสะใภ้ แต่อยู่คนละส่วนของบ้าน บ้านท่านมีลูกสองคน คนโตเป็นผู้หญิง น่าจะ20 หนาว คนเล็กเป็นผู้ชายเพิ่งจะ5 หนาว ส่วนคนบ้านเล็กๆของอา ข้าจำชื่อไ่ไ้”
“อือ” ลี่จิ่นตอบรับ ก่อนจะเดินเช้าไปหยิบกระต่ายที่ตกลงไปใับดัก
ทั้งสามเดินดูจนครบทุกจุดระหว่างนั้็ได้พูดคุยกัน ลู่เสียนที่ติดตามมาครั้งก็ได้เรียนรู้ว่าความจริงแล้วพี่ใหญ่ของเขาทั้งเก่งกาจ และเป็นคนที่ดี เขาเข้าใจเลยว่าทำไมพี่หลี่เฉียงถึงดูดถึงพี่ใหญ่ตลอดต้องแต่กลับมาจากค่าย
พอทั้งสามกลับถึงบ้า็ต้องท้องร้องอีกครั้งเมื่อได้กลิ่นของซาลาเปาที่ลอยไปทั่วบ้าน
“อ่าว กลับกันมาพอดีเลย ทุกคนมาลองทาน สุกพอดี จะได้เอาไปติดรองท้อง และฝากคนที่บ้าน” ซูเจียวพูดพร้อมๆหยิบซาลาเปาร้อนๆใส่จานให้ทักคน อาโยวที่ช่วยพี่สาวเติมถ่ายก็ล้างมือนั่งรออย่างเรียบร้อย
ทุกคนชิมคนละำก็พบว่ามันอร่อยมาก แป้งนุ่มฟูแต่แน่น รสไส้ด้านใ็อร่อย หมูเด้งกำลังพอดี ส่วนอาโยวและลู่เสียนที่หยิบได้ใส้ครีมก็ชมไม่หยุดเช่นเดียวกัน
“อร่อย พี่เจียวเก่งจริงๆ”อาโยวพูด
“พี่สะใภ้ ทำอาหารเก่งจริงๆ ใส้นี่ข้าไม่เคยเห็นคนทำ หวาำลังดี หอมมาก นุ่ม อร่อยจริงๆ” ลู่เสียนที่ตั้งแต่มาพูดน้อยำมากลับพูดดังกว่าทั้งสามที่ชมอยู่ ทำเอาลี่จิ่นแอบมองไปทางเขาไ่ไ้
“อร่อยก็ดีแล้ว ติดไปให้คนที่บ้านด้วยนะ พี่สะใภ้จะใส่กล่องไปให้ เวลามีไม่มาทำได้ไม่กี่ลูกไม่รู้ครบคนไหม” ซูเจียวพูดพร้อมกับหยิบซาลาเปาสิบกว่าลูกใส่กล่องทั้งหมด
“พี่สะใภ้นี่มันเยอะเกินไป เหลือไว้ให้พี่ใหญ่กับน้องท่าินบ้าง” หลี่เฉียงเห็นนางทำแบบนั้็พูดขึ้น
“ไม่ต้องกลัวสามีกับน้อง อยากกินเมื่อไหร่ ฉันทำให้ได้ตลอด นี่เอาไปฝากที่บ้านสามีงกเรื่องแค่นี้ไ่ไ้”นางพูดไปปิดฝากล่องไป ใบหน้ายิ้มแย้มไม่มีท่าทีเสแสร้งแม้แต่น้อย ทำเอาสองหนุ่มที่กำลังจะออกกินทางประทับใจไม่น้อย
“ขอบคุณพี่สะใภ้/ขอบคุณพี่สะใภ้” ทั้งสองพูดพร้อมกัน เสียงดังชัดเจน จนเหมือับอยู่ในค่ายทหาร ทำเอาทุกคนหยุดขำกับสถาารณ์ที่เกิดขึ้นไ่ไ้
เสียงหัวเราะอย่างมีความสุขผ่านไปซักพัก ทั้งสองก็ออกเดินทางกลับ พวกเขาคิดในใจว่ารอบนี้จะรีบกลับไป เอาสิ่งนี้ให้ทุกคนทานตอนอุ่นๆ ให้รู้สึกถุงความจริงใจที่พี่สะใภ้ตั้งใจทำ
*ไ์ยังไ่ไ้ตรวจำผิดะะ
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??