เรื่อง ข้านั้นหรือ นายน้อยพรรคมาร
สายลมัแป แนวแ่สรรพสิ่ง ปาพลังั เซียนะี่ชี้นำ ยันต์เทพสังหาร จอมปราชญ์คืนฟ้า ใต้้เงาพรรคมาร...
กงล้อแห่งยันต์ตัวอักษร(护送)หมุนวนเสมือนเกาะคุ้มกันพายุดาบที่พุ่งลงมาอย่างไร้ทิศทางราวกับฝน-่า ราชสีห์ขนทองคำรามด้วยความสะใจก่อนจะกระโจนขึ้นฟ้าเพื่อต้อนรับผู้เป็นนาย และเจ้าของยันต์เทพคุ้มกัน
"ในที่สุดเจ้าก็มา เฉินฟูฟู่ ข้ารอเจ้าอยู่นานแล้ว ไอ้เศษสวะพรรคมาร" แม่ทัพใหญ่หลินฟู่ร้องขึ้น
ชายหนุ่มเหยียบปลายเท้าอยู่บนยันต์ตัวอักษร云(เมฆ)ลอยมาพร้อมกับเซียวหูหลี่ และนั่งลงบนหลังราชสีห์ขนทองเสียงคำรามดังก้องฟ้า ส่วนจิ้งจอกสาวกระโจนลงคุ้มกันผู้เป็นนายที่ยังคงนอนหลับให้ห่วงแห่งฝันที่มีชิงเหลียนประคองอยู่ไม่ห่าง
ภาพความทรงจำในอดีตลอยวนเวียนอยู่ในหัวของเฉินฟูฟู่ บ่าวไพร่ สาวใช้ร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด เลือดสาดกระเซ็นติดปลายดาบไหลนองราวทะเลเลือด เด็กน้อยอายุ 5 ขวบ ร้องวิงวอนขอชีวิตท่านพ่อ ท่านแม่ แต่ปลายดาบก็ยังลงทัณฑ์ให้กลายเป็นเด็กกำพร้าเป็นขอทานข้างถนน ชายหนุ่มยังจำรอยแผลเป็นบนใบหน้านายทหาร และชุดเกราะดำทมิฬได้อย่างติดตา ความป่าเถื่อน ไร้ความปรานี ราวกับสัตว์เดรัจฉานนั้นมันทำให้เขามุ่งมั่นฝึกวิชาจนบรรลุขั้นสรรพสิ่ง และใช้ยันต์เทพปกปิดปายุทธ์ของตนไม่ให้ศัตรูล่วงรู้ความจริง และให้ทุกคนในพรรคมารเข้าใจว่าตนเป็นคนไร้ค่ามีเพียงปายุทธ์ระดับแรกเริ่มซึ่งธิดาพรรคมารแม่บุญธรรมของเขานั้นรู้ดีว่า มีหนอนบ่อนไส้ในพรรคมาร
"เจ้าเศษสวะพรรคมาร จะหลับตาอีกนานแค่ไหนกัน จะไม่ทักทายผู้มีพระคุณเช่นข้าหน่อยหรือ"แม่ทัพแคว้นกงเหว่ยหัวเราะในลำคอ
"ท่านฆ่าล้างตระกูลข้า วันนี้ข้าจะตัดหัวท่านเซ่นไหว้ตระกูลเฉิน"
"ข้าไม่น่าปล่อยเจ้าไว้เลยในวันนั้น แต่วันนี้เจ้าเดินเข้ามาหาความตายถึงที่ ท่านพ่อและท่านแม่ของเจ้าน่าจะรออยู่ในยมโลก"
"ช้าก่อน ท่านเป็นถึงแม่ทัพใหญ่แคว้นกงเหว่ยไหนเลยจะมาเอาเปรียบเด็กเช่นนี้ ยุทธภพจะตาหน้าว่าท่านรังแกเด็ก หากต้องประมือกันนั้น ท่านไม่ควรใช้ศัสตราเทพ"ชายชราผมขาวเอ่ยขึ้น
"ท่านฉีสือกล่่าวได้ถูกต้องแล้ว"แม่ทัพใหญ่มีท่าทีเหมือนจะนอบน้อมท่านฉีสืออย่างมีความหมายโดยนัย
"ท่านแม่ทัพใหญ่ ทวนมหาเทพของท่านก็ไม่ต่างกับฟืนผุทำได้แค่ปักลงดิน ปายุทธ์ขั้นไร้ทิศทางยังไม่ถึงขั้นแตกฉาน เพราะตัวท่านเองที่แอบฝึกวิชามารระดับขั้นที่ต้องดูดกลืนพลังผู้ฝึกตน หัวกะโหลกมนุษย์ที่กองอยู่ชายป่าด้านโน้นน่าจะเป็นฝีมือของท่านแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นกงเหว่ย ข้าขอปรบมือให้ท่านดังๆ"ชายหนุ่มปรบมือเป็นจังหวะ
"เจ้านี่รู้มากกว่าที่ข้าคิดไว้ แม่บุญธรรมของเจ้าปกปิดทุกเรื่องไว้จนข้าเชื่อจนสนิทใจว่าเจ้าเป็นคนไร้ค่า"
"ข้าบรรลุปายุทธ์ถึงขั้นสูงสุดของมนุษย์ตอนอายุเพียง 13 ปี และใช้ยันต์เทพปกปิดปายุทธ์ไว้จนทุกคนในพรรคมารคิดว่าตัวข้าเป็นแค่คนไร้สาระไปวันๆ ข่าวนี้ท่านก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจ แต่ต้องขอบใจหนอนบ่อนไส้ที่ช่วยทำให้แผนนี้สำเร็จ และทำให้ข้ารอดชีวิตเพื่อมาชำระหนี้แค้นกับท่านในวันนี้"ชายหนุ่มใช้นิ้ววาดยันต์ในอากาศตัวอักษร(护送)เพื่อคุ้มกัน เตรียมเปิดศึกกับแม่ทัพใหญ่
"ช้าก่อนเจ้าเด็กน้อย ข้าจะใช้มือเปล่าสู้กับเจ้าเฉินฟูฟู่ ส่วนเจ้าเลือกได้เลยว่าจะใช้อาวุธอะไรมาตัดหัวข้า"แต่ในขณะนั้นม้าเร็วโบกสะบัดธงสัญลักษณ์มังกรสวรรค์ลู่ตามลมเสียงดังมาขัดจังหวะและรายงานต่อแม่ทัพใหญ่
"ท่านแม่ทัพหลินฟู่ ท่านอ๋องสามมีบัญชาให้ท่านแม่ทัพกลับเมืองหลวงโดยด่วนขอรับ"
"ท่านอ๋องสามมีเหตุอันใดถึงเรียกตัวข้าด่วนเช่นนี้"
"ข้าน้อยมิทราบได้ท่านแม่ทัพใหญ่"ทหารม้าเร็วก้มหน้า
"เจ้ามันดวงเเข็งจริงๆเฉินฟูฟู่ วันนี้ข้าไม่ว่างเล่นกับเจ้าแล้ว ไปฝึกตนให้ถึงขั้นเบิกฟ้าแล้วมาท้ารบกับข้า ข้าหลินฟู่จะรอเมื่อถึงวันนั้น"แม่ทัพใหญ่ดึงทวนมหาเทพขึ้นมาจากพื้นดิน และกระโดดขึ้นอาชาเหล็ก เพื่อกลับค่ายทหาร และเดินทางกลับเมืองหลวงในทันทีตามบัญชาอ๋องสาม ผู้ที่จะได้ขึ้นครองราชบัลลังก์แทนที่กษัตริย์แคว้นกงเหว่ยที่ประชวรมาเป็นแรมปีและไม่มีรัชทายาทสืบต่อจึงให้อ๋องสามพระอนุชาต่างมารดาว่าราชการแทนจนถึงทุกวันนี้ และไม่แปลกที่แม่ทัพหลินฟู่จะจงรักภักดีถึงขั้นถวายหัว ด้วยเป็นพี่น้องร่วมสาบาน และวางแผนต่างๆให้ได้มาซึ่งอำนาจในราชสำนักแคว้นกงเหว่ย
แม่นางดอกบัวถอนหายใจที่ศึกครั้งนี้ไม่เกิดขึ้น ถึงแม้เฉินฟูฟู่จะบรรลุถึงขั้นสรรพสิ่งและมียันต์เทพคุ้มกัน แต่ยังเทียบไม่ได้กับแม่ทัพหลินฟู่ที่บรรลุถึงขั้นไร้ทิศทาง หากแตกฉานด้วยแล้วเหมือนเอาชีวิตไปปักไว้ที่ปลายทวนมหาเทพ
ชายหนุ่มรีบวิ่งเข้าไปดูอาการนักฆ่าสาว และคารวะท่านฉีสือ และแปลกใจที่ราชสีห์ขนทองทำไมถึงคำรามอยู่ข้างๆเหมือนสัตว์เลี้ยงที่แสนเชื่อง ทั้งสองแยกกายเนื้อออกจากกันแล้วอย่างนั้นหรือ
"พลังแห่งปราชญ์ล้างคำสาปให้ข้าแล้ว สัตว์ยุทธภพตัวนี้มันยอมรับในตัวเจ้าตั้งแต่ที่เจ้าใช้ยันต์คุ้มกันภัยปกป้องมันกับข้าจากพายุดาบของแม่ทัพหลินฟู่ ต่อแต่นี้ไปราชสีห์ขนทองผลึกแก้วสีม่วงจะกลายเป็นสัตว์ยุทธภพของเจ้าโดยสมบูรณ์ ส่วนข้าหมดหน้าที่และคงจะได้กลับพรรคมารเสียที"
"ท่านแม่คงดีใจที่จะได้พบท่านอีกครั้งนะท่านฉีสือ"จอมยุทธ์หนุ่มเอ่ย
"แล้วเถาฟาล่ะท่านฉีสือ"ชิงเหลียนพูดขึ้น
"พวกเจ้าจงพานางไปรักษาที่อารามเฉนเหยาที่นั่นมีโอสถทิพย์ปลุกวิิญญาณ มันจะคืนสติให้กับนาง แต่พวกเจ้าอย่าลืมว่าโอสถทิพย์เป็นโสมพันปีของวิเศษแบบนี้ นักบวชหัวโล้นไม่ยอมให้พวกเจ้าง่ายๆแ่"
"แล้วพวกเราจะต้องทำอย่างไรล่ะท่านฉีสือ"เซียวหูหลี่ร้องถาม
"โปรดวางใจ ฟ้าได้ลิขิตทุกอย่างไว้หมดแล้ว พญามารจะคืนชีพ ยันต์เทวะจะสูญสิ้น มังกรสวรรค์จะคืนสู่ฟ้า"ชายชราผมขาวโผนพูด
"ธิดาแห่งเงามืดมีอยู่จริงหรือไม่ท่านฉีสือ แคว้นกงเหว่ยจะถึงคราวล้มสลายแล้วจริงหรือไม่"แม่นางดอกบัวเอ่ยขึ้น
"เจ้าลองมองขึ้นไปบนฟากฟ้าทางทิศเหนือโน่นสิ"ชายชราชี้นิ้วให้หญิงสาวมองตาม
"นั่นคือดาวประจำเมืองแคว้นเชียงเอ๋อใช่หรือไม่ท่านฉีสือ"
"ใช่แล้ว มันสุกสว่างจนเจ้าน่าจะรู้คำตอบแล้วสินะผู้สืบทอดธิดาเทพแห่งวิหารเจี้ยนถัง"
"แคว้นที่ยิ่งใหญ่ไหนเลยจะยอมปราชัยโดยง่าย แผ่นดินจะต้องลุกเป็นไฟ ชาวบ้านตาดำๆจะต้องล้มตายอีกเท่าไหร่"
"นั่นเป็นเหตุผลที่แม่ทัพหลินฟู่ต้องรีบกลับไปตามคำบัญชาของอ๋องสาม ทุกแคว้นต่างไม่พอใจที่อ๋องสามกุมกำลังทหารและบังคับให้พี่ชายต่างมารดาสละราชสมบัติโดยเร็ววัน ต่างส่งคณะทูตมาเจรจาเพื่อให้อ๋องสามทำตามกฎมณเฑียรบาลแห่งแว่นแคว้น หากกษัตริย์ปกครองเมืองใดขาดซึ่งงานสำเร็จราชการแล้วไซร้ให้แต่งตั้งองค์รัชทายาทสืบต่อราชบัลลังก์ หากไร้ทายาทสืบต่อให้นับลำดับเชื้อพระวงศ์"
"แล้วใครจะสืบต่อราชบัลลังก์ได้ ในเมื่อกษัตริย์แคว้นกงเหว่ยไม่มีรัชทายาทสืบต่ออ๋องสามถึงสำเร็จราชการมาจนทุกวันนี้"เฉินฟูฟู่พูด
"ก็เจ้าไงล่ะ เฉินฟูฟู่ พ่อแท้ๆของเจ้าเป็นขุนนางใหญ่ ส่วนแม่ของเจ้าก็เป็นลูกสาวของเชื้อพระวงศ์มีศักดิ์เหนือกว่าอ๋องสาม แต่สุดท้ายถูกตราหน้าว่ากบฏจึงถูกฆ่ายกครัวในคืนแห่งคำทำนาย รวมถึงเด็กผู้หญิงทุกคนในตระกูลเฉิน ยกเว้นเจ้าเฉินฟูฟู่"ท่านฉีสือผายมือ
"ท่านและธิดาพรรคมารรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้วจึงพาเฉินฟูฟู่กลับไปเพื่อรอเวลา"ชิงเหลียนพูด
"ข้าและหูเหยแอบได้ยินพวกขุนนางที่ร่วมก่อการมายืนซุบซิบกันระหว่างทางพอดีจึงแอบตามไป และช่วยเฉินฟูฟู่ออกมาได้ทัน"
"ข้าเป็นคนของพรรคมารไหนเลยจะกลายเป็นรัชทายาทแคว้นกงเหว่ยไม่มีทาง ข้าไม่เอาด้วยหรอกขอแค่ปายุทธ์ข้าสูงกว่าขั้นสรรพสิ่งได้และไม่มีปายุทธ์ใดๆมาขว้างกันเหมือนทุกคร้ังที่พยายามฝึกให้แตกฉานถึงขั้นไร้ทิศทาง"
"เจ้ารู้หรือไม่ว่าปายุทธ์นั่นเป็นของปรมาจารย์หมิงเวยที่ถูกพญามารไฮ้หลงสาปและผนึกไว้ในรูปปั้นสำนักเทียนหลง และพญามารก็ถูกยันต์เทวะผนึกไว้เช่นกัน ทุกครั้งที่เจ้าผึกวิชามารจะมีลมปามาสะกัดกั้นไว้ และเหตุผลนี้แม่บุญธรรมของเจ้าจึงแอบสร้างห้องลับให้เจ้าฝีกตนจนบรรลุถึงขั้นสรรพสิ่งในเวลาเพียงไม่กี่ปี คนในพรรมารจะรู้เพียงแค่เจ้าไปซุกซนก่อเรื่อง ไร้สาระไปวันๆ และฝึกวิชามารไม่ได้จนต้องส่งตัวออกไปจากพรรคมาร และแม่ทัพหลินฟูฟู่ก็เชื่อจนสนิทใจไม่กล้าไปเอาตัวเจ้ามาจากพรรคมาร"
"แล้วทำไมแม่ทัพหลินฟู่ถึงไม่ไปจับตัวเฉินฟูฟู่มาตั้งแต่ตอนนั้นในเมื่อก็รู้อยู่แก่ไใจว่าเป็นหอกข้างแคร่ล่ะท่านฉีสือ"แม่นางดอกบัวถามต่อ
"แม่ทัพหลินฟูฟู่ครั้งหนึ่งเคยเป็นคนของพรรคมารมาก่อนเคยสาบานไว้ว่าจะจงรักภักดีต่อธิดาพรรคมาร และไม่ทำลายหรือข้องเกี่ยวใดๆอีก ก่อนจะออกไปเพื่อไปรับใช้ราชสำนักแคว้นกงเหว่ย และเป็นแม่ทัพใหญ่จนถึงทุกวันนี้"
"แต่ตอนนี้เฉินฟูฟู่ไม่ได้อยู่ในพรรคมารแล้ว ยิ่งทำให้มีโอกาสที่จะจัดการได้สูงขึ้น แต่ยอมปล่อยไปง่ายๆ แบบนี้ต้องมีแผนบางอย่างแ่ แล้วเถาฟาไปเกี่ยวข้องอะไรด้วยล่ะท่านฉีสือ"
"เถาฟาอยู่ในเหตุการณ์คืนนั้น และเป็นเด็กผู้หญิงเพียงคนเดียวที่รอดตายมาได้ เพราะข้ารับนางเป็นลูกบุญธรรมและพาตัวนางไปฝึกวิชาที่แคว้นเชียงเอ๋อ แต่ธิดาเทพเจี้ยนถางฟาก็ยังยืนยันในคำทำนาย และเชื่อมั่นว่า ธิดาหมิงหวังยังมีชีวิตอยู่ และจะนำพาให้แคว้นกงเหว่ยต้องพินาศย่อยยับ แม่ทัพหลินฟู่จึงสนใจในตัวนางเป็นพิเศษ หากแคว้นกงเหว่ยพินาศ นั่นหมายถึงอำนาจนั้นต้องหมดไปด้วย"
"เรื่องราวมันเชื่อมโยงกันจนเป็นปมพันกันัไปหมด แล้วใครจะแก้ปมเหล่านี้ได้หมดล่ะท่านฉีสือ"เซียวหูหลี่พูด
"เจ้าเองก็เป็นอีกปมหนึ่งที่จะส่งผลต่อเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่นานนะเซียวหูหลี่"จิ้งจอกสาวไม่กล้าสบตาด้วยเรื่องที่ผ่านมาดูเหมือนชายชราผมขาวจะทราบเรื่องดี
"แล้วเจ้าล่ะเฉินฟูฟู่มีเรื่องอะไรจะบอกข้าหรือไม่"
"ข้า..ไม่มี"เสียงพูดตะกุกตะกักของชายหนุ่มจนชิงเหลียนทำหน้าสงสัย
"แต่เอาเถอะ เทพเทียนหลงได้กำหนดชะตากรรมของพวกเจ้าไว้แล้ว มีใครจะถามอะไรข้าอีกไหม พวกเจ้าควรรีบเดินทางก่อนฟ้าสาง แม่ทัพหลินฟู่ อาจส่งทหารย้อนกลับมาจัดการพวกเจ้าได้ และรองแม่ทัพเงาก็ยังแค้นพวกเจ้าอยู่ไม่ใช่น้อย ส่วนข้าจะเดินทางกลับพรรคมารเพื่อส่งข่าวให้หูเหยและหาทางช่วยพวกเจ้าอีกทาง แม่ทัพใหญ่ต้องส่งคนมาจับตัวเถาฟาเป็นแ่ รวมถึงผู้ฝึกตนที่ไม่ต้องการตัวธิดาหมิงหวังมีลมหายใจอยู่ในโลกใบนี้"พอการสนทนาจบลงไม่นานลางบอกเหตุก็มาในทันที
ราชสีห์ขนทองคำรามสอดส่ายสายตาไปทั่วสารทิศเสมือนสัมผัสกับปาพลังที่ไม่ใช้ผู้ฝึกตน ทุกคนต่างเฝ้าระวังและคุ้มกันเถาฟา ปรมาจารย์นักฆ่าฉีสือหงายมือแล้วบรรจงใช้นิ้วดีดก้อนหินบนฝ่ามือไปตามทิศทางลมจนเกิดเสียงปะทะและแหลกเป็นผงธุลี
"มารผจญ ดูดพลังวิญญาณผู้ฝึกตน มันคงตามกลิ่นมาเพื่อแตกฉานวิชามาร"
"แล้วท่านรู้ได้อย่างไร"เซียวหูหลี่ร้องถาม
"มันแอบดูดพลังวิญญาณและอยู่ใกล้เถาฟามากที่สุด และนางก็เป็นคนเดียวที่พลังวิญญาณอ่อนแอที่สุด พวกเจ้าคุ้มกันนางให้ดี"
ชายชราไม่รอช้าหยิบใบไม้และแนบริมฝีปากหลับตาบรรเลงท่วงทำนองจนสายลมนำพาฝูงจักจั่นเรไร ฝูงผื้ง และแมลงปีกแข็งนานาชนิดบินโถมเข้าหาจุดหมาย
14/04/65
WS-MARS
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??